ประเทศไทยมีรายชื่อสมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.) 200 คน อย่างเป็นทางการ หลังจากเมื่อวันพุธที่ผ่านมาใช้เวลาดำเนินการคัดเลือกสว.ระดับประเทศที่อิมแพค หลังจากใช้เวลาดำเนินการคัดเลือกสว.ระดับประเทศที่อิมแพค ฟอรัม เมืองทองธานี ตั้งแต่ 8 โมงเช้า ลากยาวไปถึงเช้ามืดวันถัดไป ทำเอาผู้สมัครสว. ผู้ติดตาม รวมถึงผู้สื่อข้าวที่ตามเกาะติดชิดห้องประชุมตาคล้ำราวกับหมีแพนด้า
เมื่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ประกาศรายชื่อผู้ได้เป็นสว.สิ่งที่เซอร์ไพรมากที่สุดคือ เหล่าดาวเด่นที่มองว่าจะได้เป็นสว.มาตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มกระบวนการเลือกอย่าง สมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เดิมคนมองว่าจะได้รับเลือกและเป็นประธานวุฒิสภา แต่กลับไม่ผ่านแม้กระทั่งเป็นตัวสำรอง ได้คะแนนแค่ 4 คะแนน เจ้าตัวได้เดินออกจากห้องทันที โดยไม่พบกับสื่อมวลชนแต่อย่างใด หรือแม้กระทั้ง นิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล ก็ได้ตกรอบตั้งแต่รอบแรกในการเลือกระดับประเทศ แม้ทั้ง 2 บุคคล ที่กล่าวมาข้างต้นเป็นคนของ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หรือแม้กระทั่งพล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กระทั่งเจ้าของตึกใบหยกอย่าง พันธ์เลิศ ใบหยก กลับทำได้แค่มีชื่อในบัญชีสำรองเท่านั้น
กลับกันรายชื่อที่เป็นสว.หลายกลับไม่มีรายชื่อในกูเกิ้ล บางรายประกอบอาชีพไม่ตรงกับที่ลงสมัครสว.ในกลุ่มของตนเอง อาทิ คอดียะฮ์ ทรงงาม อายุ 64 ปี จังหวัดอ่างทอง อาชีพช่างตัดเย็บเสื้อผ้า ที่มีประวัติทำงานประชาสัมพันธ์เสียงตามสายหมู่บ้าน กลับได้เป็นสว.ใน กลุ่มสื่อมวลชน หรือ อารีย์ บรรจงธุระการ อายุ 65 ปี จังหวัดสตูล อาชีพ พยาบาล มีประสบการณ์เคยเป็นพิธีกรงานแต่ง ก็ได้เป็นสว.ในกลุ่มสื่อฯเช่นกัน
คำถามคือเกิดอะไรกับการเลือกสว.ในครั้งนี้?
ถ้าดูหน้าตาว่าที่ 200 สว. ใหม่ ชัดเจนว่าในแต่ละกลุ่มที่ได้รับเลือกส่วนใหญ่มาจาก ค่ายสีน้ำเงิน- "ภูมิใจไทย" มากที่สุด ส่วนค่ายอื่นก็มาแบบปักปลายเช่นค่ายพระแม่ธรณีบีบมวยผม หรือ ค่ายสีส้มพรรคก้าวไกล
ถ้าตรวจสอบเป็นรายจังหวัด บุรีรัมย์ เป็นจังหวัดที่มีว่าที่สว.มากที่สุดอยู่ที่ 14 ราย กลุ่ม1 มงคล สุระสัจจะ อดีตอธิบดีกรมการปกครอง และ อดีต ผวจ.บุรีรัมย์ , อภิชาติ งามกมล อดีตรองผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ (พี่ชายไตรเทพ งามกมล ส.ส.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย) กลุ่ม2 พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร อดีต ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ กลุ่ม4 ประพนธ์ ตั้งศรีเกียรติกุล อดีตรองปลัดกระทรวงสาธารณสุข อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและที่ปรึกษารมว.สาธารณสุข (สมัยอนุทิน ชาญวีรกูล เป็น รมว.สาธารณสุข) , ฤชุ แก้วลาย กลุ่ม5 ปวีณา สาระรัมย์ กลุ่ม7 จตุพร เรียงเงิน กลุ่ม9 นางวรรษมนต์ คุณแสน กลุ่ม13 พรเพิ่ม ทองศรี หัวหน้าคณะทำงานรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (ทรงศักดิ์ ทองศรี มท.3) กลุ่ม16 ปราณีต เกรัมย์ (อดีตคนขับรถ ชัย ชิดชอบ) กลุ่ม17 นางประไม หอมเทียน , นายชาญชัย ไชยพิศ (อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลบุรีรัมย์) กลุ่ม18 ศุภชัย กิตติภูติกุล ผู้สื่อข่าว นสพ.ไทยรัฐ ประจำ จ.บุรีรัมย์ และกลุ่ม 20 วลีรักษ์ พัชระเมธาพัฒ
นอกจากนี้ยังมี พลเอกเกรียงไกร ศรีรักษ์ หรือ บิ๊กเกรียง และอดีตแม่ทัพภาคที่ 4 ปัจจุบัน เป็นประธานที่ปรึกษา รมว.มหาดไทย (อนุทิน ชาญวีรกูล) ว่าที่ ส.ว.จาก กลุ่มที่ 1 ได้คะแนนสูงถึง 74 คะแนน
ต้องยอมรับว่าในสนามการเมืองระดับประเทศในครั้งนี้ โดยเฉพาะกลยุทธ์การต่อสู้ของค่ายสีน้ำเงินเรียกได้ว่า "มาเหนือเมฆ" โดยมีการคาดการณ์กันว่าจากจำนวน 200 คนมีเกินกว่าร้อยคนที่อยู่ในเครือข่ายของค่ายสีน้ำเงิน
อย่างไรก็ตามการวางแผนรบในครั้งนี้เป็นการวางแผนระยะยาวโดยมีการคาดการณ์กันว่าจุดเริ่มต้นเกิดขึ้นตั้งแต่ยุครัฐบาลที่แล้ว โดยมีการแทรกซึมในระดับอำเภอ ซึ่งจะเห็นได้ว่ามีเจ้าหน้าที่อาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) ลงสมัครมากที่สุดโดยพบได้ในทุกกลุ่มสาขาอาชีพ และทุกจังหวัด
โดยมีรายงานว่าในพื้นที่ภาคกลางแห่งหนึ่งมีหัวคะแนนใหญ่ในพื้นที่ ถือรายชื่อมาแจ้งให้ผู้ที่เป็นอสม.ให้ไปสมัครเป็นสว. โดยขอให้กระจายไปอยู่ในแต่ละกลุ่มของสาขาอาชีพ เพื่อให้เข้าไปถึงในรอบระดับอำเภอและจังหวัด โดยทำเพียงแค่นี้ก็ได้ค่าตอบแทนหลักหมื่นบาทขึ้นไป โดยเอกสาร ค่าเดินทาง ค่าสมัคร หัวคะแนนเป็นผู้ออกหมด
ซึ่งเหตุผลที่แจ้งให้ไปสมัครพร้อมเพียงแค่ต้องการนำคะแนนไปดันคนอื่นให้เข้าในระดับ จังหวัด ประเทศ นั่นจึงทำให้ สว. ค่ายสีน้ำเงิน กวาดเรียบทั้งกระดาน อย่างเช่น สว.ที่เป็น ช่างตัดเย็บเสื้อผ้าที่ระบุมาตั้งแต่ต้น พบข้อมูลว่าเป็นที่ปรึกษา สุรเชษ นิ่มกุล ว่าที่ผู้สมัครนายกอบจ.อ่างทอง ซึ่งมีความคุ้นเคยกับเครือข่ายบ้านใหญ่สีน้ำเงินใน จ.พระนครศรีอยุธยา
ส่วนในเคสกรณีของ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ที่ตกรอบแบบพลิกล็อค มีข้อมูลเบื้องลึกระบุว่า มีการปล่อยข่าวตั้งแต่ยังไม่เริ่มกระบวนการเลือก ว่า สมชาย เตรียมจะได้รับตำแหน่งเป็นประธานวุฒิสภา นั่นจึงทำให้ผู้สมัครบางรายที่ไม่ชอบระบบสภาผัวเมียไม่ลงคะแนนให้
นอกจากนี้ยังมีเคสของผู้สมัคร ค่ายสีส้ม ได้มีรายงานออกมาว่า ได้มีผู้สมัครกลุ่มค่ายสีน้ำเงิน เกลี้ยกล่อม ให้ผู้สมัครายอื่นไม่เลือกผู้สมัครสว.ที่มาจากค่ายสีส้ม หรือมีแนวโน้มที่จะมีความคิดสีส้ม ตั้งแต่ในระดับอำเภอ นั่นจึงทำให้เราเห็นเทศกาลเตะตัดขาผู้สมัครฯค่ายสีส้มจนอ่วม โดยมีไม่กี่คนที่จะมีโอกาสได้เป็นสว.
เชื่อว่ามีหลายคนที่ไม่คิดว่าถ้าให้สีน้ำเงินจะมาเหนือเมฆขนาดนี้ ที่ใช้คลื่นใต้น้ำกวาดที่นั่งสว.จนเรียบ ถือเป็นการตีกลองรบอย่างเป็นทางการว่าค่ายสีน้ำเงิน เอาจริง และพร้อมจะขึ้นมาเป็นใหญ่
ทำห้เริ่มถูกจับตามองหลังเห็นรายชื่อว่าที่สว.ชุดใหม่ พบว่ามี สว.สายขั้วสีน้ำเงิน ภูมิใจไทย เข้ามาหลายคน จนทำให้อาจได้รับการสนับสนุนให้ชิงเก้าอี้ ประธานวุฒิสภา คนต่อไป และจะส่งผลต่อองคาพยพทางการเมืองไทยในอนาคต!
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘บิ๊กป้อม’ ถอย ดัน ‘ตรีนุช’ เลือกตั้งสุดท้ายของ ‘พปชร.’
‘บิ๊กป้อม’ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ประกาศถอนตัวจากการเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค ทั้งที่อีกไม่กี่ชั่วโมงจะถึงวันรับสมัคร สส.แบบแบ่งเขต และบัญชีรายชื่อ ตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนดในวันที่ 27-28 ธันวาคมนี้
ภท.ชู‘หนู’หนึ่งเดียว เอกนิติ-ศุภจี-สีหศักดิ์รองนายกฯ/ธรรมนัสเดือด‘ปชป.’ยี้
“อนุทิน” นำดรีมทีมภูมิใจไทยแถลงนโยบายพรรคสู้ศึกเลือกตั้ง ลุยแก้ 4 ปัญหาหลัก
คิกออฟเลือกตั้ง69เช็กความพร้อมกกต. เปิดคู่มือผู้สมัครสส.ก่อนออกหาเสียง
ประเทศไทยกำลังเข้าสู่กระบวนการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ครั้งใหม่ หลังจากพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2568 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 12 ธ.ค.2568
โกหกหน้าไม่อาย เสียชื่อคนอีสาน ! ‘พลพีร์’ ซัดเดือด ‘มนพร’ ปมดิจิทัลวอลเล็ต
จากกรณี นางมนพร เจริญศรี อดีต สส.เขต 2 จังหวัดนครพนม พรรคเพื่อไทย ออกมากล่าวหาโครงการ ดิจิทัลวอลเล็ต ที่ไม่ได้ไปต่อ เนื่องจากถูกรัฐบาลเ
‘สีหศักดิ์’ เผย ‘อนุทิน’ ไม่เคยทาบทามเป็นแคนดิเดตนายกฯ ภูมิใจไทย ระบุมีตัวเลือกอยู่แล้ว 2 คน
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกระแสข่าวการเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี
‘เท้ง’พลาดซ้ำ รีบผลัก‘ภท.’ พา‘พรรคส้ม'ผูกมัดตัวเอง
ไม่ว่าจะคิดมาดีแล้ว หรือไม่ทันระวัง การรีบประกาศว่า หากพรรคภูมิใจไทยเป็นรัฐบาล พรรคประชาชนจะไปเป็นฝ่ายค้านของ ‘เท้ง’ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ถือเป็นเรื่องที่นักเลือกตั้งซึ่งมีประสบการณ์ทางการเมืองสูงไม่เลือกจะทำ

