สกัดเกม“สายเหยี่ยว”ช่วงเลือกตั้ง

เหลือเวลาอีกไม่ถึง 1 เดือนก็จะถึงวันลงคะแนนเสียงเลือกตั้งทั่วไป วันที่ประชาชนจะได้ใช้สิทธิ์หย่อนบัตรลงคะแนน เลือกผู้สมัคร และพรรคการเมืองที่ตนเองพอใจ ทำให้ช่วงเวลาที่เหลือ ทุกพรรคจึงลงพื้นที่หาเสียง ขายนโยบายที่นำเสนออย่างพุ่งเป้า เจาะฐานเสียงของตนเองด้วยการตอกย้ำนโยบายที่ตัวเองชูธงอย่างเข้มข้น

นโยบายประชานิยม การจัดสวัสดิการแห่งรัฐ ยังเป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องมี แต่ประเด็นที่เกี่ยวเนื่องกับอุดมการณ์ทางการเมือง ยังเป็นอีกปัจจัยที่มีส่วนตัดสินใจว่าใครจะเลือกพรรคหรือขั้วไหน แน่นอนว่าพรรคร่วมรัฐบาลเก่าไม่แตะเรื่องปฏิรูปกองทัพ ยกเลิกเกณฑ์ทหาร ตัดงบประมาณกองทัพ เอาทหารออกจากการเมือง ปิดสวิตช์ ส.ว. ต่างจากขั้วตรงข้ามที่ใช้เรื่องดังกล่าวเป็น “เข็มมุ่ง” ไปสู่เป้าหมายแห่งการเปลี่ยนแปลงในระดับที่อ่อน หรือเข้มไปจนแตะการแก้ไข ม.112  

มีการชี้ให้เห็นข้อดีในการ “ขุดรากถอนโคนวัฒนธรรมเก่า-ทุบหม้อข้าวแดนสนธยา” จะส่งผลดีให้เกิดกับประชาชนได้อย่างไรบ้าง ในขณะที่แนวร่วมจากกลุ่มเคลื่อนไหวต่างๆ แสดงออกในการสนับสนุน จัดกิจกรรมส่งเสริม ผนวกจนเป็นกระแสเดียวกัน ตอกย้ำมีความจำเป็นที่รัฐบาลใหม่ต้องกล้าแตะ และทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างจริงจัง

ในขณะที่กองทัพยังไม่ชี้แจงว่าการ “คงไว้” ในสิ่งที่เป็นอยู่มีผลดีมากกว่าผลเสียอย่างไร เพราะมองว่าเป็นช่วงของการหาเสียง ที่ใครจะพูด หรือทำอะไรก็ได้ แต่เมื่อเข้ามาบริหารประเทศก็ต้องเข้ามาฟังองค์กร หรือหน่วยงานซึ่งมีหน้าที่ตาม รธน.ว่ามีเหตุผลอย่างไร พร้อมตอกย้ำบทบาทของ “ความเป็นกลาง” ไม่หนุนหลัง หรือช่วย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ในฐานะผู้บังคังบัญชา เปิดกว้างให้ทุกพรรคการเมืองเข้ามาหาเสียงได้อย่างเท่าเทียมกัน โดยมี กกต.เข้ามาร่วมวางกติกา

แต่กองทัพยังถูก “จับตา-ตรวจสอบ” ไม่ให้ใช้กำลังพล เครื่องมือ วิชามาร เข้าไปเล่นเกมตุกติก ทั้งการออกมาตีกันเรื่องการให้ทหารเกณฑ์แสดงความประสงค์เลือกตั้งล่วงหน้า  รวมไปถึงกรณีแชตไลน์กองทัพภาคที่ 4 หลุด มีข้อความห้ามผู้สมัครบางพรรคการเมืองเข้าไปหาเสียงในหน่วยตรวจเลือกฯ แต่ภายหลังก็มีการชี้แจงข้อเท็จจริงว่าเป็นการเข้าใจที่คลาดเคลื่อน

รวมไปถึงการงัดข้อมูล “ไอโอ” ของกองทัพที่ยังมีการเดินหน้าอย่างต่อเนื่องในการเกาะติดแกนนำกลุ่มต่างๆ ที่สนับสนุนการยกเลิก ม.112 หรือแม้กระทั่งกรณีที่มีอาจารย์รายหนึ่งโพสต์เฟซบุ๊กการเปิดเอกสารการประชุมของหน่วยทหารหน่วยหนึ่งเมื่อช่วงต้นปี 2565 เป็นการประชุมคณะทำงานความมั่นคงพิเศษ มีการจัดทำบัญชีรายชื่อสถาบันการศึกษาระดับมัธยม อุดมศึกษา มีชื่อหน่วยขึ้นตรงเกาะติด ซึ่งเป็นช่วงที่มีกลุ่มม็อบที่ใช้แนวทางขัดขืน ปฏิเสธอำนาจรัฐ ด้วยการใช้ความรุนแรงเริ่มก่อตัวขึ้น โดยพ่วงกับการตั้งคำถาม “มีทหารไว้ทำไม” 

ผสมผสานไปกับการเคลื่อนไหวของ “ทะลุวัง-ทะลุแก๊ส” ซึ่งมีผู้มีอิทธิพลทางความคิดของ “สายเหยี่ยว” ในหมู่นักเคลื่อนไหวปลุกให้สู้ด้วยวิถีทางการแสดงออกทางกายภาพ ทั้งการอดอาหาร “แบม-ตะวัน” และการรุกไปถามจุดยืนยกเลิก ม.112 ในเวทีหาเสียงของพรรคการเมือง เมื่อผนวกกับการต่อสู้ในสนามรบทางสื่อสังคมออนไลน์ เริ่มขยับตัวสอดรับกับกระแสการเมือง ก็ยิ่งส่อเค้าว่าจะเกิดเหตุการณ์ “เดินหน้าท้าชน”

หรือแม้กระทั่งปรากฏการณ์แฮกเกอร์ 9 near” ซึ่งมีชื่อล้อกับพรรคการเมืองหนึ่ง “ปิดจ๊อบ” ลงแบบแปลกแปร่ง หลังจาก “จ่าสิบโท” สังกัดกรมการขนส่งทหารบก ถูกส่งขึ้น “ศาลทหาร” หลังจากเข้ามอบตัวจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สารภาพซื้อข้อมูลมาจาก “ดาร์กเว็บ” เป็นการทำแบบส่วนตัว เพราะ อยากลองของ 

น่าสนใจว่า การออกมาเปิดประเด็น "ตีกัน" ไม่ให้กองทัพขยับตัว เลยไปถึงเหตุการณ์ที่กำลังพลคิดการณ์ใหญ่ แต่ “มือลั่น” เป็นการสะท้อนให้เห็นว่าเป้าหมายหลักยังคงอยู่ที่ “สายเหยี่ยว” ในกองทัพที่ยังถูกหวาดระแวงว่าจะดำเนินยุทธวิธีในการต่อสู้กับอุดมการณ์ทางความคิดอีกขั้วหนึ่งในช่วงการเลือกตั้ง

แต่นั่นก็เป็นการเหวี่ยงแห “ปราม” และ “ตรึง” เหล่าทัพไว้ไม่ให้ “ขยับตัว” และขวางแนวคิด “ล้มกระดาน-ล้างไพ่” อย่างที่กังวลกันว่าจะเกิดหลังเลือกตั้ง “ซึ่งเป็นไปได้ยาก แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้”

การเดินเกมรุกหนัก ตรวจสอบ “กองทัพ” แม้จะเป็นเพียงการเมืองเรื่องของการเลือกตั้ง แต่นัยในเชิงอุดมการณ์แล้ว ล้วนมีความหมายที่กว้างขวาง ซึ่งผู้นำเหล่าทัพต่างเฝ้ามองอยู่อย่างเงียบๆ 

ยิ่งในเดือนกันยายนนี้ จะครบวาระเกษียณอายุราชการยกแผงทั้ง พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ พล.อ.อ.อลงกรณ์ วัณณรถ ผู้บัญชาการทหารอากาศ เดือนสิงหาคมจึงเป็นห้วงของการจัดทำบัญชีรายชื่อโยกย้ายทหาร ดังนั้น “โผทหาร” จึงอยู่ช่วงคาบเกี่ยวระหว่างรัฐบาลเก่ากับรัฐบาลใหม่ เพราะตามไทม์ไลน์การฟอร์มรัฐบาลน่าจะเสร็จสิ้นได้ในช่วงสัปดาห์แรกของเดือนสิงหาคม 

ภาพรวมของเหตุการณ์ทั้งหมดจึงขึ้นอยู่กับว่าผู้มีอำนาจในกองทัพ และผู้มีอิทธิพลทางความคิดของแกนนำนักเคลื่อนไหวรุ่นใหม่จะเลือกแนวทางไหนในการแก้ไขปัญหา

โดยคาดหวังว่าแนวทางนั้นจะไม่ก่อให้เกิดการเผชิญหน้าหรือความรุนแรงระลอกใหม่ขึ้นในสังคมเช่นที่เกิดขึ้นในอดีต.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

จิรุตม์-มณฑลลุ้นผงาดกกต. สีน้ำเงินคุมเสียงข้างมาก7เสือ

เมื่อมีความชัดเจนทางการเมืองว่า “พรรคเพื่อไทย” จะยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ หลังการโหวตร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญวาระ 3 ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นช่วงปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า 2569

'ภัยพิบัติการเมือง เมื่อกฎบริจาค กลายเป็นสนามแข่งพรรคใหญ่'

ในช่วงปลายปี 2568 ซึ่งประเทศไทยกำลังเผชิญกับสถานการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติอย่างน้ำท่วมในหลายพื้นที่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ออกมาชี้แจงแนวทางการบริจาคเงินและสิ่งของเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย

พลิกเกม"น้ำท่วม"สู้ศึกเลือกตั้ง สมรภูมิการเมืองช่วงชิงชัยชนะ

แรงกดดันของสังคมที่มีต่อ "อนุทิน ชาญวีรกูล" นายกรัฐมนตรี หลังเหตุการณ์มหาอุทกภัยที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พุ่งเป้าไปที่ความผิดพลาด บกพร่อง และล่าช้า ในการสั่งการเข้าช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจนทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก

วิกฤตน้ำท่วมทำรัฐบาลรวน อาจป่วนถึงการแก้รัฐธรรมนูญ

วิกฤตในการบริหารสถานการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่ของภาคใต้ โดยเฉพาะที่หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา นอกจากความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนจำนวนมหาศาลแล้ว ยิ่งทำให้รัฐบาลสูญเสียความน่าเชื่อถือในสายตาสาธารณชน

รัฐบาลอ่อนหัด โครงสร้างล้าหลัง ฉุดเชื่อมั่น'อนุทิน-ภท.'จมดิ่งกับน้ำท่วม

วิกฤตมหาอุทกภัยถล่ม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ศูนย์กลางเศรษฐกิจภาคใต้ สร้างความหายนะราวกับคลื่นสึนามิ ซากปรักหักพังของเมืองเสมือนวันสิ้นโลก

ปี69เดือด!เลือกตั้งทุกระดับ 'กกต.-ประชาชน'ตัดสินอนาคต

ปี 2569 กลายเป็นปีที่ท้าทายที่สุดสำหรับประชาธิปไตยไทย ด้วยการเลือกตั้งหลายระดับที่กระชั้นชิดกันอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ที่คาดว่าจะพ่วงด้วยการลงประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ และบันทึกความเข้าใจ (MOU)