
นาทีนี้พูดถึงพรรคการเมืองที่เกิดเรื่องมากที่สุด เชื่อว่าทุกคนต้องยกให้ “ประชาธิปัตย์” ภายหลังเกิดเหตุการณ์แฉ “ปริญญ์ พานิชภักดิ์” อดีตรองหัวหน้าพรรค กระทำการล่วงละเมิดทางเพศหญิงสาวหลายราย สังคมจึงถามหาความรับผิดชอบจาก “ประชาธิปัตย์”
ขณะที่คนภายในพรรคเรียกร้อง “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” หัวหน้าพรรค ให้รับผิดชอบโดยการลาออกจากหัวหน้าพรรค ในฐานะที่เป็นคนชักจูง “ปริญญ์” เข้าสู่พรรค แต่เจ้าตัวยืนยันเสียงแข็ง “ไม่ลาออก” แน่นอน โดยระบุว่าการลาออกคือการหนีปัญหา และทิ้งปัญหาไว้ ซึ่งแปลได้ถึงความไม่รับผิดชอบ
แต่ดูเหมือนสังคมจะไม่ตอบสนองกับเหตุผลที่ “จุรินทร์” อธิบาย
เมื่อพูดกันดีๆ ไม่เป็นผลจึงต้องออกแรงก่อหวอด เพื่อเขย่าเก้าอี้ “หัวหน้าจุรินทร์” โดยมีกระแสข่าวว่า กก.บห.หญิง 7 คนจะลาออกในวันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเมื่อถึงเวลาจริง “รัชดา ธนาดิเรก” กก.บห.เกิดกลับลำ บอกว่า “กก.บห.หญิงทั้ง 7 คนไม่มีใครลาออก”
อย่างไรก็ตาม ก่อนวันดังกล่าว 1 วัน มีการปล่อยข่าวว่าในพรรคยังมีความพยายามให้ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กลับมาเป็นหัวหน้าพรรคอีกครั้ง ดังนั้น เมื่อใครก็ตามเคลื่อนไหวให้ “จุรินทร์” ลาออกจากการเป็นหัวหน้าพรรค ก็จะถูกเหมารวมว่าเป็นพวกพ้องของ “อภิสิทธิ์”
แต่หากไตร่ตรองให้ดี ถ้าแผนกดดัน “จุรินทร์” ให้ลาออกจากตำแหน่งสำเร็จจริง ถามว่า “อภิสิทธิ์” จะกลับมาเป็น “หัวหน้าพรรค” ในเวลานี้หรือไม่ แล้วถ้ากลับมาจริง จะเป็นที่ยอมรับของลูกพรรคส่วนใหญ่หรือ???
ฟันธงเลยว่าต่อให้อยากกลับมาก็ลำบาก เพราะจุดยืนของ “อดีตหัวหน้า” คือไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ฉะนั้นถ้ากลับ หมายความว่าพรรคประชาธิปัตย์ต้องถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งตอนนี้ “คนในพรรคหมู่มาก” ก็กำลังแฮปปี้ และดื่มด่ำกับรสชาติของการได้เป็นพรรคร่วมรัฐบาล ทำงานเพื่อประชาชน ดังนั้น “อภิสิทธิ์” ไม่มีทางได้กลับมาในเร็ววันนี้แน่นอน
นอกจากนี้ ยังมีบางฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่า หลังกลุ่ม กก.บห.หญิงโดนเบรกแล้ว เป็นไปได้หรือไม่ที่จะมี กก.บห.คนอื่นๆ ลาออกเกินครึ่งของคณะ กก.บห.ทั้งหมด เพื่อเปิดทางเก็บกวาดบ้านก่อนศึกเลือกตั้งใหญ่
ต้องยอมรับว่าจนถึงตอนนี้ ยังคงมี กก.บห.ทั้งชายและหญิงต้องการไขก๊อกอยู่ อย่าง “อรอนงค์ กาญจนชูศักดิ์” กก.บห.ก็ยังยืนยันจะลาออกจากตำแหน่งแน่ เพราะถือเป็นความรับผิดชอบต่อสังคมและความรู้สึกของประชาชน ประกอบกับบารมีของผู้ใหญ่ในพรรคที่ยังให้การสนับสนุน “จุรินทร์” เป็นหัวหน้าต่อไป จึงทำให้กลุ่มคลื่นใต้น้ำนี้มีพลังไม่มากพอที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง กก.บห. ชุด “จุรินทร์” ได้
ที่สำคัญ “ชวน หลีกภัย” ผู้นำทางจิตวิญญาณของสมาชิกพรรค ออกมาระบุชัดว่าให้กำลังใจ “จุรินทร์” ในการทำงานและแก้ไขปัญหา พร้อมปลอบใจว่าวันหนึ่งจะผ่านพ้นไป
ทั้งยังออกโรงปรามสมาชิกพรรคที่เหลืออีกว่า “หากไม่ทำอะไรที่เป็นประโยชน์กับพรรค ก็อย่าเป็นตัวถ่วงของพรรค หมายความว่าอย่าคอยแต่วิพากษ์วิจารณ์ตำหนิเพียงอย่างเดียว ต้องพยายามหาทางช่วยเหลือ เพราะแต่ละคนก็ได้ประโยชน์จากการเป็นสมาชิกพรรค เพราะมีตำแหน่ง ขอให้คิดถึงคนที่เขาอยู่ในระบบเลือกตั้งบ้าง และคิดถึงคนที่เขาสนับสนุนพรรคด้วยความยากลำบากและด้วยความศรัทธา คนเหล่านี้เราต้องคิดถึงให้มาก จึงอยากให้กำลังใจและขอบคุณคนที่ให้กำลังใจ โดยเฉพาะผู้หลักผู้ใหญ่ที่ให้กำลังใจพรรคมาหลายคน”
ด้วยยังมีผู้สนับสนุนเบอร์ใหญ่ ให้ “จุรินทร์” ยังคงได้ไปต่อ เกาะเก้าอี้หัวหน้าพรรคอย่างเหนียวแน่นหนึบ นำพรรคสู้สนามเลือกตั้งต่อไป ส่วนจะกอบกู้ศรัทธาจากประชาชนได้สำเร็จหรือไม่ ทำให้พรรคชนะเลือกตั้งหรือไม่ เป็นอีกเรื่อง.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
จิรุตม์-มณฑลลุ้นผงาดกกต. สีน้ำเงินคุมเสียงข้างมาก7เสือ
เมื่อมีความชัดเจนทางการเมืองว่า “พรรคเพื่อไทย” จะยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ หลังการโหวตร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญวาระ 3 ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นช่วงปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า 2569
'ภัยพิบัติการเมือง เมื่อกฎบริจาค กลายเป็นสนามแข่งพรรคใหญ่'
ในช่วงปลายปี 2568 ซึ่งประเทศไทยกำลังเผชิญกับสถานการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติอย่างน้ำท่วมในหลายพื้นที่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ออกมาชี้แจงแนวทางการบริจาคเงินและสิ่งของเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย
พลิกเกม"น้ำท่วม"สู้ศึกเลือกตั้ง สมรภูมิการเมืองช่วงชิงชัยชนะ
แรงกดดันของสังคมที่มีต่อ "อนุทิน ชาญวีรกูล" นายกรัฐมนตรี หลังเหตุการณ์มหาอุทกภัยที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พุ่งเป้าไปที่ความผิดพลาด บกพร่อง และล่าช้า ในการสั่งการเข้าช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจนทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก
วิกฤตน้ำท่วมทำรัฐบาลรวน อาจป่วนถึงการแก้รัฐธรรมนูญ
วิกฤตในการบริหารสถานการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่ของภาคใต้ โดยเฉพาะที่หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา นอกจากความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนจำนวนมหาศาลแล้ว ยิ่งทำให้รัฐบาลสูญเสียความน่าเชื่อถือในสายตาสาธารณชน
รัฐบาลอ่อนหัด โครงสร้างล้าหลัง ฉุดเชื่อมั่น'อนุทิน-ภท.'จมดิ่งกับน้ำท่วม
วิกฤตมหาอุทกภัยถล่ม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ศูนย์กลางเศรษฐกิจภาคใต้ สร้างความหายนะราวกับคลื่นสึนามิ ซากปรักหักพังของเมืองเสมือนวันสิ้นโลก
ปี69เดือด!เลือกตั้งทุกระดับ 'กกต.-ประชาชน'ตัดสินอนาคต
ปี 2569 กลายเป็นปีที่ท้าทายที่สุดสำหรับประชาธิปไตยไทย ด้วยการเลือกตั้งหลายระดับที่กระชั้นชิดกันอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ที่คาดว่าจะพ่วงด้วยการลงประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ และบันทึกความเข้าใจ (MOU)


