สอบ"รล.สุโขทัย"อับปาง "เรือเทพ"ช่วงงบฯบักโกรกจริงหรือ?

ปฏิบัติการค้นหาเรือหลวงสุโขทัยยังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ด้วยการปูพรมค้นหาสแกนทุกตารางเมตรอย่างเข้มข้น เพื่อให้พบลูกเรือและกำลังพลของ ทร.ที่อยู่ในเรือวันนั้นอย่างเร็วที่สุด

ในเบื้องต้นเป็นการบอกเล่าสถานการณ์ของลูกเรือที่รอดชีวิตว่า ในช่วงนั้นมี คลื่นลมแรง มากที่สุดเท่าที่เคยเห็นมาในรอบ 10 ปี และเหตุการณ์รวดเร็วมากหลังเรือเอียง 60 องศา มา 80 องศา แค่ 2 นาทีเรือก็ค่อยจมลงพ้นผิวน้ำ ทำให้การอพยพคนออกจากเรือ ไม่สามารถเป็นไปตามแผนที่วางไว้

แต่เมื่อเกิดเหตุเรืออับปางแล้ว เป็นหน้าที่ของหน่วยงานซึ่งรับผิดชอบคือ กองทัพเรือ ต้องดำเนินการตามระเบียบในการสอบหาข้อเท็จจริง เหมือนเช่นกรณีที่เกิดเหตุเครื่องบินตก  ก็จะมีคณะกรรมการนิรภัยการบิน ทอ.ลงพื้นที่เก็บหลักฐาน และสอบถามข้อมูลจากผู้รอดชีวิต และมีขั้นตอนทางกฎหมายในการรับผิดทางละเมิด

กองทัพเรือก็เช่นกัน โดยตามระเบียบแล้ว หน่วยงานต้นสังกัดคือ ทัพเรือภาคที่ 1 จะสอบสวนข้อเท็จจริงทั้งหมด รวมถึงประเด็นข้อสงสัยเรื่องเสื้อชูชีพที่ไม่เพียงพอ และจะมีคณะกรรมการที่กรมจเรทหารเรือตั้งขึ้น มีเจ้าหน้าที่จากหน่วยงาน ทร.ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรมอู่ทหารเรือ กรมช่าง ทร. ฯลฯ เข้าไปดูข้อเท็จจริงทุกองค์ประกอบ

บุคคลที่เป็นกุญแจสำคัญคือ ผู้บังคับการเรือ ที่จะเป็นผู้ตัดสินใจ สั่งการ ในการแก้ไขสถานการณ์ตรงนั้น ที่เมื่อมีการสอบปากคำแล้ว จะต้องหาข้อมูลอื่นมาพิจารณาว่าเป็นไปตามข้อมูลที่ให้ไว้หรือไม่ นอกจากนั้นในส่วนของสภาพความพร้อมของเรือ จะมีเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญเข้าไปสอบสวน จากนั้นก็ต้องมีการกู้เรือขึ้นมาเพื่อดูว่าปัญหาเกิดจากตัวเรือหรือไม่            

จากนั้นจะสรุป และมีการพิจารณาในการฟ้องร้องดำเนินคดีทางอาญาและแพ่งหรือไม่ ตามที่คณะกรรมการสรุป และกองทัพเรืออนุมัติ

แต่ต้องยอมรับว่า ที่ผ่านมาเป็นเรื่องยากมากที่เรือรบประสบเหตุอับปางลงได้ง่ายๆ ในอดีตก็มีเรือรบหลวงประแสร์ลำที่ 1 เคยประสบเคราะห์กรรมจากสงคราม เกยตื้นที่ชายฝั่งประเทศเกาหลีเหนือ ในสงครามคาบสมุทรเกาหลี ที่ประเทศไทยส่งกองกำลังไปช่วยรบในนามกองกำลังสหประชาติ เมื่อปี 2494          จึงทำให้มีการตั้งข้อสังเกตกันเบื้องต้นว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะ รล.สุโขทัย  เรือสัญชาตอเมริกัน แม้จะเป็นเรือขนาดแค่ 900 กว่าตัน ใช้งานมาแล้วประมาณ 36 ปี ยังเหลืออายุการใช้งานได้อีกพอควร แต่ในแวดวง “คนเรือ” แล้ว เรียกว่าเป็น “เรือเทพ” หรือที่เรียกว่า “เรือเก่ง” จิ๋วแต่แจ๋วติดระดับท็อปไฟว์ของกองเรือฟริเกต ของกองเรือยุทธการ มีความครบเครื่องในการรบ 3มิติ คือ บก เรือ อากาศ มีความคล่องตัว อีกทั้งเสริมศักยภาพในเรื่องของระบบอาวุธปราบเรือดำน้ำ เรือผิวน้ำ สามารถยิงจรวดฮาร์พูน

ดังนั้นจึงมักเห็นเรือดังกล่าวไปร่วมฝึกโปรแกรมสำคัญๆ ทั้งการฝึก ทร.ประจำปี การฝึกร่วมกับประเทศเพื่อนบ้านอยู่เป็นประจำ และไปไกลถึงประเทศออสเตรเลีย

 “เป็นเรือรบที่มีขีดความสามารถสูงประจำการปี 2527 มีขีดความสามารถรบทั้งสามมิติ ปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนค้นหาผู้ประสบภัย การฝึกในต่างประเทศ เคยไปถึงออสเตรเลีย สามารถปฏิบัติงานในพื้นที่คลื่นลมแรงในทุกทะเลที่ผ่านมา เรือดังกล่าวมีอายุใช้งานมา 36 ปี ซึ่งตามข้อกำหนดของกองทัพเรือกำหนดให้เรือฟริเกตมีอายุราชการ 40 ปี แต่ขีดความสามารถอุปกรณ์บนเรือทุกประเภท ทุกชนิดใช้การได้ดีทุกระบบ ใช้งานได้ตามปกติ มีประสิทธิภาพสูงอยู่ และในปัจจุบันระบบอาวุธสามารถใช้การได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้ง ทร.มีแผนงานยืดอายุการใช้งาน 5 ถึง 10 ปี มีการซ่อมทำขนาดใหญ่ในช่วง 3 ปีก่อนหน้านี้ เพื่อเตรียมปฏิบัติการในฝั่งทะเลอันดามัน แต่พื้นที่ที่รองรับยังไม่พร้อม” พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผบ.ทร. ระบุ

กลายเป็นข้อสันนิษฐานในช่วงที่กองทัพเรือผูกพันงบประมาณก้อนใหญ่ในการจัดซื้อเรือดำน้ำจีน S26T ร่วม 5 ปีเหลือเงินแค่งวดสุดท้ายในการติดตั้งเครื่องยนต์ที่ยังไม่ได้ข้อยุติ ทำให้โครงการปรับปรุง พัฒนาขีดความสามารถของเรือผิวน้ำลดน้อยถอยลงไป กองเรือต่างๆ อยู่ในสถานะบักโกรก อาจจะส่งผลให้ รล.สุโขทัยได้รับผลกระทบในเรื่องการซ่อมบำรุงหรือไม่ โดยเฉพาะวัสดุอุปกรณ์พื้นฐาน ยาง สายไฟ แพชูชีพ เสื้อชูชีพ เป็นการชี้เป้าไปที่โครงสร้างงบฯ ขยายแผลจากปัญหาภายในทั้งเรื่องของการเมือง ความขัดแย้ง และวิธีคิดของผู้บังคับบัญชาแต่ละยุค

ขณะที่ข้อสันนิษฐานหนึ่งก็มองว่า ในสถานการณ์วิกฤตเฉพาะหน้า การปฏิบัติตามขั้นตอนเหมือนที่ดูในหนัง หรือตามทฤษฎีที่เขียนไว้ ไม่ได้ง่ายอย่างที่วิเคราะห์กัน แต่การแก้ไขสถานการณ์ต่อจากนั้นเมื่อเกิดเหตุให้เกิดความสูญเสียน้อยที่สุดนั้น มีรายละเอียดอย่างไร เป็นเรื่องที่ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป

 ส่วนข้อสันนิษฐานสุดท้ายคือ ปัจจัยที่ผสมผสานกันระหว่างสภาพดินฟ้าอากาศ กับเรื่องขององค์วัตถุ คือ สภาพของ รล.สุโขทัย ที่อาจส่งผลให้เรืออับปาง และการอพยพผู้คนออกจากเรือไม่ทัน ซึ่งกองทัพเรือชี้แจงว่า ในช่วงที่ประสบเหตุจนเรือเอียง มีการแจ้งให้เรือ รล.กระบุรี ที่อยู่ที่ท่าเรือบางสะพานเข้ามาช่วย ในเบื้องต้นได้แจ้งให้เรือทักเข้ามาเพื่อลากจูงเรือเข้าฝั่ง แต่คลื่นลมแรงมาก เมื่อเห็นว่าเรือกำลังจะจม จึงได้เริ่มอพยพคนลงบนแพชูชีพและเรือเล็ก และช่วยเหลือกำลังพลว่ายน้ำลอยคออยู่ โดยการโยนเชือกและบันไดลิง โดยมีเรือ 4 ลำ คือ เรือทัก 2 ลำ เรือน้ำมัน 1 ลำ และ รล.กระบุรี ช่วยผู้ประสบภัยได้ 75 คน อย่างทุลักทุเล เพราะคลื่นลมแรงมาก ระหว่างนั้นมีผู้บาดเจ็บสาหัส ทาง รล.กระบุรี จึงขอเข้าฝั่งส่งกลับสายการแพทย์ และให้เรือทั้ง 3 ลำที่เหลืออยู่ช่วยเหลืออีก 30 ชีวิตที่อยู่กลางทะเล

 ซึ่งก็ต้องไปดูผลการสอบสวนว่า ในการผนึกน้ำเข้าห้องชั้นต่างๆ การแจ้งขอความช่วยเหลือ อุปกรณ์ในการช่วยชีวิต ทั้งเสื้อชูชีพ การยิงแพชูชีพ การเข้าปฏิบัติการช่วยเหลือของเรืออีกลำที่เข้ามานั้นเป็นอย่างไร ซึ่งการแถลงข่าวของ ผบ.ทร.ยืนยันว่าเป็นรายละเอียดที่ต้องมีการสอบสวนทุกอย่าง

ระหว่างนี้ที่หาปมเหตุเรืออับปาง ก็คงต้องภาวนาให้ลูกเรือปลอดภัยกันทุกคน!!.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

จิรุตม์-มณฑลลุ้นผงาดกกต. สีน้ำเงินคุมเสียงข้างมาก7เสือ

เมื่อมีความชัดเจนทางการเมืองว่า “พรรคเพื่อไทย” จะยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ หลังการโหวตร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญวาระ 3 ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นช่วงปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า 2569

'ภัยพิบัติการเมือง เมื่อกฎบริจาค กลายเป็นสนามแข่งพรรคใหญ่'

ในช่วงปลายปี 2568 ซึ่งประเทศไทยกำลังเผชิญกับสถานการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติอย่างน้ำท่วมในหลายพื้นที่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ออกมาชี้แจงแนวทางการบริจาคเงินและสิ่งของเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย

พลิกเกม"น้ำท่วม"สู้ศึกเลือกตั้ง สมรภูมิการเมืองช่วงชิงชัยชนะ

แรงกดดันของสังคมที่มีต่อ "อนุทิน ชาญวีรกูล" นายกรัฐมนตรี หลังเหตุการณ์มหาอุทกภัยที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พุ่งเป้าไปที่ความผิดพลาด บกพร่อง และล่าช้า ในการสั่งการเข้าช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจนทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก

'ผบ.ทสส.' สั่ง ศป.กฉ.ส่วนหน้า 8 ข้อ เร่งฟื้นฟู 'หาดใหญ่'

'ผบ.ทสส.' สั่ง ศป.กฉ.ส่วนหน้า 8 ข้อ จัดระเบียบ ‘ศูนย์พักพิง-การแพทย์’ เร่งเปิดระบบ ‘ไฟฟ้า-ประปา’ แจกถุงยังชีพ-อาหาร มาตรการ รปภ. เก็บกู้ร่างผู้เสียชีวิต ตั้งจุดรวบรวมขยะ 4 พื้นที่ ย้ายยานพาหนะกีดขวาง

วิกฤตน้ำท่วมทำรัฐบาลรวน อาจป่วนถึงการแก้รัฐธรรมนูญ

วิกฤตในการบริหารสถานการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่ของภาคใต้ โดยเฉพาะที่หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา นอกจากความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนจำนวนมหาศาลแล้ว ยิ่งทำให้รัฐบาลสูญเสียความน่าเชื่อถือในสายตาสาธารณชน

น้ำยังสูง! นาวิกโยธิน ส่งรถสะเทินน้ำสะเทินบก AWAV ลงพื้นที่สิงหนคร ลำเลียงอาหาร-น้ำดื่ม ช่วยปชช.

นาวิกโยธิน จัดชุดยานเกราะล้อยาง AWAV เข้าช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่โรงเรียนบ้านบางไหน อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา ซึ่งยังคงมีน้ำท่วมสูง