
ในขณะที่โลกโซเชียลกำลังสนุกสนานตั้งวงแซะ แซว แขวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขณะอยู่บนเครื่องบินเพื่อไปยังท่าอากาศยานนานาชาติฮาเนดะ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เพื่อเข้าร่วมการประชุม International Conference on the Future of Asia (Nikkei Forum) ระหว่างวันที่ 25-27 พ.ค. ช่วงอ่านหนังสืออยู่ แต่กลับไม่มีตัวอักษร ไม่รู้ว่าอ่านกระดาษเปล่าหรือไม่
ก่อนหน้าเป็นประธานการเปิดงานการสัมมนาวิชาการระดับชาติ เรื่อง ความปลอดภัยทางถนน “ทศวรรษใหม่ วิถีใหม่ ขับขี่ปลอดภัยต้องมาก่อน” กล่าวปาฐกถาพิเศษตอนหนึ่งว่า “รถติดก็ดีอยู่อย่าง ถนนที่ติด รถมันติด อุบัติเหตุก็น้อย ไม่ตาย อย่างน้อยก็ไม่ตาย เพราะรถวิ่งเร็วไม่ได้ไง”
เป็นความบันเทิงในโลกโซเชียล ที่ผู้นำประเทศมักสร้างรอยยิ้มตลอดเวลาการครองอำนาจกว่า 8 ปี อยู่บ่อยครั้ง
หันมาดูแนวรบในสภาฯ นับแต่มีการเปิดประชุมสภาฯ ต้องวางแผนตั้งรับ ปมประเด็นการเมือง ที่พรรคฝ่ายค้าน และพรรคในรัฐบาลบางขั้ว บางพรรค กำลังวางแผนเปิดปฏิบัติการเขย่าบัลลังก์อำนาจ พล.อ.ประยุทธ์
ตามปฏิทินการเมือง รัฐบาลประยุทธ์ กำลังจะเผชิญเรื่องสำคัญ 1-2 มิ.ย. ที่ประชุมสภาจะมีการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ.2566 วงเงินกว่า 3.18 ล้านล้านบาท
ร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ในวาระ 2-3 ที่คาดว่าจะมีการพิจารณา วันที่ 9-10 มิ.ย.
จากนั้นช่วงปลายเดือนมิถุนายน พรรคร่วมฝ่ายค้านจะเข้าชื่อเสนอญัตติต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลประยุทธ์ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 151 ที่คาดว่ากระบวนการตรวจสอบญัตติ รายชื่อ ความถูกต้อง แล้วจะบรรจุญัตติอภิปรายกันในช่วงกลางเดือนกรกฎาคม
ยังไม่นับรวมช่วงสิงหาคมที่หลายฝ่ายกำลังจับตาวาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 8 ปี ที่ยังมีการมองต่างมุม ทางกฎหมายบทสรุปสุดท้ายแล้วจะลงเอยออกมาหน้าไหน
แต่ละเรื่องล้วนสำคัญยิ่ง เดิมพันถึงชะตากรรมรัฐบาลประยุทธ์อีกด้วย
หลังเปิดสภา ฝ่ายค้านจ้องขย่มรัฐบาลประยุทธ์ทันที พรรคเพื่อไทยวางเกมรับน้อง เขย่ารัฐบาลประยุทธ์เอาไว้แล้ว ตามที่ ‘นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว’ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร บอกเอาไว้ว่า
‘ถ้าสภาไม่ให้ผ่านร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย จะส่งผลถึงนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล ซึ่งมีทางเลือก 2 ทาง คือ ยุบสภา หรือลาออก แม้ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณจะไม่ผ่าน ก็สามารถใช้งบประมาณเดิม คือ พ.ร.บ.งบ 2565 ไปพลางก่อน เว้นแต่เป็นเรื่องงบลงทุนที่จะสร้างใหม่ ดังนั้นแผนงานโครงการต่างๆ ที่เป็นเรื่องประจำก็สามารถทำได้ต่อ แต่ไม่อนุญาตให้นำงบไปลงทุนในสิ่งที่เห็นว่าไม่ชอบ ถ้าหากปล่อยไปอาจจะกระทบต่อพี่น้องประชาชนมากกว่า นี่เป็นทางเลือกที่จะต้องพิจารณาให้ถี่ถ้วน เพราะการไม่ให้ผ่านอาจจะเกิดประโยชน์กับประชาชนมากกว่า แล้วปล่อยให้รัฐบาลชุดใหม่เข้ามาจัดสรรงบประมาณแทน’
พรรคเพื่อไทยรุมขย่มรัฐบาลประยุทธ์ทันที เพื่อไทยอาจได้ใจมาจากผลการเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) 50 เขต 50 คน พรรคเพื่อไทยกวาดที่นั่งได้มากสุดในสภา กทม. 20 เสียง ตามมาด้วยพรรคก้าวไกล 14 เสียง ขณะที่ผลการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. เดอะทริป-นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ชนะการเลือกตั้ง ซึ่้งชัชชาติไม่ใช่ใครที่ไหน อดีตแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย ที่ต่างฝ่ายต่างมีสายสัมพันธ์ทางการเมืองที่ดีต่อกัน
ประกอบกับห้วงจังหวะเวลาที่ พรรคเศรษฐกิจไทย (ศท.) ภายใต้การคอนโทรลของ ‘ธรรมนัส พรหมเผ่า’ กำลังจะมีการปรับเปลี่ยนหัวหน้าพรรค เปิดทางให้ธรรมนัสคุม 16 ส.ส.ที่อยู่ในมือ คุมทิศทางของพรรคด้วยตัวเองทั้งหมด
จนถึงนาทีนี้ยังไม่รู้ว่า ขั้วธรรมนัส จะยังยืนอยู่กับประยุทธ์ไปจนตลอดรอดฝั่งหรือไม่ เมื่อฟังสัญญาณซุ่มเสียงที่ออกมาชักแปลกๆ พลันที่ถูกผู้สื่อข่าวถามว่า มีจำนวนเสียงมากกว่า 40 เสียง หมายถึงกลุ่มพรรคเศรษฐกิจไทยและกลุ่ม 16 ใช่หรือไม่
ธรรมนัส ตอบทันทีว่า “อย่าลืมว่าผมมีพี่น้องเยอะ ที่นั่งอยู่ฝ่ายรัฐบาล ส่วนฝ่ายค้านนั้นไม่ต้องพูดถึง”
ไม่เท่านั้น เขายังส่งสัญญาณไปถึงรัฐมนตรีบางคนอีกว่า
“รัฐมนตรีหลายคนปากเก่ง แต่ในทางปฏิบัติและการบริหารแผ่นดินล้มเหลว ต้องระวัง อย่าเอาดีแต่พูด โกหกผู้ใหญ่ไปวันๆ อย่าทำ พูดเอามันอยู่เรื่อยเลย ตัวเองคอร์รัปชันระวังเถอะ รัฐมนตรีที่พูดเก่งๆ เดี๋ยวจะตกเก้าอี้โดยไม่รู้ตัว หมดอนาคตการเมือง อวดเก่งเหลือเกิน ผมมีข้อมูลแน่น มีทุกอย่างในการอภิปราย”
ฝ่ายค้าน โดยเฉพาะเพื่อไทย ได้ใจเหมือนได้ยาดี เริ่มคิดสมการตัวเลขใหม่ จากเดิมที่เสียงฝ่ายค้าน รัฐบาล ห่างกันร่วม 50 เสียง ในวันนี้หากได้ขั้วธรรมนัส 16 ส.ส. กลุ่ม 16 ส.ส.พรรรคเล็กบวกกับงูเห่าที่ยังดูแลอยู่ในซีกรัฐบาลอีกจำนวนหนึ่ง จึงพอเห็นช่องทางความเป็นไปได้ในการส่งสัญญาณสั่งสอนรัฐบาล
ทว่าในอีกมุมหนึ่ง พ.ร.บ.งบประมาณ 2566 วงเงินกว่า 3.18 ล้านล้านบาท ไม่เพียงแค่ขั้วฝ่ายรัฐบาลตั้งตารออนุมัติเพื่อนำไปพัฒนาประเทศ ดูแลทุกข์สุขประชาชน ขณะเดียวกันขั้วฝ่ายค้านหลายคนก็ใจจดใจจ่อกับ พ.ร.บ.งบประมาณนี้เช่นกัน
บางคนในปีกฝ่ายค้านไม่ค่อยจะเห็นด้วย หากจะคว่ำงบประมาณแล้วทำให้ประชาชนเดือดร้อน อาจทำให้เกิดผลเสียทางการเมือง แต่คอยไปปล่อยของ รุมถล่ม-ล้มประยุทธ์ ในช่วงศึกซักฟอกดีกว่า!.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
หยิกเล็บเจ็บเนื้อ! 'ภท.-พท.' โต้เดือดพัวพัน 'เบน สมิธ'
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า กรณีเบน สมิธ : ภูมิใจไทย-เพื่อไทย หยิกเล็บเจ็บเนื้อ
รู้จักน้อยไปจริง! กระทุ้ง 'อนุทิน' เผยตัวตนให้มากขึ้น
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า หรือเรารู้จักท่านนายกรัฐมนตรีน้อยไปจริงๆ
จิรุตม์-มณฑลลุ้นผงาดกกต. สีน้ำเงินคุมเสียงข้างมาก7เสือ
เมื่อมีความชัดเจนทางการเมืองว่า “พรรคเพื่อไทย” จะยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ หลังการโหวตร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญวาระ 3 ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นช่วงปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า 2569
'ภัยพิบัติการเมือง เมื่อกฎบริจาค กลายเป็นสนามแข่งพรรคใหญ่'
ในช่วงปลายปี 2568 ซึ่งประเทศไทยกำลังเผชิญกับสถานการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติอย่างน้ำท่วมในหลายพื้นที่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ออกมาชี้แจงแนวทางการบริจาคเงินและสิ่งของเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย
พลิกเกม"น้ำท่วม"สู้ศึกเลือกตั้ง สมรภูมิการเมืองช่วงชิงชัยชนะ
แรงกดดันของสังคมที่มีต่อ "อนุทิน ชาญวีรกูล" นายกรัฐมนตรี หลังเหตุการณ์มหาอุทกภัยที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พุ่งเป้าไปที่ความผิดพลาด บกพร่อง และล่าช้า ในการสั่งการเข้าช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจนทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก
วิกฤตน้ำท่วมทำรัฐบาลรวน อาจป่วนถึงการแก้รัฐธรรมนูญ
วิกฤตในการบริหารสถานการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่ของภาคใต้ โดยเฉพาะที่หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา นอกจากความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนจำนวนมหาศาลแล้ว ยิ่งทำให้รัฐบาลสูญเสียความน่าเชื่อถือในสายตาสาธารณชน


