ไฟแนนซ์โทรทวงค่างวดผู้อพยพในศูนย์พักพิง และ ชรบ.ชายแดน จ.บุรีรัมย์ ที่ยังทำหน้าที่ดูแลบ้านเรือนให้ชาวบ้านในพื้นที่สีแดง จนต้องวิ่งหยิบยืมเงินวุ่นรีบนำไปจ่ายกลัวถูกยึดรถ เพราะการสู้รบยืดเยื้อกว่า 10 วัน ทำให้ไม่มีรายได้ บางคนขนอุปกรณ์มาให้บริการทำเล็บในศูนย์พักพิง เพื่อหาเงินจ่ายค่าเช่าบ้าน
19 ธันวาคม 2568 - การสู้รบระหว่างทหารไทยกับกัมพูชา ที่ยืดเยื้อเข้าสู่วันที่ 12 แล้ว และยังไม่มีใครให้คำตอบได้ว่าการสู้รบจะจบลงวันไหน ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน ที่อพยพเข้ามาอยู่ในศูนย์พักพิงแห่งหนึ่ง ในจังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งมีผู้อพยพลี้ภัยหลายพันคน ก็เริ่มมีความเครียด เนื่องจากไม่สามารถกลับไปประกอบอาชีพทำมาหากินได้ ทำให้ขาดรายได้มาเกือบ 2 สัปดาห์
หลายคนถูกเจ้าหนี้และไฟแนนซ์โทรศัพท์ทวงค่างวดรถยนต์ รถจักรยานยนต์ทั้งที่อยู่ในศูนย์พักพิง ยังไม่สามารถออกไปทำมาหากินได้ จึงเกิดความเครียดเพราะไม่รู้จะหาเงินที่ไหนไปจ่ายค่างวดรถ เพราะไม่ได้ทำมาหากินมากว่า 10 วันแล้ว ส่วนเงินที่มีก็ใช้จ่ายในช่วงอพยพเกือบหมดแล้ว ขณะที่ ชรบ.บางคนซึ่งเป็นแนวหลังทำหน้าที่ดูแลความเรียบร้อย บ้านเรือน ทรัพย์สิน และสัตว์เลี้ยง ให้กับผู้อพยพอยู่ในพื้นที่สีแดง ก็ถูกโทรทวงค่างวดรถเช่นกัน ก็ต้องหาหยิบเงินจากญาติคนรู้จักเพื่อนำไปจ่ายก่อน เพราะกลัวจะถูกยึดรถซึ่งเป็นยานพาหนะที่ไว้ใช้ประกอบอาชีพ ก็จะยิ่งเดือดร้อนมากกว่าเดิม หากเป็นไปได้ก็อยากให้ทางไฟแนนซ์หรือเจ้าหนี้ ช่วยผ่อนผันหรือขยายเวลาชำระหนี้ เพื่อลดผลกระทบให้กับชาวบ้านชายแดนด้วย เพราะไม่รู้ว่าการสู้รบจะจบเมื่อไหร่แล้วจะได้กลับไปทำมาหากินเป็นปกติวันไหน
น.ส.สิรินทร์ อายุ 40 ปี ชาว อ.บ้านกรวด บอกว่า เมื่อวานมีพนักงานไฟแนนซ์โทรศัพท์มาทวงถามค่างวดรถยนต์กับตนเอง ซึ่งตนก็แจ้งไปว่ายังลี้ภัยสงครามอยู่ในศูนย์พักพิง ไม่ได้กรีดยางมาเกือบ 2 สัปดาห์แล้วยังไม่สะดวกที่จะชำระ แต่เขาก็ไม่ได้บอกว่าจะผ่อนผันให้หรือไม่ จากนั้นเขาก็โทรไปทวงกับสามีตนเองซึ่งเป็น ชรบ. ดูแลความเรียบร้อยอยู่ในพื้นที่สีแดง ทำให้สามีเกิดความกังวลจึงต้องหาหยิบยืมเงินจากญาติพี่น้อง เพื่อนำไปจ่ายค่างวดรถเดือนละ 7,600 กว่าบาท เพราะหากไม่จ่ายก็กลัวจะถูกยึดรถ
ยอมรับว่าเดือดร้อนมากเพราะไม่ได้กรีดยางตั้งแต่มีการสู้รบก็ขาดรายได้ แต่หากได้กรีดยางก็จะมีเงินไปจ่ายงวดรถไม่ต้องหยิบยืมคนอื่น ก็อยากให้สถานการณ์จบลงโดยเร็ว จะได้กลับไปทำมาหากินเป็นปกติ มีเงินใช้จ่ายในครอบครัว และชำระหนี้ ทั้งนี้ก็อยากรัฐบาลช่วยเหลือเยียวยาผลกระทบด้วย
ด้าน น.ส.สุภาพร ชาว อ.บ้านกรวด บอกว่า ตนมีอาชีพทำสวนยางพารา ส่วนสามีรับจ้างทั่วไป แต่หลังจากที่มีการสู้รบก็ไม่ได้กรีดยาง และสามีก็ไม่ได้ออกไปรับจ้างเลย รายได้ไม่มีเลย เงินที่พอมีเก็บบ้างก็นำมาใช้จ่ายช่วงอพยพเกือบหมดแล้ว เพราะมีภาระลูกน้อย 3 คน อายุ 4 ขวบ 7 ขวบ และ 8 ขวบ และวันที่ 25 ของทุกเดือนก็ต้องจ่ายค่างวดรถ ก็ยังไม่รู้จะหาเงินที่ไหนไปจ่ายเพราะไม่มีรายได้เข้าเลย หากเป็นไปได้ก็อยากให้ทางไฟแนนซ์ผ่อนผันหรือขยายการชำระหนี้ออกไปหน่อย เพราะยังไม่รู้ว่าการสู้รบจะจบเมื่อไหร่และจะได้กลับไปทำมาหากินวันไหน
ขณะที่ นางละอองดาว ชาว อ.บ้านกรวด ซึ่งเป็นลูกจ้างร้านเสริมสวย บอกว่า ช่วงที่อพยพมาอยู่ศูนย์พักพิงก็ไม่มีรายได้เลย จึงขออนุญาตเจ้าของร้านนำอุปกรณ์ และสีที่ใช้ในการทำเล็บเจล มาให้บริการทำเล็บให้กับชาวบ้าน และเจ้าหน้าที่ในศูนย์พักพิง พอให้มีรายได้บ้าง เพื่อจะได้มีเงินไปจ่ายค่าเช่าบ้าน เดือนละ 3,000 บาท รวมทั้งซื้ออุปกรณ์การเรียนให้กับลูกตอนที่อพยพกลับบ้านด้วย ซึ่งการนำอุปกรณ์มาทำเล็บในศูนย์พักพิงนอกจากจะมีรายได้ไว้จ่ายค่าเช่าบ้านแล้ว ยังเป็นผ่อนคลายความเครียดให้กับตนเอง และคนในศูนย์ฯ ด้วย เพราะอยู่ในศูนย์มาเกือบ 2 สัปดาห์แล้ว ก็อยากวอนให้รัฐบาลช่วยเยียวยาชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบให้เหมาะสมกับสภาพความเดือดร้อนจริงด้วย.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ไทยมีมนุษยธรรม นำชิ้นส่วนศพทหารเขมร ฝาก รพ. เก็บไว้ แม้กัมพูชาปฏิเสธรับกลับ
ศพทหารกัมพูชาที่ชายแดน ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง หลังกัมพูชาปฏิเสธรับศพทหารตัวเองกลับ กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด เก็บชิ้นส่วนศพทหารเขมร ฝาก รพ.ตราด รอประสานหน่วยงานกัมพูชามารับกลับภายหลัง
เสียงปืนเขมรเบาลงครั้งแรกในช่วง 12 วันสู้รบ พบลูกจรวดเกลื่อนไร่ยางพารา
เสียงปืนฝั่งเขมรหยุดลงครั้งแรกในรอบ 12 วัน จนท.เร่งลงพื้นที่ตรวจสอบพื้นที่โดยรอบ พบลูกจรวดปืนใหญ่ตกใส่ไร่ยางพาราเป็นจำนวนมาก มีทั้งแตกและไม่แตก ระบุเขมรหันกระบอกปืนมาทางพลเรือนของไทย
นายกฯ ทุบโต๊ะ! ประเทศมหาอำนาจกดดันไทยหยุดยิงไม่ได้ ต้องไปบอกฝ่ายกัมพูชา
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณี ที่นายหวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสาธารณรัฐประชาชนชนจีน ได้คุยโทรศัพท์กับนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
กยท.เตรียมงบกว่า 2 พันล้าน เยียวยาชาวสวนยางได้รับผลกระทบสู้รบชายแดน
การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เตรียมทุ่มงบกว่า 2,000 ล้าน ช่วยเหลือชาวสวนยาง 9 จังหวัด ที่ไม่สามารถออกไปกรีดยางได้ตามปกติ และได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา รายละ 3,000 บาท รวมสวนยางเสียหายกว่าล้านไร่
วัว-ควายช็อกตายแล้ว 6 ตัว ชาวบ้านคาดเสียงปืนดังตลอดทำสัตว์หัวใจวาย ไม่พบบาดแผล
เสียงปืนปะทะกันของทหารสองฝ่าย ทำให้สัตว์เลี้ยง วัว-ควายของชาวบ้านช็อกตายแล้ว 6 ตัว ชาวบ้านระบุเป็นเพราะมีการยิงกันตลอดเวลาทำให้วัวควายหัวใจวาย อยากให้จบและไม่อยากให้ประเทศที่ 3 เข้ามายุ่งเกี่ยว
กองทัพภาค 2 รายงานสถานการณ์ 'เนิน 350' ไทยระดมยิงหนัก ทหารเขมรอ่อนล้าอาจต้านไม่ไหว
ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 สรุปสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ประจำวันที่ 18 ธันวาคม 2568 เวลา 12.00 น. ดังนี้

