เลือกตั้ง 14 พ.ค. บทพิสูจน์ "ก้าวไกล" วันไร้ตัวช่วย

เป็นไปตามคาดกับผลการประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เมื่อวันที่ 21 มีนาคมที่ผ่านมา ที่ได้มีมติกำหนดวันเลือกตั้ง ส.ส. หลังมีการยุบสภาฯ เมื่อ 20 มี.ค. โดย กกต.กำหนดวันหย่อนบัตรเลือกตั้ง คือ วันอาทิตย์ที่ 14 พ.ค.2566

วันรับสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขต 3-7 เม.ย.2566

 วันรับสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และพรรคการเมืองแจ้งบัญชีรายชื่อบุคคลที่เสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกฯ 4-7 เม.ย.2566

เมื่อไทม์ไลน์การเลือกตั้งชัดเจนแบบนี้ ทุกพรรคการเมืองต่อจากนี้ก็ใส่เกียร์ลุยเต็มสูบ เข้าสู่สมรภูมิเลือกตั้ง 14 พ.ค.2566 กันอย่างเต็มที่

และเมื่อเหลียวมองไปที่พรรคการเมืองต่างๆ ที่จะเข้าสู่สนามเลือกตั้งรอบนี้ พรรคก้าวไกล เป็นอีกหนึ่งพรรคการเมืองที่ถูกจับตามองอย่างมากสำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้ ว่าจะได้ ส.ส.หลังเลือกตั้งมากน้อยแค่ไหน?

 เพราะผลการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 ที่พรรคก้าวไกลในยุคที่ใช้ชื่อ พรรคอนาคตใหม่ สร้างปรากฏการณ์ทางการเมืองที่ทำให้หลายคนคาดไม่ถึงเมื่อได้ ส.ส.หลังเลือกตั้งไป 81 เสียง แยกเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ 50 คน ซึ่งคิดเป็น 1 ใน 3 ของจำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อที่ตอนนั้นมีจำนวน 150 คน และ ส.ส.ระบบเขต 31 คน

แน่นอน ทุกคนรู้กันดีว่า จำนวน ส.ส.ที่อนาคตใหม่ได้ไปในครั้งนั้น ทั้ง ส.ส.เขตและปาร์ตี้ลิสต์ เป็นผลพวงมาจากการที่มีการใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียว และมีการยุบพรรคไทยรักษาชาติ ที่เป็นพรรคสาขาของเพื่อไทย ก่อนการเลือกตั้ง และเขตที่ผู้สมัครระบบเขตของไทยรักษาชาติลงสมัคร ก็ไม่มีคนของเพื่อไทยลงสมัคร จึงทำให้มีการเทคะแนนไปที่อนาคตใหม่จำนวนมาก จนทำให้พรรคอนาคตใหม่ได้รับผลพลอยได้ทางการเมือง ไปเต็มๆ จนกวาดคะแนนในการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 ไป 6,330,617 คะแนน จนพรรคได้ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ถึง 50 เก้าอี้ เพราะด้วยกติกาเลือกตั้งแบบระบบ ส.ส.พึงมี ทำให้พรรคเพื่อไทยที่ได้ ส.ส.เขตไปแล้ว 136 เสียง จึงไม่ได้ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์แม้แต่คนเดียว

จากรูปการณ์ทางการเมืองทั้งหมดในปี 2562 จึงเข้าทางพรรคอนาคตใหม่เต็มๆ อีกทั้งก็ยังมีกระแส ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ-ปิยะบุตร แสงกนกกุล ที่เข้าสู่การเมืองเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ด้วยความสด-ใหม่ จึงทำให้สามารถสร้างกระแสจากกลุ่มผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งจำนวนมากที่อยากเห็นการเมืองใหม่ๆ โดยเฉพาะกลุ่มนิวโหวตเตอร์ มันจึงเป็นความสำเร็จแบบก้าวกระโดดของอนาคตใหม่ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 

แต่สำหรับการเลือกตั้งรอบนี้ ที่ไม่มีเงื่อนไขพิเศษหลายอย่างเหมือนตอนปี 2562 และกติกาเลือกตั้งที่กลับมาใช้บัตร 2 ใบ ผนวกกับเพื่อไทย ก็โหมสร้างกระแสแลนด์สไลด์อย่างหนัก อันมีผลต่อพรรคก้าวไกลแน่นอน ในฐานะพรรคการเมืองขั้วเดียวกัน

รวมถึงมีการมองกันว่า กระแส พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล แม้จะเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองที่ติดอันดับต้นๆ ของโพลทุกสำนัก ที่คนสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรี แต่บางส่วนก็ยังมองว่า กระแสพิธาวันนี้ก็ยังแรงสู้ธนาธรตอนปี 2562 ไม่ได้

ผนวกกับบทบาทของ พรรคก้าวไกล ในช่วงการเป็นพรรคฝ่ายค้านมา 4 ปี ที่ก็ต้องยอมรับว่าแสดงบทบาทในสภาฯ ได้ดีกว่าพรรคเพื่อไทยแบบเห็นได้ชัด และยังมีปัจจัยเรื่องที่ ส.ส.-นักการเมืองของก้าวไกลเข้าไปร่วมสนับสนุนการเคลื่อนไหวของม็อบสามนิ้วในช่วงก่อนหน้านี้ ตลอดจนคนในพรรคก้าวไกลก็แสดงตัวเคลื่อนไหวสนับสนุนการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์และการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 มาตลอดเช่นกัน จนถึงขั้นเคยเสนอแก้ไขมาตรา 112 เข้าสภาฯ ไปแล้ว แต่ไม่สำเร็จ 

บริบทการเมืองทั้งหมดข้างต้น คือสิ่งที่หลายคนอยากรู้อย่างมากว่า พรรคก้าวไกลจะได้ ส.ส.ในการเลือกตั้งครั้งนี้กี่คน และจะได้คะแนนในระบบปาร์ตี้ลิสต์กี่คะแนน เพราะนี่คือค่าวัดทางการเมืองที่ชัดเจนที่สุดว่า พรรคก้าวไกลมีฐานเสียง-ผู้สนับสนุนพรรคจำนวนเท่าใดกันแน่ที่เป็นแฟนคลับพรรคก้าวไกลอย่างเหนียวแน่น

 ซึ่งทั้งหมดจะได้เห็นในการเลือกตั้งครั้งนี้ ท่ามกลางการถูกประเมินทางการเมืองไว้ว่า มีโอกาสไม่น้อยที่พรรคก้าวไกลอาจจะต้องกลับมาเป็นพรรคฝ่ายค้านอีกรอบหลังเลือกตั้ง เพราะพรรคการเมืองในขั้วรัฐบาลปัจจุบัน หากรวมเสียงกันได้เกิน 250 เสียง ก็ไม่มีทางอยู่แล้วที่จะดึงก้าวไกลไปร่วมจัดตั้งรัฐบาล เพราะแนวทางแตกต่างกันสิ้นเชิง อีกทั้งก้าวไกลก็ไม่มีทางไปร่วมงานการเมืองกับพรรคขั้วรัฐบาลปัจจุบันได้เช่นกัน

ขณะที่ฝ่าย ทักษิณ ชินวัตร-พรรคเพื่อไทย มีการมองกันว่า หากไม่จำเป็นจริงๆ พรรคก้าวไกลก็ไม่ใช่ตัวเลือกที่จะดึงมาร่วมจัดตั้งรัฐบาลด้วย เพราะแนวทางของก้าวไกล โดยเฉพาะเรื่องสถาบัน เป็นเรื่องที่ทำให้ เพื่อไทยย่อมไม่สบายใจหากจะดึงก้าวไกลมาร่วมจัดตั้งรัฐบาล เว้นเสียแต่ว่าการจัดตั้งรัฐบาลของทักษิณและเพื่อไทยเสียงไม่พอจริงๆ จึงต้องยอมดึงก้าวไกลมาร่วมด้วย ภายใต้เงื่อนไขที่เพื่อไทยก็ต้องไปต่อรองให้ก้าวไกลต้องปรับบทบาทการเมืองของตัวเอง เช่น ลดโทนเรื่องเกี่ยวกับสถาบันลง ซึ่งก็คงเป็นเรื่องที่แกนนำก้าวไกลก็คงไม่อยากจะทำมากนัก เพราะจะเสียแนวร่วมทางการเมือง และเสียจุดยืนของพรรคไป

อย่างล่าสุด เมื่อวันที่ 21 มี.ค.ที่ผ่านมา ผู้นำทางความคิดตัวจริงของพรรคก้าวไกล ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า-อดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ โพสต์เฟซบุ๊กระบุไว้ชัดเจนว่า

ทุกพรรคการเมืองที่ลงเลือกตั้งก็ต้องอยากเป็นรัฐบาลทั้งนั้น แต่การจะมาเป็นรัฐบาลได้ต้องมาอย่างสง่างามด้วย ไม่ใช่แค่คิดถึงจำนวนอย่างเดียวจนลืมดูอุดมการณ์ ย้ายพรรคกันไปมาตามสภาพดินฟ้าอากาศ

ถ้ารัฐบาลหน้ามีชื่อประยุทธ์-ประวิตรเมื่อไหร่ ผมเชื่อมั่นว่าพรรคก้าวไกลเขาก็พร้อมเป็นฝ่ายค้านได้ ไม่มีปัญหาอะไรเลย แต่ถ้าพี่น้องอยากเปลี่ยนแปลง ก็กาทั้ง 2 ใบ ให้ก้าวไกลเข้าไปเป็นรัฐบาลให้ได้ เพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศให้สำเร็จครับ”

นี่คือท่าทีของปิยบุตร ผู้มีบทบาทสำคัญในพรรคก้าวไกล ที่ทำให้พอเห็นทิศทางพรรคก้าวไกลได้ว่า หากสุดท้าย ถ้าทักษิณ-เพื่อไทย จะเปิดดีลจัดตั้งรัฐบาลกับบิ๊กป้อม พลเอกประวิตรและพลังประชารัฐ แล้วหากเสียงยังไม่พอ จนอาจมาทาบทามก้าวไกลให้ร่วมจัดตั้งรัฐบาลด้วย พรรคก้าวไกลก็จะเป็นฝ่ายค้านอีก 1 สมัยหลังเลือกตั้ง

จากปัจจัยการเมืองทั้งหมดข้างต้น จึงเป็นเรื่องที่น่าสนใจอย่างมากว่า การขยับทางการเมืองหลังจากนี้ของพรรคก้าวไกล ทั้งในช่วงการหาเสียงเลือกตั้งและหลังเลือกตั้ง พรรคก้าวไกลจะเดินหน้าทางการเมืองอย่างไร หลังแกนนำพรรคยังคงเชื่อว่า เลือกตั้งรอบนี้พรรคก้าวไกลจะได้ ส.ส.มากกว่าตอนยุคอนาคตใหม่ แม้หลายคนจะมองว่าไม่มีทางเป็นไปได้ก็ตาม

เช่นความเห็นของ ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ที่ระบุว่า

พรรคก้าวไกลจะได้รับชัยชนะมากกว่าพรรคอนาคตใหม่ในปี 2562 อย่างแน่นอน เนื่องจาก 4 ปีที่ผ่านมา ได้พิสูจน์ให้ประชาชนเห็นว่า อดีตพรรคอนาคตใหม่และพรรคก้าวไกลในวันนี้ เป็นพรรคการเมืองที่ทำงานในสภาได้ดีที่สุด ทำงานคุ้มค่าภาษีของพี่น้องประชาชนมากที่สุด ทำงานตรงไปตรงมาไม่เกรงใจใคร แต่การเป็นพรรคฝ่ายค้านเราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงเพื่อประชาชนได้อย่างเต็มที่

ดังนั้นการเลือกตั้งครั้งนี้ เราต้องการเสียงสนับสนุนจากประชาชน เพื่อจัดตั้งรัฐบาลก้าวไกล”

 พรรคก้าวไกลจะเติบโตมากขึ้นจากนี้ด้วยการมี ส.ส.หลังเลือกตั้งที่มากกว่าตอนปี 2562 หรือจะถึงจุดที่แกนนำพรรคอาจต้องมาทบทวนบทบาทการเมืองของพรรค หากผลการเลือกตั้งออกมาว่า ได้ ส.ส.ต่ำกว่าที่ตั้งเป้าไว้มาก รวมถึงคะแนนในระบบปาร์ตี้ลิสต์ก็พลาดเป้าไปจากที่คาดหวังไว้

ผลการเลือกตั้ง 14 พ.ค. คือคำตอบที่ดีที่สุด ที่จะทำให้เห็นว่า คนไทยคิดอย่างไรกับพรรคก้าวไกล.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รัฐบาลตีปี๊บ ประกวด 'ข้าวหอมมะลิไทย' ช่วยยกคุณภาพชีวิตเกษตรกร

รัฐบาลหนุนเกษตรกรและโรงสี จัดประกวดข้าวหอมมะลิไทยปี 2566 เฟ้นหาและอนุรักษ์พันธุ์ข้าวไทยคุณภาพชั้นเลิศ พร้อมขยายช่องทางการจำหน่าย

ชงไทยบี้เมียนมา งดขายน้ำมันให้ เจรจาสันติภาพ

"โรม" เสนอให้ไทยงดขายน้ำมันให้ "เมียนมา" ปูดใช้ไทยฟอกเงินเครือข่ายซื้ออาวุธที่ใช้ปฏิบัติการ เตือนถูกดึงไปเอี่ยวร่วมฆ่าล้างเผ่าพันธุ์

'ชัยธวัช' กระตุกปรับครม.หมุนเก้าอี้ตามโควต้า หวังรมต.คุมกห.ดันแก้กม.ปฏิรูปกองทัพต่อ

'ชัยธวัช' ชี้ปรับครม.ขอเน้นคนเหมาะกับงานมากกว่าหมุนเก้าอี้ตามโควต้าทางการเมือง ไม่ส่งผลดีต่อรัฐบาล ทำให้ประชาชนผิดหวัง หวังรมต.คุมกลาโหม ดันแก้ร่างกม.ปฏิรูปกองทัพต่อ

'ชัยธวัช' หวัง 'รัฐบาล' ทบทวนคำถามประชามติ ลั่นต้องแก้ถ้อยคำหมวด1,2 ด้วย

'ชัยธวัช' หวัง 'รัฐบาล' ทบทวนคำถามประชามติ ให้เปิดกว้าง-เข้าใจง่าย หวั่นคะแนนเสียงตกน้ำ เหตุมีเงื่อนไข ย้ำ 'ก้าวไกล' ไม่คิดขวาง รธน. ฉบับใหม่ แต่ห่วงล็อกบางหมวดมีปัญหาเชิงเทคนิค ลั่นต้องแก้ถ้อยคำในหมวด1,2ด้วย