สภาฯ ถือเป็นเวทีแจ้งเกิดของ พรรคก้าวไกล และสังคมคาดหวังจะทำหน้าที่ได้มาตรฐานเดิม เสมือนตรวจสอบรัฐบาล 3 ป.
ท่ามกลางข้อครหาที่ถูกมองว่าพรรคสีส้ม ม่เหมือนเดิม หลังถูกตั้งข้อสังเกตว่าอาจมีดีลระหว่างนายทุนสีส้มกับนายใหญ่เพื่อไทยหรือไม่
หลัง ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เคยออกมายอมรับหลังการพบ ทักษิณ ชินวัตร ระหว่างจัดตั้งรัฐบาลที่เมืองฮ่องกง ยอมรับว่า พรรคเพื่อไทยคือมิตร
ตามมาด้วยพฤติกรรม พรรคก้าวไกล ถูกแซะว่าเป็น ไทยเฉย กับการตรวจสอบ ทักษิณ ชินวัตร นักโทษเทวดา ที่มีพฤติกรรมสองมาตรฐาน และทำลายกระบวนการยุติธรรม เพราะไม่เคยติดคุกแม้แต่วันเดียว และส่อเค้าจะ ป่วยทิพย์ อีกด้วย
จนเป็นเหตุให้ผู้มีอำนาจไม่ไว้วางใจพรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกล หากวันใดวันหนึ่งผลประโยชน์ทางการเมืองลงตัว ก็อาจพลิกขั้วหันมาจูบปาก
อย่างเช่น สว.สรรหาจาก คสช.ที่กำลังหมดวาระ และอำนาจเลือกนายกฯ ในวันที่ 11 พ.ค.นี้ จนเป็นเหตุให้ผู้มีอำนาจที่ชักใยรัฐบาลอยู่เกิดความกังวล ต้องล่ามโซ่ "ทักษิณ" ด้วยคดีประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และไฟเขียวให้เกิดกระบวนการต่อต้านนักโทษเทวดา
ประเด็นเรื่องการฮั้วกันระหว่าง 2 พรรคส้มและแดง แม้ยังไม่เกิดขึ้น แต่ไม่เป็นผลดีทางการเมือง และกระทบต่อมวลชนและฐานเสียงของทั้ง 2 ฝ่าย ที่ต่างฝ่ายต่างมองเป็นศัตรูทางการเมือง หลังจากพรรคเพื่อไทยตระบัดสัตย์ไปจับมือกับพรรค 2 ลุง โดดเดี่ยวกับพรรคก้าวไกล เป็นฝ่ายค้านคู่กับพรรคประชาธิปัตย์
ในส่วนของก้าวไกลในบทบาทฝ่ายค้าน เวทีสภาฯ จึงเป็นเวทีเดียวที่จะสร้างผลงาน กระแส และศรัทธาทางการเมือง เพื่อรองรับนักการเมืองรุ่นต่อไป เป็นไปตามวาทกรรม ยิ่งยุบยิ่งโต หากกรณีศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรค ตัดสิทธิ์คณะกรรมการบริหารพรรคจำนวน 10 คน นำโดย นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรค
เช่นเดียวกับ 44 สส.กำลังถูกยื่นให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบมาตรฐานจริยธรรม ซึ่งหากศาลฎีกาตัดสินอาจมีโทษประหารชีวิตทางการเมืองตลอดชีวิต
งานสภาฯ พรรคก้าวไกลจึงต้องชกเต็มหมัด ห้ามเป็นมวยล้มต้มคนดู เพื่อตรึงใจมวลชนเก่า และใหม่ที่เชื่อว่าจะเพิ่มจำนวนมากขึ้น เพราะมองว่าพรรคนี้ถูกรังแก
แม้การทำหน้าที่ยกแรกในการพิจารณาร่างงบประมาณร่ายจ่ายประจำปี 2567 วงเงิน 3.48 ล้านล้านบาท ในวาระ 2 และ 3 ระหว่างวันที่ 20-22 มีนาคม จะไม่มีอะไรหวือหวา และพรรคก้าวไกลทำหน้าที่ได้ตามเนื้อผ้าเท่านั้น โดยเฉพาะประเด็นตามหน้าเสื่อทางการเมือง อาทิ งบกลาโหม งบรถหลวง งบฟุ่มเฟือยต่างๆ ของรัฐบาล
ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ก็ยังไม่เห็นทีเด็ดอะไร ที่จะไว้ลายฝีมือเก่าที่ถูกขนานนามพรรคฝ่ายค้านมืออาชีพ ขณะที่โครงการต่างๆ ของรัฐบาล ก็เป็นตามที่ กมธ.วิสามัญงบฯ 67 จัดสรร และตกลงกันเป็นที่เรียบร้อย
ประกอบกับสถานการณ์บีบบังคับ เพราะการใช้งบประมาณของประเทศล่าช้ากว่า 6 เดือน เพราะเหตุผลการจัดตั้งรัฐบาลที่ไม่เป็นไปตามกำหนด ที่กระทบต่อการพัฒนาประเทศ และเม็ดเงินที่จะลงสู่ระบบเศรษฐกิจ จึงเป็นเหตุมิให้ สส.คนไหนอยากถูกมองว่าเป็นตัวถ่วงความเจริญ และทำลายโอกาสของชาวบ้าน
ดังนั้นหากจะประเมินผลงานฝีมือก้าวไกลในการอภิปรายงบประมาณ 67 ครั้งนี้ อาจยังวัดผลอะไรไม่ได้มากนัก อาจรอดูฝีมืออีกครั้งในช่วงต้นเดือน เม.ย.ผ่าน การอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ว่าจะทำหน้าที่สมศักดิ์ศรีหรือไม่
โดยมีโจทย์ท้าทายจำนวนมากที่สังคมกำลังจับจ้อง ม่ว่าจะกระบวนการยุติธรรมสองมาตรฐาน ที่ต้องกล้าแตะต้องแบบจริงจังแก่ ทักษิณ ชินวัตร ผลงานไม่ตรงปกกับที่แถลงนโยบาย ผิดสัญญา อย่างเช่น โครงการดิจิทัลวอลเล็ต ที่ประชาชนยังไม่ได้เงินหมื่นเสียที, สภาวะผู้นำบกพร่อง ใครคือนายกฯ ตัวจริงกันแน่ ระหว่าง เศรษฐา ทวีสิน, ทักษิณ หรือ แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ฯลฯ
ประเด็นสำคัญเหล่านี้ล้วนวัดฝีมือและอุดมการณ์ของพรรคก้าวไกล และยังพิสูจน์ให้เห็นว่าไม่ได้ "เกี๊ยเซียะ" กับรัฐบาลเพื่อไทย ภายใต้ระบอบทักษิณที่กำลังฟื้นคืนชีพ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
หยิกเล็บเจ็บเนื้อ! 'ภท.-พท.' โต้เดือดพัวพัน 'เบน สมิธ'
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า กรณีเบน สมิธ : ภูมิใจไทย-เพื่อไทย หยิกเล็บเจ็บเนื้อ
รู้จักน้อยไปจริง! กระทุ้ง 'อนุทิน' เผยตัวตนให้มากขึ้น
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า หรือเรารู้จักท่านนายกรัฐมนตรีน้อยไปจริงๆ
'ทักษิณ' ร่วมเวที 'เสก โลโซ' ร้องเพลงใจสั่งมา ในเรือนจำกลางคลองเปรม
"ทักษิณ" ขึ้นเวทีเรือนจำฯ ควงไมโครโฟนร้องเพลง "ใจสั่งมา" บรรยากาศอบอุ่นมวลความสุข เพื่อนผู้ต้องขังกว่า 1,000 คน ต่างลุกโชว์สเต็ปแด๊นซ์
เพจดังงัดภาพใหม่กว่า ตบหน้าแฟนคลับพรรคแดง ขว้างงูไม่พ้นคอ ทักษิณก็รู้จัก 'เบน สมิธ'
จากกระแสวิพากษ์วิจารณ์ หลังปรากฏภาพนายเบน สมิธ ถ่ายร่วมเฟรมกับบุคคลระดับสูงในแวดวงการเมืองไทย ได้แก่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี, นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
จิรุตม์-มณฑลลุ้นผงาดกกต. สีน้ำเงินคุมเสียงข้างมาก7เสือ
เมื่อมีความชัดเจนทางการเมืองว่า “พรรคเพื่อไทย” จะยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ หลังการโหวตร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญวาระ 3 ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นช่วงปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า 2569
'ภัยพิบัติการเมือง เมื่อกฎบริจาค กลายเป็นสนามแข่งพรรคใหญ่'
ในช่วงปลายปี 2568 ซึ่งประเทศไทยกำลังเผชิญกับสถานการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติอย่างน้ำท่วมในหลายพื้นที่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ออกมาชี้แจงแนวทางการบริจาคเงินและสิ่งของเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย


