"น้องหมิว" วัย 29 ปี บัณฑิตร่างจิ๋ว ที่เคยได้รับพระราชทานทุนการศึกษาจาก "สมเด็จพระพันปีหลวง" จบระดับปริญญาตรีเกียรตินิยม เผยความในใจได้รับสิทธิคนละครึ่งพลัสเป็นครั้งแรก เพราะทั้งครอบครัวมี น้องหมิวเพียงคนเดียวที่ได้รับ ส่วนพ่อกับพี่ชายได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยสัญญาว่าจะซื้อสิ่งของที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตในครอบครัว เชื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในบ้านได้เป็นอย่างดี
1 พฤศจิกายน 2568 - ทีมข่าวได้เดินทางไปพบกับ ‘น้องหมิว’ น.ส.วราภรณ์ สร้อยเสน วัย 29 ปี ชาวอำเภอสตึก จ.บุรีรัมย์ อดีตบัณฑิตร่างจิ๋ว ที่เคยได้รับพระราชทาน ทุนการศึกษาจาก ‘สมเด็จพระพันปีหลวง’ และเรียนจบระดับปริญญาตรีเกียรตินิยม และถูกนำเสนอเรื่องราวชีวิตของเธอผ่านสื่อสารมวลชนทุกแฟลตฟอร์ม จนเป็นที่โด่งดัง เพราะได้สร้างแรงบันดาลใจในการต่อสู้ชีวิตให้กับใครต่อหลายคนมาแล้ว
โดยในวันนี้ น.ส.วราภรณ์ หรือน้องหมิว อดีตบัณฑิตร่างจิ๋ว ได้ออกมาบอกถึงความรู้สึกที่ได้รับสิทธิ์ในโครงการคนละครึ่ง ว่าถือเป็นครั้งแรกที่ตนเองได้รีบสิทธิ์ ในโครงการคนละครึ่งพลัส ก็รู้สึกดีใจและตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เนื่องจากโครงการคนละครึ่งครั้งที่ผ่านมา ตนก็ไม่ได้เพราะไม่ได้สมัคร รวมถึงบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรคนจน ตนก็ไม่ได้ โดยทั้งครอบครัวของตนมีทั้งหมด 5 คน พ่อ แม่ พี่ชาย ตน และน้องสาว โดยพ่อกับพี่ชายได้รับสิทธิ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2 คนเท่านั้น
น.ส.วราภรณ์ หรือน้องหมิว อดีตบัณฑิตร่างจิ๋ว บอกต่อว่า พอมารัฐบาลชุดนี้ได้มีโครงการคนละครึ่งพลัส ปรากฏว่าทั้งบ้านมีตนเพียงผู้เดียวที่ได้รับสิทธิ์คนละครึ่งพลัส โดยพ่อซึ่งมีอายุเกิน 60 แล้ว กับพี่ชายที่มีร่างกายพิการไม่ต่างจากตนก็ได้รับสิทธิ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ส่วนแม่ก็ไม่มีโทรศัพท์ และน้องสาวก็อายุไม่ถึงเกณฑ์จึงไม่ได้รับสิทธิ์ในโครงการคนละครึ่งพลัส ก็ต้องขอขอบคุณรัฐบาล ที่ได้มีโครงการคนละครึ่งพลัสนี้ขึ้นมา เพราะอย่างน้อยสำหรับครอบครัวของผู้ที่มีฐานะยากจน และผู้ที่มีรายได้น้อย จะได้สามารถนำไปใช้จ่ายในครอบครัวให้เกิดประโยชน์ ซื้อของเข้าบ้านทั้งของกินของใช้ และสิ่งของจำเป็นในการดำรงชีวิตประจำวัน ให้คุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด
พร้อมกันนี้ น.ส.วราภรณ์ หรือน้องหมิว อดีตบัณฑิตร่างจิ๋ว ยังได้ฝากถึงประชาชนที่ได้รับสิทธิ์โครงการคนละครึ่งพลัสด้วยว่า อยากจะฝากให้นำเงินส่วนนี้ไปซื้อของใช้ที่เกิดประโยชน์สูงสุดในบ้าน เพราะอย่างน้อยก็ยังช่วยประหยัด และแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในบ้านได้เป็นอย่างดี.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ครอบครัว 'จ่าเริง' ทหารกล้า ทำใจแล้วนำร่างกลับยาก ติดบนเนิน 350 นาน 4 วันแล้ว
แม่และพี่สาวจ่าเริง นักรบพลีชีพรับสภาพได้แล้วว่าการนำร่างกลับมายากลำบากเพราะอยู่ในสนามรบ ระบุจ่าเริงคงอยากให้ทางบ้านทำใจได้ก่อนจึงจะกลับมา ตอนนี้ภูมิใจที่คนทั้งประเทศแห่ให้กำลังใจ ร่างจะมาตอนไหนขึ้นอยู่กับโอกาส เห็นใจเจ้าหน้าที่ต้องทำงานหนัก
เสียงปืนเขมรเบาลงครั้งแรกในช่วง 12 วันสู้รบ พบลูกจรวดเกลื่อนไร่ยางพารา
เสียงปืนฝั่งเขมรหยุดลงครั้งแรกในรอบ 12 วัน จนท.เร่งลงพื้นที่ตรวจสอบพื้นที่โดยรอบ พบลูกจรวดปืนใหญ่ตกใส่ไร่ยางพาราเป็นจำนวนมาก มีทั้งแตกและไม่แตก ระบุเขมรหันกระบอกปืนมาทางพลเรือนของไทย
ไฟแนนซ์โทรทวงค่างวดผู้อพยพ-ชรบ.ชายแดน ต้องหายืมเงินไปจ่าย โอดสู้รบยืดเยื้อ
การสู้รบระหว่างทหารไทยกับกัมพูชา ที่ยืดเยื้อเข้าสู่วันที่ 12 แล้ว และยังไม่มีใครให้คำตอบได้ว่าการสู้รบจะจบลงวันไหน ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน
กยท.เตรียมงบกว่า 2 พันล้าน เยียวยาชาวสวนยางได้รับผลกระทบสู้รบชายแดน
การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เตรียมทุ่มงบกว่า 2,000 ล้าน ช่วยเหลือชาวสวนยาง 9 จังหวัด ที่ไม่สามารถออกไปกรีดยางได้ตามปกติ และได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา รายละ 3,000 บาท รวมสวนยางเสียหายกว่าล้านไร่
วัว-ควายช็อกตายแล้ว 6 ตัว ชาวบ้านคาดเสียงปืนดังตลอดทำสัตว์หัวใจวาย ไม่พบบาดแผล
เสียงปืนปะทะกันของทหารสองฝ่าย ทำให้สัตว์เลี้ยง วัว-ควายของชาวบ้านช็อกตายแล้ว 6 ตัว ชาวบ้านระบุเป็นเพราะมีการยิงกันตลอดเวลาทำให้วัวควายหัวใจวาย อยากให้จบและไม่อยากให้ประเทศที่ 3 เข้ามายุ่งเกี่ยว
ออมสิน ย้ำโค้งสุดท้าย! ร้านค้า’คนละครึ่ง พลัส’ รีบลงทะเบียนอัปสกิล
ออมสิน ย้ำโค้งสุดท้าย! ร้านค้า “คนละครึ่ง พลัส” รีบลงทะเบียนอัปสกิลที่ www.gsb.or.thรับสิทธิ์พลัสสูงสุด 2,000 บาท/ราย ภายใน 19 ธ.ค. นี้

