1ปี‘เศรษฐา’ทัวร์ถี่-แต้มไม่ขึ้น เริ่มเจอคำถาม‘เอื้อประโยชน์’

สวมบท ‘หน่วยกล้าตาย’ ออกมาวิพากษ์การทำงานของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีตลอดระยะ 1 ปีที่ผ่านมา สำหรับ ‘เดอะเงาะ’-นายวรชัย เหมะ ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรีและอดีต สส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย

นายวรชัยติงการลงพื้นที่แบบตะบี้ตะบันของนายเศรษฐา ในขณะเดียวกันแนะนำว่าให้กลับมานั่งทำงานที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อตรวจการบ้านกับสิ่งที่ตัวเองลงไปดูเอาไว้

อดีตแกนนำเสื้อแดงรายนี้ยังยอมรับว่า สิ่งที่ตัวเองพูดอาจระคายหูนายกฯ แต่เป็นความเห็นของคนที่เป็นมิตร

 “สิ่งที่ผมพูดมานี้ในฐานะคนในบ้าน แม้บางอย่างอาจระคายหู แต่อยากให้รู้ว่าความคิดเห็นของผมคือความเห็นของคนที่เป็นมิตร ไม่มีเจตนามุ่งร้ายแอบแฝง ผมต้องการให้รัฐบาลเดินหน้าได้ ปากท้องประชาชนจะได้กินอิ่ม ให้พรรคเพื่อไทยของเราจะได้กลับมาเป็นที่นิยมชมชอบ ใครจะว่าอะไรผมไม่สนใจ วันนี้ขอเป็นยาขมบอกปัญหาที่ประชาชนเดือดร้อนให้ถึงนายกฯ เมื่อท่านทราบปัญหาก็ถือว่าผมได้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่แล้ว”

มีการมองไปถึงเจตนาที่แท้จริงในการพลีชีพของนายวรชัยในคราวนี้ว่า เพราะหวังดี หรือมีอะไรมากกว่านั้นหรือไม่

โดยปัจจุบันนายวรชัยเป็นนักการเมืองในองคาพยพของ นายพิชิต ชื่นบาน อดีต รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่คอยดูแลกันในหลายๆ เรื่อง

ขณะที่ ปัจจุบันนายพิชิตไม่ได้มีตำแหน่งแห่งหนอะไรในคณะรัฐมนตรีเลยนับตั้งแต่เกิดเรื่องคุณสมบัติ ทำให้นายวรชัยและนักการเมืองหลายๆ คนในพรรคเพื่อไทยขาลอย ไร้ที่ยึดเหนี่ยว

ท่าทีของนายวรชัยถูกตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการออกมาแสดงตัวตน หรือเรียกร้องเพื่อให้ได้รับการดูแลเอาใจใส่หรือไม่

แต่อย่างไรก็ดี ไม่ว่าเจตนาของนายวรชัยนั้นจะเป็นอย่างไร สิ่งที่นายวรชัยพูดออกมากลับตรงใจกับหลายคนในพรรคเพื่อไทยในขณะนี้

มีการมองว่า การทำงานการเมืองแบบนายเศรษฐาตลอด 1 ปีที่ผ่านมาไม่เวิร์ก โดยเฉพาะการลงพื้นที่ ที่แม้จะลงแบบถี่ยิบ แต่ดูจะเน้นปริมาณมากกว่าคุณภาพ จนมีการแซวกันว่า นี่ไม่ใช่ ‘ทัวร์นกขมิ้น’ เหมือนสมัยนายทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี แต่เป็น ‘ทัวร์ชะโงก’

เพราะนายเศรษฐาใช้เวลาในแต่ละจุด แต่ละจังหวัดค่อนข้างเร็ว จนถูกตั้งคำถามว่าจะได้รับข้อมูลที่ครบถ้วนหรือไม่ ในขณะเดียวกัน มีการติดตามการแก้ไขปัญหาหรือไม่ว่าได้ผลสัมฤทธิ์เพียงใดนับตั้งแต่วันที่ก้าวเท้าไปเหยียบ

การสัมผัส การอยู่กับชาวบ้านมีเพียงน้อยนิด ในขณะที่การเตรียมงานเพื่อรอรับนายเศรษฐาแต่ละจุด บางจุดใช้เวลาตั้งหลายวัน

เรื่องการลงพื้นที่ของนายกฯ เพื่อไปรับฟังปัญหาถือเป็นสิ่งที่ดี แต่การลงแบบรวดเร็วที่เน้นปริมาณจะได้ผลเพียงใด นี่คือคำถามที่สังคมถามกันมาสักระยะหนึ่ง

หากสิ่งที่กำลังทำอยู่มันเวิร์กจริง เหตุใดคะแนนนิยมของนายเศรษฐา คะแนนนิยมของรัฐบาล ไม่ว่าจะสำรวจกี่ครั้งกลับถอยร่น หรือน้อยกว่าพรรคก้าวไกลแทบทุกครั้ง ทั้งที่มีอำนาจรัฐอยู่ในมือ

ไม่เพียงเท่านั้น ในแง่ผลงานของรัฐบาลถึงตรงนี้ยังไม่สามารถระบุได้ชัดๆ ว่าอะไรที่พูดได้เต็มปากว่ามาจากกึ๋นของคณะรัฐมนตรีชุดนี้

แน่นอนว่า อาจจะมีหลายอย่างที่สำเร็จ แต่สิ่งสำคัญคือ ยังไม่มีอะไรโดนใจประชาชนจนรู้สึกว่ารัฐบาลชุดนี้แตกต่างหรือดีกว่ารัฐบาลชุดที่แล้ว

นโยบายเรือธงอย่างโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท ยังอยู่ในสภาวะ ‘ลูกผีลูกคน’ แม้ล่าสุดนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง จะออกมายืนยันอีกครั้งว่าไตรมาส 4 เงินถึงมือประชาชนแน่นอนก็ตาม

ถึงวันนี้ประชาชนยังต้องลุ้นกันอยู่เลยว่าสุดท้ายจะได้หรือไม่ เพราะมันดูจะมีปัญหาทางข้อกฎหมายเต็มไปหมด ซึ่งสภาวะแบบนี้ยิ่งทำให้ประชาชนขาดความเชื่อมั่นจากรัฐบาล

ไม่เพียงเท่านั้น ตลอด 1 ปี ตัวผู้นำอย่างนายเศรษฐาเองเริ่มชักจะถูกตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับผลประโยชน์ทับซ้อนของตัวเอง

นโยบายและมาตรการเกี่ยวกับที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ที่ออกโดยรัฐบาล ถูกมองไปในเรื่องผลประโยชน์แอบแฝง ในฐานะที่นายเศรษฐาคือ ‘อดีตพ่อค้าบ้าน’

ไม่ว่าจะเป็นการกำหนดระยะเวลาของทรัพย์อิงสิทธิจากปัจจุบัน 30 ปี ตามมาตรา 4 ของพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ทรัพย์อิงสิทธิ พ.ศ.2562 เป็นไม่เกิน 99 ปี หรือการให้คนต่างด้าวสามารถถือกรรมสิทธิ์ในห้องชุด จากเดิมไม่เกิน 49% เป็นไม่เกิน 75%

"ปัจจุบันต่างชาติถือคอนโดฯ ทั้งประเทศแค่ 16% มีเพียงบางโครงการเท่านั้นที่ถือถึง 49% ส่วนใหญ่แล้วถือไม่ถึง เราจะแก้จาก 49% เป็น 75% ทำไม ท่านเอาความเสี่ยงของประเทศไปแลกเพื่อจะช่วยบางโครงการขายโครงการได้มากขึ้นหรือไม่ และคำว่าทรัพย์อิงสิทธิ 99 ปี ต่างกับการเช่า 99 ปีอย่างไร และทำไมต้อง 99 ปี” นี่คือข้อสังเกตของ นายศุภณัฐ มีนชัยนันท์ สส.กทม. พรรคก้าวไกล ระหว่างการตั้งกระทู้ถามในสภาผู้แทนราษฎร

หรือหากย้อนไปก่อนหน้านี้ที่ ครม.มีมติปรับปรุงมาตรการลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมสำหรับผู้อยู่อาศัย โดยลดค่าจดทะเบียนโอนอสังหาริมทรัพย์จากร้อยละ 2 เหลือร้อยละ 0.01 ที่มีราคาซื้อและราคาประเมินทุนทรัพย์ไม่เกิน 7 ล้านบาท จากเดิม 3 ล้านบาท

ซึ่งมาตรการดังกล่าวก็ถูกตั้งข้อสังเกตไปแล้วหนึ่งรอบแล้วว่า เป็นการเอื้อให้กับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ อาชีพเดิมของผู้นำหรือไม่

จะเห็นว่า 1 ปีของนายเศรษฐา นอกจากจะเบ่งผลงานไม่ออก ตัวผู้นำก็เริ่มโดนตั้งคำถามเกี่ยวกับผลประโยชน์ทับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ. 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ศึกชายแดน เปลี่ยนเกม! ‘อนุทิน’ พลิกบีบ ‘ส้ม-แดง’

พรรคภูมิใจไทย พลิกเกมขี่กระแส ชาตินิยม ได้อย่างทันทีท่วงที เมื่อ “นายกฯ หนู”-อนุทิน ชาญวีรกูล พลิกสถานการณ์จากเสียงตำหนิเรื่องน้ำท่วมใต้และปัญหาสแกมเมอร์ล่าช้า มายืนบนพื้นที่ที่ตัวเองได้เปรียบ คือกระแสชาตินิยม และประเด็นความมั่นคง

พิสูจน์กึ๋น“แม่ทัพใหม่กกต.” คุมบังเหียน2ศึกใหญ่ปีหน้า

ในช่วงปลายปี 2568 ที่กำลังจะสิ้นสุดลง กระแสการเมืองไทยกำลังร้อนแรงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะประเด็นการเตรียมจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) และการออกเสียงประชามติที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในปี 2569

แก้รธน.วาระ2เร่งสรุปเนื้อหา วัดใจวาระ3ก่อนกดปุ่มยุบสภา

ในการประชุมร่วมรัฐสภา ครั้งที่ 1 สมัยวิสามัญ เป็นพิเศษ วันพุธที่ 10 ธ.ค. และครั้งที่ 2 สมัยวิสามัญ เป็นพิเศษ วันพฤหัสบดีที่ 11 ธ.ค. ตั้งแต่เวลา 09.00 น. ถึงเที่ยงคืนโดยประมาณ เพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่…พุทธศักราช...ซึ่งคณะกรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้ว วาระ 2

ข้ามเส้นแดง“เผด็จศึกฮุน เซน” “เจ็บต้องจบ”ก่อนถูกห้ามมวย

การปรากฏตัวของขุนพล “มือขวา” ของ “สมเด็จฮุน เซน” ประธานพฤฒสภากัมพูชาเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เปรียบเหมือนสัญญาณที่บ่งชี้ว่า “กัมพูชา” กำลังขยับเข้าสู่ปฏิบัติการเอาพื้นที่คืนจากไทย ที่เราได้ยึดมาได้ใน “สงคราม 5 วัน” ช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา

วาระร้อนหลังเปิดสภาฯ12ธ.ค. จุดไฟการเมืองลุกโชนก่อนยุบ!

รัฐสภาจะกลับมาเปิดสมัยประชุมกันอีกครั้งตั้งแต่ 12 ธ.ค.นี้เป็นต้นไป ซึ่งหากจังหวะการเมืองเดินไปตาม MOA ที่ อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ทำไว้กับพรรคประชาชน ก็คือจะ ยุบสภาฯ ในวันที่ 31 มกราคม 2569

หาดใหญ่-สแกมเมอร์ทำรบ.'แต้มหล่น' 'อนุทิน'เปิดหน้าชนกู้เรตติ้ง

โดนล่อเป้าในจังหวะที่รัฐบาลกำลังอยู่ในสภาพอ่อนแอจากกรณีมหาอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ โดยเฉพาะที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา สำหรับการปล่อยภาพที่มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล