แรงสะเทือนย้อนกลับ พท.บอกปัดแก้ 112

พรรคเพื่อไทย ภายใต้การนำของ อิ๊งค์-น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค ถูกจับจ้องในฐานะผู้ท้าชิง ขอทวงอำนาจรัฐกลับคืนมาให้ได้ ตั้งเป้าวางหมุดหมายอย่างชัดเจน การเลือกตั้งครั้งหน้าต้อง แลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดิน จัดตั้งรัฐบาลให้ได้เท่านั้น หลังจากโดนยึดอำนาจไปเมื่อ 22 พ.ค.2557 และผลการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 รวมเสียงจัดตั้งรัฐบาลไม่สำเร็จ การเลือกตั้งที่จะมาถึงจึงหมายมั่นปั้นมือเป็นอย่างมาก

พรรคเพื่อไทยตระเวนเดินสายหาเสียงไปตามแต่ละภูมิภาค แม้จะตระเวนไปไม่ครบ 77 จังหวัด แต่ขุนพลแกนนำพรรคตั้งเป้าจะไปให้ได้มากจังหวัดที่สุด ทั้งภาคเหนือ กลาง อีสาน ตะวันออก ตะวันตก ใต้ นโยบายของพรรคเพื่อไทยที่เปิดออกมาบางส่วน ยังคงมุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาปากท้อง ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาต่างๆ ในสังคม ผ่านแนวคิดชูสิ่งที่เคยทำได้สำเร็จมาแล้ว ขออาสาเข้ามาทำอีกครั้ง

การเลือกตั้งแม้ฐานเสียงส่วนใหญ่มุ่งเน้นไปยังกลุ่มรากหญ้า ประชาชนในต่างจังหวัด กลุ่มผู้ใช้แรงงาน เกษตรกร ที่ถือเป็นฐานเสียงใหญ่ แต่ยังมีกลุ่มฐานเสียงเยาวชน คนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะ First voter ที่คิดเป็นสัดส่วน ก็มีอยู่จำนวนไม่น้อยเช่นกัน ที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยถูกตั้งคำถามเป็นอย่างมาก แต่แนวทางการต่อสู้ตามข้อเรียกร้องของแนวร่วมราษฎร โดยเฉพาะในประเด็นล่อแหลมอย่าง การแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และแนวทางการช่วยเหลือ หรือสนับสนุน นิสิต เยาวชน ที่ถูกคุมขัง ด้วยความเห็นต่างทางการเมือง

เพื่อไทยสู้ไปกราบไปหรือไม่ เป็นปมประเด็นถกเถียงในโลกโซเชียล พุ่งเป้าวิพากษ์วิจารณ์มาโดยตลอด  

คณะราษฎรยกเลิกมาตรา 112 เดินทางมายื่นข้อเรียกร้อง สอบถามความชัดเจนการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และมาตรา 116 และส่งข้อเรียกร้องไปยัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และคณะแกนนำในพรรคเพื่อไทย

สมยศ พฤกษาเกษมสุข แนวร่วมกลุ่มราษฎร ปราศรัยตอนหนึ่งว่า

 ‘อยากพูดกับแกนนำของพรรคเพื่อไทย ที่ผ่านในเหตุการณ์สำคัญต่างๆ มาแล้ว พรรคเพื่อไทยไม่แตะต้องหรือแก้ไขมาตรา 112 ด้วยเหตุผลใด ทำความผิดหวังมายังประชาชนที่ต่อสู้กับการรัฐประหาร อยากจะมาถามผู้ที่เคยได้ดิบได้ดีที่อยู่ในช่วงที่เกิดเหตุการณ์รัฐประหารเดือนตุลาว่า จะดำเนินการอย่างไร เช่น หมอมิ้ง นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ขอให้พรรคเพื่อไทยนึกถึงคนที่ลี้ภัย ไม่ใช่แค่นายทักษิณ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์เท่านั้น มีอีกเป็น 100 คน หาก น.ส.แพทองธารไม่กล้าที่จะแก้ไขมาตรา 112 เส้นทางแลนด์สไลด์ หรือเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลไร้ความหมาย อยากให้กล้าหาญปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม’

แม้พรรคเพื่อไทยจะแสดงท่าทีห่วงใยต่อปมประเด็น นิสิต นักศึกษา ที่ยังถูกจับกุมคุมขัง ส่งตัวแทนพรรค ประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค และกลุ่มคนเดือนตุลา อย่าง จาตุรนต์ ฉายแสง, นายภูมิธรรม เวชยชัย, พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช รวมไปถึง นพ.ทศพร เสรีรักษ์ ที่มักไปร่วมกิจกรรมกับกลุ่มนิสิต นักศึกษาอยู่บ่อยครั้ง ลงมารับข้อเรียกร้อง และได้พา คณะตัวแทน แนวร่วมราษฎรไปหารือ ขณะเดียวกัน กระบวนการทางสภาฯ เพื่อไทย พรรคร่วมฝ่ายค้านเสนอญัตติด่วนด้วยวาจา เรื่องสิทธิประกันตัว และการใช้กฎหมายล้นเกินแก่ผู้แสดงออกและแสดงความคิดเห็นทางการเมือง โดยเฉพาะกรณีล่าสุด เกิดประเด็นข้อห่วงใย แบม-ตะวัน ที่กำลังอดอาหารประท้วง ขณะถูกคุมชัง

เพื่อไทยพยายามเทกแอคชัน ไม่ได้เพิกเฉยต่อประเด็นการเรียกร้องต่อสู้ของนิสิต นักศึกษาที่เห็นต่างทางการเมือง แต่ก็ขีดวงเชิงวิชาการ ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม สิทธิอันชอบธรรมตามกฎหมาย ให้ได้รับการประกันตัวมาสู้คดี มีพื้นที่ปลอดภัยให้ได้ร่วมแสดงความเห็นต่างเท่านั้น ส่วนท่าทีในเรื่องร้อนๆ ประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค แถลงท่าทีพรรคเพื่อไทย ประเด็นการจะแก้ไขมาตรา 112 กับ 116 หรือไม่ ออกมาระบุอย่างชัดเจนว่า

 ‘ข้อเสนอเรื่องประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และมาตรา 116 นั้น พรรคเห็นว่ากรณีตามมาตรา 116 นั้น เป็นความผิดที่เรียกว่า การยุยง ปลุกปั่น เป็นกฎหมายที่ถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองมากที่สุด จนถูกเรียกว่ากฎหมายครอบจักรวาล มีองค์ประกอบหรือการตีความได้กว้างขวาง การแก้ไขจึงน่าจะกระทำได้

กรณีตามมาตรา 112 พรรคเห็นว่ามาตรานี้บัญญัติขึ้นเพื่อคุ้มครองประมุขของรัฐ ควบคู่กับประวัติศาสตร์ของประเทศที่ยอมรับการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข การแก้ไขใดๆ มีความเห็นหลากหลายในสังคม และมีความแตกต่างกันในทางความคิดแบบสุดขั้ว อาจเรียกได้ว่าถึงขั้นเป็นปฏิปักษ์ต่อกันจนยากที่จะหาบทสรุปที่เป็นไปในทางสันติ และความสมานฉันท์ของคนในประเทศ

การแก้ไขกฎหมายเป็นหน้าที่ของรัฐบาล และรัฐสภาที่ควรจะเป็นองค์กรรับผิดชอบ ในชั้นนี้พรรคจึงเห็นว่าการปรึกษาหารือกันในแนวทางปฏิบัติของการบังคับใช้มาตรา 112 จะเป็นทางออกทางหนึ่งที่จะแก้ไขปัญหาได้ในเบื้องต้น และไม่อาจกระทำได้โดยลำพังของพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งเท่านั้น....’

ถอดความ ฟันธงอย่างชัดเจน เพื่อไทยเห็นด้วย เฉพาะกับการแก้มาตรา 116 เท่านั้น ส่วนมาตรา 112 โยนให้รัฐบาล รัฐสภา องค์กรที่รับผิดชอบไปถกเถียง ไปว่ากันต่อไป ท่าทีพรรคเพื่อไทยค่อนข้างชัดเจน ไม่อยากไปยุ่ง ไปแตะกับปมประเด็นข้อเรียกร้องที่อ่อนไหวเป็นอย่างยิ่ง

กระแสเรียกร้องพลังเคลื่อนไหวกลุ่มราษฎรในวันนี้ไม่เหมือนในอดีต ข้อเรียกร้องแก้ 112 มีความอ่อนไหวอย่างมากทางสังคม มีผลสั่นสะเทือนย้อนกลับทางลบต่อพรรค ความหวังลึกๆ คนแดนไกลกลับบ้าน การเมืองว่ากันด้วย จำนวนตัวเลข ฐานเสียง

เพื่อไทยปักหมุดแลนด์สไลด์ ชนะเลือกตั้ง จัดตั้งรัฐบาล ผ่านการนำเสนอนโยบาย แก้ปัญหาปากท้อง ฟื้นความเชื่อมั่นเศรษฐกิจ ขจัดยาเสพติด ที่มีผลตัดสินชี้วัดความเป็นรัฐบาล ส่งผลโดยตรงเชิงคะแนนเสียง มากกว่าข้อเรียกร้อง 112 ฐานเสียงที่มีเฉพาะแค่คนกลุ่มเล็กๆ เท่านั้น.