เกิดเหตุระทึก ลุง วัย 62 ชาว อ.โนนสุวรรณ จ.บุรีรัมย์ ขี่ จยย.พ่วงข้างข้ามฝายน้ำล้นจะกลับบ้าน ถูกกระแสน้ำซัดตกทั้งรถทั้งคน เคราะห์ดีขาติดซอกปูนแตก วัยรุ่นที่เห็นเหตุการณ์แจ้งกู้ภัยฯ ช่วยท่ามกลางกระแสน้ำไหลเชี่ยวจนลุงที่ประสบเหตุอ่อนแรง ใช้เวลานานกว่า 1 ชม. จึงสามารถช่วยขึ้นมาได้ พบสภาพอ่อนเพลียมีแผลที่ขาทั้งสองข้าง รีบนำส่ง รพ. ลูกสาวเผยนึกว่าพ่อจะไม่รอดขอบคุณทุกคนชีวิตพ่อ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. คืนวันที่ 3 พ.ย.68 ที่ผ่านมา หน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรม จุดอำเภอโนนสุวรรณ จังหวัดบุรีรัมย์ ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีเหตุชายสูงอายุขี่จักรยานยนต์พ่วงข้าง (ซาเล้ง) ข้ามฝายน้ำล้นท่ามกลางกระแสน้ำไหลเชี่ยวแรง ได้ถูกกระแสน้ำพัดตกน้ำทั้งรถและคน แต่เคราะห์ดีที่ขาของผู้ประสบเหตุไปติดคาซอกปูนที่แตก ยังไม่ถูกกระแสน้ำพัดจมหายไป
จากนั้นหน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรมจุดโนนสุวรรณ พร้อมหน่วยกู้ชีพองค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งจังหัน พร้อมอุปกรณ์ ได้เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุตามที่ได้รับแจ้ง
ที่เกิดเหตุเป็นฝายน้ำล้น ท้ายหมู่บ้านบ้านใหญ่ ต.ทุ่งจังหัน อ.โนนสุวรรณ พบชายสูงอายุ ทราบชื่อคือนายสมศักดิ์ บุญศรี อายุ 62 ปี ชาวบ้านหัวทรัพย์ ต.ทุ่งจังหัน อ.โนนสุวรรณ ตกอยู่ตรงซอกปูนด้านล่างฝายท่ามกลางกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวพัดที่ลำตัวตลอดเวลา มีเพียงศรีษะโผล่พ้นน้ำสภาพอ่อนแรง จากนั้นหน่วยกู้ภัยที่สวมเสื้อชูชีพป้องกันอันตราย ได้ใช้เชือกผูกกับสะพานแล้วโรยตัวลงไปช่วยเหลือลุงสมศักดิ์ ซึ่งก็เป็นไปด้วยความทุลักทุเล เพราะต้องหาวิธีนำขาของลุงที่ติดอยู่ออกจากซอกปูนออกอย่างระมัดระวัง ประคองศรีษะไม่ให้กระแทก ท่ามกลางกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวแรง และความมืด โดยใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง จึงสามารถช่วยเหลือนำตัวคุณลุงขึ้นจากฝายได้สำเร็จ โดยคุณลุง อยู่ในสภาพอ่อนเพลีย และมีแผลที่ขา จึงได้รีบนำตัวส่ง รพ.โนนสุวรรณ
ล่าสุดวันนี้ (4 พ.ย.68) ทีมข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุที่บริเวณฝายน้ำล้น ท้ายหมู่บ้านบ้านใหญ่ พบกระแสน้ำยังไหลเชี่ยวแรงเนื่องจากมีฝนตกติดต่อกันหลายวัน ส่วนลุงสมศักดิ์ ผู้ประสบเหตุพลัดตกฝายน้ำล้น ยังรักษาตัวที่โรงพยาบาลโนนสุวรรณ พ้นขีดอันตรายแล้วแต่ยังต้องรอดูอาการอีก 1-2 วัน เนื่องจากยังอ่อนเพลีย
จากการสอบถามนายปรัชญ์ ประเสริตสังข์ อาสากู้ภัยสว่างจรรยาฯ จุดอำเภอโนนสุวรรณ เล่าว่า ได้รับแจ้งเหตุคนพลัดตกฝายน้ำล้นประมาณ 20.00 น. จึงพร้อมด้วยอาสาอีก 4 – 5 คน รีบไปยังที่เกิดเหตุ เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ เมื่อไปถึงก็พบชายสูงอายุที่ประสบเหตุตกลงไปในฝายน้ำล้น โดยที่ขาติดอยู่ซอกปูน เบื้องต้นชาวบ้านจึงได้นำรถไถไปจอดขวางทางน้ำไว้ เพื่อลดกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวลง จากนั้นก็ใช้เชือกผูกแล้วโรยตัวลงไปช่วยเหลือคุณลุง โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จึงสามารถช่วยขึ้นมาได้สำเร็จ พบมีอาการอ่อนเพลียใกล้หมดแรง และมีแผลที่ขาทั้งสองข้าง จึงรีบนำตัวส่ง รพ.
ซึ่งการช่วยเหลือเคสนี้ค่อนข้างทุลักทุเลเพราะกระแสน้ำไหลเชี่ยวอาจเกิดอันตรายทั้งกับตัวผู้ประสบเหตุ และทีมอาสาได้ จึงต้องใช้ความระมัดระวังมาก ก็โชคดีที่ช่วยเหลือได้อย่างปลอดภัย ก็อยากฝากเตือนภัยสำหรับคนที่จะขับผ่านฝายน้ำล้นต่างๆ ช่วงนี้ หากหลีกเลี่ยงได้ควรหลีกเลี่ยง เพราะมีน้ำหลากและไหลเชี่ยว อาจเกิดอันตรายพลัดตกได้
ด้านนางสาวสุกัญญา บุญศรี อายุ 42 ปี ลูกสาว เล่าว่า วันเกิดเหตุพ่อกำลังจะขับซาเล้งกลับบ้าน ซึ่งต้องขับผ่านฝายน้ำล้น ซึ่งเมื่อก่อนก็ขับผ่านปกติ แต่เมื่อคืนกระแสไหลเชี่ยวแรงมาก ก็เกิดพลัดตกลงไปในน้ำ พอตนทราบก็รีบออกไปดูพ่อ ตอนนั้นเห็นพ่อเหมือนจะหมดแรง เพราะถูกกระแสน้ำซัดตลอด แต่โชคดีที่ขายังติดซอกปูนที่แตกอยู่ ก็มีชาวบ้านนำรถไถไปจอดขวางกระแสน้ำไว้ ก่อนที่หน่วยกู้ชีพกู้ภัย จะลงไปช่วย ก็ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จึงช่วยได้สำเร็จทำให้พ่อรอดชีวิตมาได้ เพราะถ้าถูกกระแสพัดจมลงไปอาจจะไม่รอด ก็ขอบคุณทุกคนที่ช่วยชีวิตพ่อ พอพ่อได้สติก็เล่าให้ฟังว่าตอนที่ตกลงไปถูกกระแสน้ำซัดเหมือนกันหลับไปแล้วฝันว่าถูกน้ำพัดจม มีกู้ภัยฯ มาช่วย จากนั้นก็มารู้สึกตัวที่ รพ. หลังจากพ่อออกจาก รพ. ก็จะพาไปทำบุญสะเดาะเคราะห์ตามความเชื่อด้วย.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ครอบครัว 'จ่าเริง' ทหารกล้า ทำใจแล้วนำร่างกลับยาก ติดบนเนิน 350 นาน 4 วันแล้ว
แม่และพี่สาวจ่าเริง นักรบพลีชีพรับสภาพได้แล้วว่าการนำร่างกลับมายากลำบากเพราะอยู่ในสนามรบ ระบุจ่าเริงคงอยากให้ทางบ้านทำใจได้ก่อนจึงจะกลับมา ตอนนี้ภูมิใจที่คนทั้งประเทศแห่ให้กำลังใจ ร่างจะมาตอนไหนขึ้นอยู่กับโอกาส เห็นใจเจ้าหน้าที่ต้องทำงานหนัก
เสียงปืนเขมรเบาลงครั้งแรกในช่วง 12 วันสู้รบ พบลูกจรวดเกลื่อนไร่ยางพารา
เสียงปืนฝั่งเขมรหยุดลงครั้งแรกในรอบ 12 วัน จนท.เร่งลงพื้นที่ตรวจสอบพื้นที่โดยรอบ พบลูกจรวดปืนใหญ่ตกใส่ไร่ยางพาราเป็นจำนวนมาก มีทั้งแตกและไม่แตก ระบุเขมรหันกระบอกปืนมาทางพลเรือนของไทย
ไฟแนนซ์โทรทวงค่างวดผู้อพยพ-ชรบ.ชายแดน ต้องหายืมเงินไปจ่าย โอดสู้รบยืดเยื้อ
การสู้รบระหว่างทหารไทยกับกัมพูชา ที่ยืดเยื้อเข้าสู่วันที่ 12 แล้ว และยังไม่มีใครให้คำตอบได้ว่าการสู้รบจะจบลงวันไหน ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน
ฝนเริ่มซา เทศบาลหาดใหญ่ขึ้นธงเขียว สถานการณ์น้ำเข้าสู่ภาวะปกติ
ภายหลังเมื่อวานนี้ (18 ธ.ค. 68) มีฝนตกลงมาต่อเนื่องตลอดทั้งวัน ส่งผลให้เทศบาลนครหาดใหญ่ต้องประกาศระดับการแจ้งเตือน “ยกธงเหลือง” ในหลายจุดเสี่ยงน้ำท่วม อาทิ ถนนสามสิบเมตร ถนนศุภสารรังสรรค์ ถนนธรรมนูญวิถี ถนนประชาธิปัตย์
กยท.เตรียมงบกว่า 2 พันล้าน เยียวยาชาวสวนยางได้รับผลกระทบสู้รบชายแดน
การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เตรียมทุ่มงบกว่า 2,000 ล้าน ช่วยเหลือชาวสวนยาง 9 จังหวัด ที่ไม่สามารถออกไปกรีดยางได้ตามปกติ และได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา รายละ 3,000 บาท รวมสวนยางเสียหายกว่าล้านไร่
อุตุฯ เตือนอากาศเย็น อุณหภูมิลด 1-2 องศา ใต้ฝนตกหนัก
กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้าว่า ประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลงอีก 2 องศาเซลเซียส เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็น

