ประปานครพิษณุโลก เร่งกู้วิกฤตแม่น้ำน่านขุ่นแดงผิดปกติ กระทบคุณภาพน้ำ

เทศบาลนครพิษณุโลก เร่งแก้ไขปัญหาแม่น้ำน่านขุ่นแดงผิดปกติ ค่าพุ่งสูงถึง 6000 NTU ซึ่งค่าความขุ่นสูงขึ้นเรื่อย ๆ ส่งผลกระทบกับการผลิตน้ำประปาในเขตเทศบาลนครพิษณุโลก เจ้าหน้าที่ เตรียมลดปริมาณจ่ายน้ำลง เพื่อให้เวลาน้ำได้ตกตะกอน แต่อาจส่งผลกระทบ ทำให้พื้นที่ปลายน้ำ น้ำประปาไหลอ่อน จึงขอความร่วมมือประชาชนใช้น้ำอย่างประหยัดจนกว่าจะพ้นวิกฤต

3 ตุลาคม 2568 - ผู้สื่อข่าวรายงาน ที่ฝ่ายผลิตกองการประปา เทศบาลนครพิษณุโลก ต.หัวรอ อ.เมือง จ.พิษณุโลก นางปิยนารถ ศิริเจริญพันธุ์ รองนายกเทศมนตรีนครพิษณุโลก นายบุญเสริม แพโต รองประธานสภาเทศมนตรีนครพิษณุโลก โดยมี นายศุภกร อินเลื่อมใส หัวหน้างานผลิตกองการประปา เทศบาลนครพิษณุโลก ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบระบบผลิตน้ำประปาของเทศบาลนครพิษณุโลก หลังพบปัญหาสำคัญแม่น้ำน่านขุ่นแดงผิดปกติ ค่าพุ่งสูงถึง 6000 NTU ค่าความขุ่นสูงขึ้นอย่างน่าตกใจ ส่งผลต่อคุณภาพของแหล่งน้ำดิบในการผลิตน้ำประปา ทำให้น้ำประปาช่วงนี้ขุ่นแดง

นายศุภกร อินเลื่อมใส หัวหน้างานผลิตกองการประปา เทศบาลนครพิษณุโลก กล่าวว่า เนื่องจากค่าความขุ่นของแม่น้ำน่าน รอบนี้สูงกว่ารอบที่ผ่านๆมา โดยครั้งนี้จากข้อมูลกองการประปา แจ้งว่า ค่าความขุ่นพุ่งสูงมากกว่า 6,000 NTU ซึ่งมีผลต่อการควบคุมคุณภาพน้ำประปา ที่ต้องควบคุมตามค่ามาตรฐานอยู่ที่ 5 NTU เพื่อปล่อยน้ำประปาที่มีความใสออกไปยังบ้านเรือนของประชาชน แต่ทั้งนี้เมื่อคุณภาพน้ำดิบที่นำมาผลิตน้ำประปาขุ่นมากเป็นพิเศษแบบนี้ ทางเทศบาลนครพิษณุโลก จำเป็นต้องปล่อยน้ำประปาที่ยังมีความขุ่นแดงบ้างออกไป เพื่อให้ประชาชนได้มีน้ำประปาใช้

“เราพยายามควบคุมคุณภาพให้ดีที่สุด ซึ่งเราเจอปัญหาน้ำมีค่าความขุ่น พุ่งสูงถึง 6000 NTU ตั้งแต่วันที่ 2 ตุลาคม แต่กองการประปาไม่ได้ลดกำลังการผลิตลง ซึ่งคาดว่าวันนี้เราจะเริ่มลดกำลังการผลิตลง จนกว่าจะควบคุมคุณภาพมาตรฐานได้เป็นที่น่าพอใจ และทำให้การใช้น้ำประปากลับมาเป็นปกติเหมือนเดิม สำหรับกำลังการผลิตน้ำประปาปกติอยู่ที่ 2,800 - 3,800 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง ถ้าต้องลดลงเหลืออยู่ที่ 2,500 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง อาจส่งผลกระทบในส่วนพื้นที่ปลายน้ำ เช่นโซนพื้นที่ตำบลบึงพระ และ โซนตำบลบ้านคลอง ซึ่งอยู่ห่างจากสถานีผลิตน้ำ น้ำประปาจะไหลอ่อน คาดว่าเทศบาลนครพิษณุโลกจะสามารถกู้วิกฤตคุณภาพน้ำประปาให้กลับคืนสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด”

ด้านข้อมูลจากกรมอนามัยและองค์การอนามัยโลก (WHO) กำหนดค่าความขุ่นของน้ำดื่มไม่ควรเกิน 5 NTU เท่านั้น เพื่อให้สามารถฆ่าเชื้อโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากความขุ่นสูงเกินไป อาจทำให้จุลินทรีย์หลบซ่อนอยู่ในอนุภาคแขวนลอย ส่งผลต่อความปลอดภัยในการบริโภค นอกจากนี้ยังเพิ่มต้นทุนการใช้สารเคมีบำบัดน้ำ และลดอายุการใช้งานของเครื่องกรองน้ำความขุ่นของน้ำ คือ ความมัวที่เกิดจากอนุภาคแขวนลอยในน้ำ โดยค่าที่ใช้วัดมาตรฐานทั่วไปมีดังนี้: น้ำใส: ไม่เกิน 25 NTU /น้ำขุ่นปานกลาง: 25 – 100 NTU /น้ำขุ่นมาก: เกิน 100 NTU /ดังนั้นระดับ 4,500 NTU จึงจัดอยู่ในเกณฑ์ "ขุ่นจัดอย่างรุนแรง" ซึ่งต้องอาศัยกระบวนการบำบัดที่เข้มข้นกว่าปกติอย่างมาก

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เจ้าพระยาล้นตลิ่ง! ท่วมหน้าจวนผู้ว่าฯชัยนาท ร้านอาหารริมน้ำอ่วม

สถานการณ์น้ำท่วมจังหวัดชัยนาทขยายวงกว้างมากขึ้น เนื่องจากปริมาณน้ำด้านเหนือเขื่อนเจ้าพระยา มีปริมาณเพิ่มขึ้นเป็น 3,400 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

พยากรณ์ 10 วันล่วงหน้า ฝนลดลง เตรียมรับลมหนาวได้เลย

กรมอุตุนิยมวิทยา อัปเดตผลการพยากรณ์ฝนสะสมรายวัน (ทุกๆ 24 ชม.:(นับตั้งแต่ 07.00น. ถึง 07.00น.วันรุ่งขึ้น) และลมที่ระดับ 850hPa (1.5 กม.)10 วันล่วงหน้า ระหว่าง 10-19 พ.ย. 68

อุตุฯ เตือนฝนฟ้าคะนอง 34 จังหวัด ยัน 'ไต้ฝุ่นฟงวอง' ไม่เข้าไทย

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง เนื่องจากหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมด้านตะวันตกของภาคเหนือและประเทศเมียนมา

สั่งเร่งผลักดันน้ำพื้นที่ทุ่งเจ้าพระยา คาดโทษผู้ว่าฯเยียวยาล่าช้า

“บิ๊กอดุล” สั่งเร่งผลักดันน้ำ 58 จุดออกจากพื้นที่ทุ่งเจ้าพระยาฝั่งตะวันออก รัฐบาลจ่าย 9 พันบาทต่อครัวเรือนทุก 7 วัน คาดโทษผู้ว่าฯ หากเยียวยาผู้ประสบภัยล่าช้า

ข่าวดีสะพานป่าโมกเปิดการจราจรได้แล้วหลังเจอปัญหาน้ำท่วม

สะพานป่าโมกเปิดการจราจรได้แล้ว แบบสวนเลนส์ ฝั่งเข้าตลาดไปป่าโมก หลังเจ้าหน้าที่กู้สถานการณ์น้ำลอดพังไหลทะลัก เข้าท่วมถนนเส้น 33 ป่าโมก-สุพรรณบุรี และตลาดป่าโมก ด้านเจ้าหน้าที่เร่งวางบิ๊กแบ็ก และแบร์ริเออร์เพื่อให้กลับสภาพปกติโดยเร็ว