ป้ายหาเสียงเลือกตั้งผู้ว่าฯ กลยุทธ์ใหม่ซื้อใจคนกรุง

ในที่สุดก็ถึงฤดูกาลการเลือกตั้งที่ชาวกรุงตั้งตารอ นั่นคือการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครที่ห่างหายไปนานถึง 9 ปี หลังจากที่มีการเลือกตัังผู้ว่าฯ กทม. ล่าสุดเมื่อปี 3 มี.ค.2557 ซึ่งการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.มีความสำคัญไม่น้อยกว่าการเลือกตั้ง ส.ส. เพราะตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม.เปรียบเสมือนพ่อเมืองประจำเมืองหลวงของประเทศไทย อันเป็นแหล่งเศรษฐกิจและเป็นศูนย์กลางในการบริหารราชการที่สำคัญของประเทศ รวมถึงเป็นแหล่งขุมทรัพย์ของประเทศ เพราะงบประมาณแต่ละปีที่ กทม.ได้รับนั้นสูงถึง 8 หมื่นล้านบาทต่อปี ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ผู้สมัครแต่ละคนจะพยายามงัดทุกอย่างเพื่อเก้าอี้พ่อเมืองหลวงไปครอง

แต่ในปีนี้แตกต่างออกไป เพราะว่าในการแข่งขันแทบทุกสนามจะใช้นโยบาย หรือบุคคลเป็นจุดสนใจ แต่ครั้งนี้มีเรื่องป้ายหาเสียงที่บางพรรคพยายามเน้นเรื่องนี้เพื่อเป็นจุดสนใจให้คะแนนนิยมของตัวเองเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเรื่องดังกล่าวเกิดเพียงไม่กี่วัน หลังจากที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้เผยแพร่ป้ายหาเสียงของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครหมายเลข 8 ที่นอกจากจะใช้สีเขียวเป็นสีประจำตัวจนชาวโซเชียลแซวกระหึ่มว่าเป็น Hulk

แล้วป้ายหาเสียงของชัชชาติยังเป็นที่สะดุดตา เพราะเป็นป้ายหาเสียงความยาวปกติ แต่ลดขนาดความกว้างลงมาให้เท่ากับเสาไฟฟ้า ท่ามกลางดรามาของผู้สมัครคนอื่นๆ ที่ถูกมองว่าจะมาทำให้กรุงเทพฯ น่าอยู่ แต่ป้ายหาเสียงของผู้สมัครยังสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน

โดยชัชชาติได้อธิบายกลยุทธ์ของเขาว่า "ป้ายหาเสียงในปัจจุบันมีปัญหาหลายอย่าง นอกจากบดบังสายตาสำหรับผู้ขับขี่แล้ว ยังกระทบถึงคนทั่วไปที่ยืนรอรถเมล์ หากหลายคนช่วยทำป้ายหาเสียงให้เล็กลง การหาเสียงจะสะอาดสะอ้านขึ้น หากผู้สมัครคนอื่นจะทำด้วย ก็มองว่าเป็นไอเดียที่หลายคนเริ่มทำแล้วเช่นกัน เพราะทุกคนอาสามาทำให้เมืองดีขึ้น หากช่วยกันได้ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี"

แต่หลังจากนั้นไม่นาน ฝ่ายนักการเมืองคนละขั้วอย่าง เทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กว่า "เมื่อคุณชัชชาติได้ใช้รูปแบบป้ายหาเสียง โดยการติดป้ายขนาดเล็กแนวตั้งบนเสาไฟฟ้า ก็มีการเผยแพร่ผ่านสื่อโซเชียล และมีการแชร์ภาพกันอย่างแพร่หลาย ถือว่าเป็นการวางยุทธศาสตร์ในการหาเสียงมาเป็นอย่างดี และขอชื่นชมทีมงานการหาเสียงว่า ได้หยิบฉวยนำรูปแบบของป้ายหาเสียงมาสร้างเป็นกระแสนิยมให้กับผู้สมัครได้พอสมควร เมื่อเปรียบเทียบกับการติดป้ายหาเสียงของผู้สมัครคนอื่นๆ ที่ติดป้ายแบบหนาแน่นเรียงรายติดต่อกันหลายป้าย จนมีการขยายผลทางโลกโซเชียล นำป้ายหาเสียงของคุณชัชชาติมาเปรียบเทียบกับป้ายหาเสียงผู้สมัครคนอื่นๆ จนได้รับความชื่นชมและคะแนนนิยมจากรูปแบบป้ายหาเสียงในครั้งนี้ได้ไม่น้อย ผมเห็นว่ามีการโพสต์ทวิตเตอร์โชว์รูปภาพป้ายหาเสียงของผู้สมัครพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อปี 2562 ก็เพียงแค่กระตุกเตือนสังคมให้เห็นว่ารูปแบบการหาเสียงโดยการติดป้ายขนาดเล็กบนเสาไฟฟ้าไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้นในการหาเสียงของคุณชัชชาติเท่านั้น ปรากฏการณ์แบบนี้เคยนี้มีมาก่อนหน้านี้แล้ว สังคมจะได้ไม่ต้องตื่นเต้น"

แน่นอนว่า งานนี้ย่อมไม่มีใครยอมใคร ชัชชาติเองก็ไม่ปล่อยให้อีกฝั่งบลัฟเขาแล้วจากไป โดยโต้กลับว่า "ที่ผ่านมาผมไม่เคยพูดว่าผมทำเป็นคนแรก เราทำตามที่คิดว่าเหมาะสมกับการเลือกตั้งในเขตเมือง จึงขออย่าสนใจว่าใครทำก่อน-ทำหลัง หรือเอาป้ายหาเสียงของผมไปเปรียบเทียบกับใคร ซึ่งหากมีใครใช้ป้ายขนาดเล็กเหมือนผมมากๆ มันก็เป็นเรื่องดี จะได้ไม่กีดขวางประชาชน และแสดงให้เห็นว่าเขาเห็นด้วยกับเรา ดังนั้นขออย่านำไปเป็นประเด็นความขัดแย้ง"

อย่างไรก็ตาม การเลือกตั้งครั้งนี้ในทางกฎหมาย คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำท้องถิ่นกรุงเทพมหานครได้ออกประกาศการกำหนดสถานที่ปิดประกาศและติดแผ่นป้ายเกี่ยวกับการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. และ ส.ก. ลงวันที่ 28 มี.ค.2565

โดยสรุปคือให้ผู้สมัครปิดประกาศเกี่ยวกับการหาเสียงเลือกตั้ง จัดทำได้ไม่เกิน 10 เท่าของจำนวนหน่วยเลือกตั้งในเขตเลือกตั้ง และแผ่นป้ายหาเสียงเลือกตั้งไม่เกิน 5 เท่าของจำนวนหน่วยเลือกตั้งในเขตเลือกตั้ง นอกจากนี้กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการปิดประกาศเกี่ยวกับการหาเสียงเลือกตั้ง และติดแผ่นป้ายหาเสียงเลือกตั้งของ ส.ก. จัดทำและปิดประกาศป้ายหาเสียงมีขนาดความกว้างไม่เกิน 30 เซนติเมตร และมีขนาดความยาวไม่เกิน 42 เซนติเมตร จัดทำและติดแผ่นป้ายหาเสียงเลือกตั้ง มีขนาดความกว้างไม่เกิน 130 เซนติเมตร และมีขนาดความยาวไม่เกิน 245 เซนติเมตร

โดยป้ายหาเสียง ของชัชชาติ ที่ลดขนาดป้ายลง นอกจากไม่ใช้พื้นที่เต็มตามจำนวนที่กฎหมายกำหนดแล้ว ยังสอดคล้องนโยบายกรุงเทพฯ สีเขียว โดยได้รับการตอบรับที่ดี ซึ่งผู้สมัครและพรรคการเมืองของไทยส่วนใหญ่ในอดีตอาจไม่ได้ตระหนักมากนัก จนกระทั่งในระยะหลังเริ่มมีการลดขนาดป้ายลง เพื่อรับผิดชอบต่อสังคม ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับกระแสลดภาวะโลกร้อน ลดการใช้ทรัพยากร

ทั้งนี้ ในประเด็นนี้ไม่ว่าใครจะเริ่มก่อนหรือหลังก็ล้วนคือป้ายหาเสียงที่มีคุณภาพทั้งสิ้น แต่ถ้ามองกลับกันป้ายหาเสียงที่ไม่มีคุณภาพมีลักษณะแบบไหน หลักๆ คือป้ายที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินของทางราชการหรือประชาชน กีดขวางทางสัญจร การจราจร เรื่องนี้เห็นได้จากทุกยุคทุกสมัย

ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งระดับชาติไปจนถึงการเลือกตั้ง อบต. ยิ่งในการเลือกตั้งครั้งนี้คงหนีไม่พ้นประเด็นดรามา ที่ป้ายของอดีต ผู้ว่าฯ อัศวิน ขวัญเมือง ปิดประกาศเต็มพื้นที่ฟุตบาทกว่า 11 ป้าย ในแยกแห่งหนึ่งจนบดบังทัศนวิสัย จนโดนทัวร์ลงและต้องปรับแก้ป้ายให้ขนาดเล็กเหมือนที่ ชัชชาติ หรือที่ประชาธิปัตย์ได้ทำ ซึ่งเรื่องนี้อาจจะเกิดจากความสะเพร่าของทีมงานผู้สมัครเอง

สิ่งที่ผู้สมัครต้องพึงสังวรคือ ตัวป้ายนั้นเรียกได้ว่าเป็นตัวแปรสำคัญพอๆ กับนโยบายบนป้าย เพราะนอกจากป้ายจะบ่งบอกวิสัยทัศน์ในการพัฒนาเมืองของผู้สมัครคนนั้นแล้ว ป้ายหาเสียงก็บ่งบอกถึงความเรียบร้อย ความสะอาดได้เหมือนกัน ทำให้ประชาชนที่ยังไม่รู้จะเลือกใครก็ทำให้มีตัวเลือกในหัวขึ้นมาทันใด!.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

จิรุตม์-มณฑลลุ้นผงาดกกต. สีน้ำเงินคุมเสียงข้างมาก7เสือ

เมื่อมีความชัดเจนทางการเมืองว่า “พรรคเพื่อไทย” จะยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ หลังการโหวตร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญวาระ 3 ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นช่วงปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า 2569

'ภัยพิบัติการเมือง เมื่อกฎบริจาค กลายเป็นสนามแข่งพรรคใหญ่'

ในช่วงปลายปี 2568 ซึ่งประเทศไทยกำลังเผชิญกับสถานการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติอย่างน้ำท่วมในหลายพื้นที่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ออกมาชี้แจงแนวทางการบริจาคเงินและสิ่งของเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย

พลิกเกม"น้ำท่วม"สู้ศึกเลือกตั้ง สมรภูมิการเมืองช่วงชิงชัยชนะ

แรงกดดันของสังคมที่มีต่อ "อนุทิน ชาญวีรกูล" นายกรัฐมนตรี หลังเหตุการณ์มหาอุทกภัยที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พุ่งเป้าไปที่ความผิดพลาด บกพร่อง และล่าช้า ในการสั่งการเข้าช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจนทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก

วิกฤตน้ำท่วมทำรัฐบาลรวน อาจป่วนถึงการแก้รัฐธรรมนูญ

วิกฤตในการบริหารสถานการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่ของภาคใต้ โดยเฉพาะที่หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา นอกจากความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนจำนวนมหาศาลแล้ว ยิ่งทำให้รัฐบาลสูญเสียความน่าเชื่อถือในสายตาสาธารณชน

รัฐบาลอ่อนหัด โครงสร้างล้าหลัง ฉุดเชื่อมั่น'อนุทิน-ภท.'จมดิ่งกับน้ำท่วม

วิกฤตมหาอุทกภัยถล่ม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ศูนย์กลางเศรษฐกิจภาคใต้ สร้างความหายนะราวกับคลื่นสึนามิ ซากปรักหักพังของเมืองเสมือนวันสิ้นโลก

ปี69เดือด!เลือกตั้งทุกระดับ 'กกต.-ประชาชน'ตัดสินอนาคต

ปี 2569 กลายเป็นปีที่ท้าทายที่สุดสำหรับประชาธิปไตยไทย ด้วยการเลือกตั้งหลายระดับที่กระชั้นชิดกันอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ที่คาดว่าจะพ่วงด้วยการลงประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ และบันทึกความเข้าใจ (MOU)