ไทยจัดเต็ม ต้อนรับผู้นำเอเปก 2022 ชู 'เป้าหมายกรุงเทพ' แทรก 'Soft Power'

สัปดาห์นี้ยกให้เป็นสัปดาห์แห่งการประชุมที่ยิ่งใหญ่ รัฐบาลให้ความสำคัญอย่างมากกับการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก  หรือเรียกสั้นๆ ว่า “การประชุมเอเปก”  

รัฐบาลมีการเตรียมความพร้อมในทุกด้าน โดยเฉพาะกับเรื่องความปลอดภัย เพราะมีบุคคลวีไอพีถึง 21 เขตเศรษฐกิจเข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ มีทั้งที่ส่งตัวแทนมา  และบางเขตเศรษฐกิจก็คือตัวจริง ระดับสูงสุดของประเทศ  ระดับนายกรัฐมนตรี ระดับประธานาธิบดี

ขืนเกิดเหตุไม่คาดฝันประเทศไทยจะเสื่อมเสียชื่อเสียงไปด้วย ยิ่งมีข่าวว่ากลุ่มผู้ชุมนุมของไทยจะเคลื่อนไหวด้วยแล้ว รัฐบาลไทยและเจ้าหน้าที่ของรัฐก็ต้องจับตากันเข้มงวด เพื่อไม่ให้ซ้ำรอยการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่พัทยา เมื่อครั้งปี 2562

ต้องบอกว่า “รัฐบาลไทย” รอบนี้ไม่ได้มาเล่นๆ  ตั้งใจและเอาจริงทุกเรื่อง

ทั้งด้านสารัตถะของการประชุม รวมไปถึงความบันเทิงเริงใจ ความประทับใจที่แขกบ้านแขกเมืองจะได้รับกลับไปแบบจำมิรู้ลืม รวมทั้งจะได้เป็นการโปรโมตไปในตัว ให้โลกรู้ว่าไทยมีดีและพร้อมเต็มร้อยในการเยือนของทุกคนทุกระดับ                         

เวลานี้มีกิจกรรมเกิดขึ้นมากมายที่ “ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์” โดยวันนี้ (16 พ.ย.) จะเป็นการประชุมของเจ้าหน้าที่อาวุโสเอเปก จากนั้นวันที่ 17 พ.ย.เป็นการประชุมระดับรัฐมนตรีแบบเต็มคณะ และค่ำวันเดียวกันก็จะเป็นงานเลี้ยงอาคารค่ำ ณ หอประชุมกองทัพเรือ

ทั้งนี้ วันที่เป็นไฮไลต์ของการประชุมเอเปก คือวันศุกร์ที่ 18 พ.ย. ช่วงเช้าจะเป็นการประชุมผู้นำเศรษฐกิจเอเปกอย่างเป็นทางการ ช่วงที่ 1 ในหัวข้อ การเติบโตอย่างสมดุล ครอบคลุม และยั่งยืน ต่อด้วยการหารืออย่างไม่เป็นทางการระหว่างผู้นำกับแขกของประธาน จากนั้นเป็นการหารือผู้นำกับสภาที่ปรึกษาทางธุรกิจเอเปก และในช่วงเย็นจะเดินทางไปเข้าเฝ้าฯ  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ  พระบรมราชินี

สำหรับวันเสาร์ที่ 19 พ.ย. จะเป็นวันสุดท้ายของการประชุม โดยมีกำหนดการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจอย่างไม่เป็นทางการ ช่วงที่ 2 ในหัวข้อการค้าและการลงทุนที่เปิดกว้างและยั่งยืน และจบลงด้วยการแถลงข่าวโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีของไทย

อย่างไรก็ตาม ได้รับการเปิดเผยจากกระทรวงการต่างประเทศ ว่าในด้านสารัตถะของการประชุมเอเปก ครั้งที่ 29 ในฐานะไทยเป็นเจ้าภาพ จะนำเสนอเอกสาร "Bangkok Goals on BCG  Economy" หรือเอกสารเป้าหมายกรุงเทพภายใต้แนวคิดเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว เพื่อเป็นแนวทางการฟื้นฟูเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก หลังเกิดการระบาดโควิด-19 ให้มีความครอบคลุมและยั่งยืนท่ามกลางบริบทโลก ที่มีสิ่งใหม่ๆ เกิดขึ้นท้าทาย

นอกจากโอกาสด้านความร่วมมือทางเศรษฐกิจแล้ว  ไทยเห็นว่าเวทีนี้คือโอกาสที่จะได้ประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับของดีของไทยที่มีรากเหง้ามาอย่างยาวนาน โดยถ่ายทอดผ่านวัฒนธรรม ประเพณี อาหาร ของที่ระลึก ซึ่งนายกฯ ได้มอบหมายให้กระทรวงที่เกี่ยวข้องดูแลอย่างละเอียดรอบคอบและประณีต

อย่างที่ทราบกันดี ของที่ระลึก 7 ชิ้น ที่จะมอบให้แก่ผู้นำเขตเศรษฐกิจและคู่สมรส ล้วนสั่งทำด้วยฝีมือชาวบ้านที่มีความรู้ความชำนาญ ไม่ว่าจะเครื่องเงิน กล่องใส่เครื่องประดับ ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ทำจากผ้าไหมไทย  

ส่วนอาหารการกินก็ไม่น้อยหน้า ในงานเลี้ยงมื้อค่ำได้เชฟชุมพล แจ้งไพร เชฟระดับแนวหน้า เป็นหัวหน้าทีมเชฟที่ปรุงอาหาร รังสรรค์ทั้งคาวและหวานเป็น 5 คอร์ส ประกอบด้วย 1.อาหารทานเล่น คือกระทงทองไส้ครีม ท็อปด้วยคาเวียร์จากโครงการหลวง ดอยอินทนนท์

2.จานเรียกน้ำย่อยเสิร์ฟ ชุดของดีจาก 4 ภาค ประกอบด้วย หมี่กรอบข้าวซอย ต้มยำกุ้งแม่น้ำ เนื้อย่างวากิวจิ้มแจ่ว จากโคราช และไก่ย่างกอและ บรรจุในกล่องไม้สักทอง ไม้ทรงคุณค่าของไทย

3.อาหารจานสลัด เป็นยำใหญ่จากผักออร์แกนิก ทานกับไก่ออร์แกนิก และกุ้งมังกร 7 สีจาก จ.ภูเก็ต

4.อาหารจานหลัก ประกอบด้วยสตูผัก มัสมั่นเนื้อโพนยางคำ และเนื้อวากิว ปลาเก๋ามุก และข้าวหอมมะลิ จากทุ่งกุลาร้องไห้

5.ของหวานที่ทานคู่กับชาหรือกาแฟ คือ หม้อแกงเผือกที่ใช้น้ำตาลโตนดจาก จ.เพชรบุรี ขนมดาราทอง ขนมเปียกปูนใบเตย มาการองลิ้นจี่ ขนมดอกมะลิ ช็อกโกแลต สอดไส้กระชายดำ และสุดท้ายคือ ผลไม้ตามฤดูกาล 7  ชนิด

โดยระหว่างรับประทานมื้อค่ำยังมีการแสดงทางวัฒนธรรม และขับกล่อมดนตรีจากนักร้องมืออาชีพ อาทิ พี่เบิร์ด-ธงไชย แมคอินไตย์ และรัดเกล้า อามระดิษ

เท่านั้นยังไม่พอ ด้านนอกหอประชุมกองทัพเรือ ริมแม่น้ำเจ้าพระยาก็มีการแสดงโชว์ต่างๆ กระทงขนาดใหญ่ เรือไฟ กระทงสาย การแสดงพื้นบ้าน โขน หนังใหญ่

น่าจะเป็นค่ำคืนที่จัดเต็มไปด้วยแสงสีสุดอลัง เป็นการใช้เวทีเอเปกในการขับเคลื่อน Soft Power ครั้งใหญ่ของไทย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ได้ทุกขั้ว-เสบียงกรัง-อำนาจ เมินกระแส สส.แห่ซบ‘กล้าธรรม’

นอกจาก ‘พรรคภูมิใจไทย’ ที่มี ‘แม่เหล็ก’ ดึงดูดอดีต สส.และนักการเมือง ในการเลือกตั้งครั้งนี้แล้ว ‘พรรคกล้าธรรม’ อาณาจักรของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะที่ปรึกษาพรรค เป็นอีกค่ายหนึ่งที่มีผู้คนพาเหรดเข้ามาเป็นองคาพยพ

โจทย์หิน3แคนดิเดตนายกฯพท. ลูกเจ๊แดงโปรไฟล์ดีแต่มีข้อกังขา!

หลังพรรคเพื่อไทยเปิดตัว ศ.ดร.ยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ อดีตรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล ลูกชายเจ๊แดง-เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาวทักษิณ ชินวัตร และสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี หมายเลข 1 อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.ที่ผ่านมา

พรรค‘ปชน.’ขอโทษจากใจ วอน‘ประชาชน’ไปต่อด้วยกัน

ภาพที่หัวหน้าพรรคสีส้มทุกยุคสมัยมาปรากฏตัวพร้อมหน้าบนเวทีเดียวกันไม่ได้เกิดขึ้นให้เห็นบ่อยนัก เอาเข้าจริงอาจจะยิ่งกว่าเวทีปราศรัยใหญ่ก่อนเลือกตั้งทุกครั้งด้วยซ้ำ เพราะในกิจกรรม

เร่งเกม'เลือกตั้ง-จบศึกชายแดน' เมื่อทุกแนวรบกำลังได้เปรียบ

เรียกได้ว่าเกือบจะเป็นฉันทามติของสังคมที่ต้องการให้กองทัพดำเนินกลยุทธ์ในการนำพื้นที่ตามเส้นปฏิบัติการของไทยคืนจากกัมพูชาให้เบ็ดเสร็จเด็ดขาดในการสู้รบระลอกที่ 2

ศึกชายแดน เปลี่ยนเกม! ‘อนุทิน’ พลิกบีบ ‘ส้ม-แดง’

พรรคภูมิใจไทย พลิกเกมขี่กระแส ชาตินิยม ได้อย่างทันทีท่วงที เมื่อ “นายกฯ หนู”-อนุทิน ชาญวีรกูล พลิกสถานการณ์จากเสียงตำหนิเรื่องน้ำท่วมใต้และปัญหาสแกมเมอร์ล่าช้า มายืนบนพื้นที่ที่ตัวเองได้เปรียบ คือกระแสชาตินิยม และประเด็นความมั่นคง

พิสูจน์กึ๋น“แม่ทัพใหม่กกต.” คุมบังเหียน2ศึกใหญ่ปีหน้า

ในช่วงปลายปี 2568 ที่กำลังจะสิ้นสุดลง กระแสการเมืองไทยกำลังร้อนแรงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะประเด็นการเตรียมจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) และการออกเสียงประชามติที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในปี 2569