เมื่อแพทองธารขึ้นมาเป็นนายกฯ แบบเร็วเกินคาด อีกทั้งทักษิณต้องระมัดระวัง ไม่ให้ลูกสาวบริหารงานผิดพลาดจนเปิดช่องให้ฝ่ายตรงข้ามเล่นงานได้ ทักษิณจึงต้องลงมากำกับอุ๊งอิ๊งทุกฝีก้าว และนั่นจะทำให้แพทองธารเป็นแค่นายกฯ ในนามเท่านั้น แต่นายกฯ ตัวจริงก็คือ ทักษิณ
จุดที่ต้องติดตามต่อจากนี้หลัง อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร ขึ้นดำรงตำแหน่ง นายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ของประเทศไทย
มองได้ว่าเรื่องเฉพาะหน้าต้องโฟกัสไปที่สองจุดใหญ่ ก็คือ
1.โฉมหน้าคณะรัฐมนตรี “อุ๊งอิ๊ง 1”
และ 2.การเดินหน้าสานต่อนโยบายเรือธงของเพื่อไทย โดยเฉพาะ "ดิจิทัลวอลเล็ต” ที่ล่าสุดมียอดผู้ลงทะเบียนร่วม 30 ล้านคน จะจอดป้ายหรือไปต่อ?
ลงลึกในประเด็นแรก โผรายชื่อ ครม.อุ๊งอิ๊ง 1-รัฐบาลจันทร์ส่องหล้า
ชัดเจนว่า แม้แพทองธารจะเป็นนายกรัฐมนตรี แต่ในความเป็นจริง ยังไงตัวทักษิณ ผู้เป็นพ่อ ก็จะสั่งการ-ชักใยแพทองธารหนักยิ่งกว่าสมัยเศรษฐา ทวีสิน เสียอีก
เพราะแพทองธารก็คือลูกที่ต้องเชื่อฟัง รับคำบัญชาการจากทักษิณทุกเรื่อง ขัดขืนไม่ได้
ยิ่งต้นทุนการเมือง ประวัติการทำงาน ประสบการณ์ทางการเมืองและการบริหารประเทศของแพทองธาร ไม่ใช่แค่มีจำกัดแบบเศรษฐา แต่ถึงขั้นเป็น ศูนย์-ไม่มีเลย เพราะเส้นทางชีวิตอยู่บนพรหมแดง กองเงินกองทองมาตลอด แม้จะมีโปรไฟล์เป็นผู้บริหารบริษัทเอกชนต่างๆ เช่น เอสซี แอสเสทฯ แต่ก็เป็นบริษัทของตระกูลชินวัตร ที่ทักษิณดูแลและบริหารอยู่ ผ่านทีมงานนักบริหารมืออาชีพของบริษัท ตัวอุ๊งอิ๊งก็แค่มีชื่อในฐานะฝ่ายบริหารกับผู้ถือหุ้นเท่านั้น
จากจุดอ่อนดังกล่าวทำให้เมื่อแพทองธารขึ้นมาเป็นนายกฯ แบบเร็วเกินคาด อีกทั้งทักษิณก็ต้องระมัดระวังไม่ให้ลูกสาวบริหารงานผิดพลาดจนเปิดช่องให้ฝ่ายตรงข้ามเล่นงานได้ ทักษิณจึงต้องลงมากำกับอุ๊งอิ๊งทุกฝีก้าว และนั่นจะทำให้แพทองธารเป็นแค่นายกฯ ในนามเท่านั้น แต่นายกฯ ตัวจริงก็คือ ทักษิณ และทำให้จันทร์ส่องหล้าของทักษิณจะยิ่งเป็น ศูนย์กลางอำนาจประเทศไทย อย่างแท้จริง
ดังนั้น รอดูกันว่า ครม.ทักษิณ หรือ ครม.จันทร์ส่องหล้า โฉมหน้ารายชื่อ รมต.ชุดแรกของรัฐบาลอุ๊งอิ๊งจะออกมาอย่างไร จะได้เสียงขานรับจากสังคม หรือจะมีแต่เสียงร้องยี้ดังอื้ออึง เพราะภาพรวมการยอมรับ-ความน่าเชื่อถือ ย่ำแย่กว่า ครม.ยุคเศรษฐาเสียอีก
โดยแม้จะมีข่าวว่าผลการหารือระหว่าง “ทักษิณ” กับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลเมื่อคืนวันที่ 14 ส.ค. ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า
ทางทักษิณจัดการ ปิดดีลเร็ว เพื่อไม่ให้เกิดแรงกระเพื่อมทางการเมือง ด้วยการประกาศกลางวงแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลว่า โควตารัฐมนตรีแต่ละกระทรวงของพรรคร่วมรัฐบาลยังคงเหมือนเดิม ไม่มีการเขย่าใหม่ แต่หากพรรคการเมืองใดจะปรับเปลี่ยนรายชื่อ รมต.ภายในพรรคจากรายชื่อเดิมใน ครม.เศรษฐาชุดสุดท้าย ให้ไปดำเนินการกันเอง
กระนั้น เริ่มมีกระแสข่าวว่าเพื่อไทยอาจมีการเจรจากับพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อขอ เขย่าโควตาใหม่ บางกระทรวง เช่น ลือกันว่าอาจจะมีการเจรจากับ "รวมไทยสร้างชาติ” เพื่อขอ กระทรวงพลังงาน ที่รวมไทยสร้างชาติคุมโควตาอยู่ โดยมีพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรคเป็น รมว.พลังงานมาร่วมปี แลกกับ กระทรวงกลาโหม ที่หมายถึง สุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม รอบนี้อาจไม่ได้ไปต่อ
และยิ่งมีกระแสข่าวว่า ทุนใหญ่ ของรวมไทยสร้างชาติแยกทางกับแกนนำรวมไทยสร้างชาติ สายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค-เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เรียบร้อยแล้ว เห็นได้จากคนของทุนใหญ่ดังกล่าวในพรรครวมไทยสร้างชาติไม่ไปร่วมกิจกรรมการเมืองกับรวมไทยสร้างชาตินานแล้ว แม้แต่งานวันเกิดพรรคเมื่อเร็วๆ นี้
ก็ยิ่งทำให้กระแสข่าวดังกล่าวเริ่มหนักขึ้น จนลือกันว่าทุนใหญ่ดังกล่าวเจรจากับทักษิณให้เอาโควตากระทรวงพลังงานของรวมไทยสร้างชาติมาให้เพื่อไทยดูแล แล้วทุนใหญ่จะส่งคนของทุนใหญ่มาเป็น รมว.พลังงานแทนพีระพันธุ์ หรือไม่ก็ให้เป็นโควตาเพื่อไทยไปเลย แต่ขอให้ส่งคนมาเป็น รมว.พลังงานที่คุยรู้เรื่องมากกว่าพีระพันธุ์ เป็นต้น จนกระแสข่าวดังกล่าวลือไปทั่วในแวดวงพลังงานในเวลานี้
ซึ่งเรื่องข่าวการเขย่าโผ ครม.บางกระทรวงที่อาจจะมีการเจรจากันใหม่ระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล ถูกสำทับความเป็นไปได้มากขึ้นผ่านแกนนำพรรคเพื่อไทยระดับ ภูมิธรรม เวชยชัย ที่ออกมาระบุว่าอาจต้องมีการปรับโควตากันใหม่ เพราะถือเป็นรัฐบาลใหม่ ยิ่งทำให้น่าจับตาว่าการปรับเปลี่ยนดังกล่าวจะสร้างแรงกระเพื่อมภายในพรรคร่วมรัฐบาลตามมาหรือไม่?
โดย ภูมิธรรม-ผู้จัดการรัฐบาลอุ๊งอิ๊ง ระบุไว้เมื่อ 16 ส.ค.ว่า
“ไม่มีโควตาเดิมหรอกครับ เมื่อรัฐบาลเก่าสิ้นสุดลงแล้ว”
อย่างไรก็ตาม แกนนำพรรคร่วมรัฐบาลบางส่วนก็ออกมาแสดงท่าทีไม่เห็นด้วย หากจะมีการเจรจา เขย่าโควตา รมต.กันใหม่
เช่นในส่วนของ อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย-รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ออกมาย้ำหนักแน่น ภูมิใจไทยไม่มีการสลับโควตากระทรวงแน่นอน
“คงไม่มีการสลับกระทรวง ทุกคนก็กำลังทำงานเข้าที่เข้าทาง และมีความคุ้นชินระหว่างตัวผู้บริหาร ตัวรัฐมนตรี ตัวข้าราชการ และเนื้องาน การที่ไม่เปลี่ยนแปลงอะไรจะทำให้งานเดินหน้า และเกิดอุปสรรคน้อยที่สุด เราไม่มีข้อต่อรอง มีความพึงพอใจในสภาพการณ์ที่เป็นอยู่ ก็คืออยู่ที่เดิม”
อ่านทางไว้ว่า หากจะมีการเขย่า-ปรับโควตากัน ก็น่าจะเกิดขึ้นแค่ไม่กี่กระทรวง และคงเป็นระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคร่วมรัฐบาลอื่น เช่น รวมไทยสร้างชาติ แต่ก็ไม่แน่ หากเพื่อไทยไม่อยากให้เกิดแรงกระเพื่อมมากและต้องการให้การตั้งรัฐบาลจบเร็ว ก็อาจไม่ไปแตะโควตา รมต.ของรวมไทยสร้างชาติ ขณะเดียวกันก็มีข่าวว่าในรวมไทยสร้างชาติจะมีการปรับภายในเช่นกัน คือ เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค จะเป็น รมว.อุตสาหกรรม แทนพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล เป็นต้น
ขณะเดียวกันต้องดูว่าโควตา กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ของ "พลังประชารัฐ” ที่ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ น้องชายบิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตรนั่งอยู่ จะมีการเขย่าหรือไม่
เพราะล่าสุดในการโหวตนายกฯ ปรากฏว่า พล.อ.ประวิตรไม่ได้เข้าไปโหวตให้อุ๊งอิ๊งเป็นนายกฯ หลังก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้ไปโหวตให้เศรษฐาเช่นกัน เรียกว่า “ป้อมบ้านป่าฯ” โนสนโนแคร์ ทักษิณ-เพื่อไทย
แม้คนในพลังประชารัฐจะบอกว่าบิ๊กป้อมติดงานเลี้ยงต้อนรับและแสดงความยินดีให้แก่นักกีฬาที่ไปแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ แต่ก็มีการมองกันว่า ก็น่าจะพอปลีกตัวมาโหวตให้ลูกสาวทักษิณได้ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ลือกันว่าเก้าอี้ รมต.ของ พล.ต.อ.พัชรวาท น้องชายลุงป้อม ทักษิณอาจยึดเอามาอยู่กับเพื่อไทย แต่ยังคงโควตา รมต.สามเก้าอี้ให้กลุ่มของธรรมนัส พรหมเผ่า และสันติ พร้อมพัฒน์
กระนั้นก็เช่นเดียวกับรวมไทยสร้างชาติ หากทักษิณไม่ต้องการให้เกิดแรงกระเพื่อม และไม่อยากให้รัฐบาลลูกสาวตัวเองมีศัตรูการเมืองรอบทิศ ก็อาจไม่อยากไปยุ่งกับกลุ่มป่ารอยต่อฯ มาก
ด้วยต้องไม่ลืมว่า ยังไงบ้านป่าฯ ที่แม้ตอนนี้ข่าวว่าเหลือ สส.พลังประชารัฐในสายประมาณ 10 คน แต่บ้านป่าฯ ก็ยังมีฤทธิ์มีเดชทางการเมืองอยู่ โดยเฉพาะเครือข่ายในองค์กรอิสระต่างๆ เช่น คณะกรรมการ ป.ป.ช. ดังนั้นอาจปล่อยไปก่อน รอโอกาสดีๆ กว่านี้ค่อยคิดบัญชีทั้งต้นทั้งดอกก็ได้
ที่ก็เชื่อได้ว่า โฉมหน้า ครม. อุ๊งอิ๊ง 1 น่าจะนิ่งภายในไม่เกินต้นสัปดาห์นี้
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของเพื่อไทย เชื่อว่าก็น่าจะมีการปรับเปลี่ยนบ้าง รัฐมนตรีบางคนใน ครม.เศรษฐาชุดสุดท้าย มีแววสูงจะไม่ได้ร่วมรัฐบาลอุ๊งอิ๊ง แต่การปรับเปลี่ยนคงมีไม่มาก เพราะเพิ่งปรับกันมาเมื่อเมษายน 2566
หลายชื่อก็ยังน่าจะได้ไปต่อ เช่น มาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.การต่างประเทศ สายตรงทักษิณ หรือ รมต.สายใกล้ชิดอุ๊งอิ๊ง ที่เป็นกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยด้วย ก็น่าจะการันตีว่าจะยังได้เป็น รมต.ต่อไป เช่น จิราพร สินธุไพร รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี-เผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.การคลัง สองรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นต้น
ส่วนเรื่องการสานต่อนโยบายเรือธงของเพื่อไทย โดยเฉพาะ ดิจิทัลวอลเล็ต ที่ล่าสุดมีตัวเลขผู้ลงทะเบียนร่วม 30 ล้านคน
หากรัฐบาลอุ๊งอิ๊งขึ้นมาแล้วประกาศ ล้มนโยบาย-ไม่สานต่อ เพราะไปต่อไม่ไหว โดยเฉพาะหากทักษิณ-เพื่อไทย มองแล้วมีความเสี่ยง อาจถูกฝ่ายตรงข้ามคู่แค้นทางการเมืองหาช่องทางเอาผิดถึงตัวอุ๊งอิ๊งให้ได้
มันก็ไม่แน่ ทักษิณย่อมไม่อยากให้ลูกตัวเองเจอความเสี่ยง ก็อาจส่งสัญญาณให้หาทางลงด้วยการชะลอหรือยกเลิกอย่างที่มีกระแสข่าวก่อนหน้านี้
ทว่า หากไม่ไปต่อ แล้วอุ๊งอิ๊งหาเหตุผลมาอธิบายประชาชนไม่ได้ คนที่ลงทะเบียนไปร่วม 30 ล้านคน ย่อมเสียความรู้สึก และจะมีผลสั่นคลอนรัฐบาลอุ๊งอิ๊งแน่นอน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เรืองไกร ไล่บี้นายกฯทวงหลักฐานการลาออกจากตำแหน่งกรรมการบริษัท
เรืองไกร ทวงข้อมูลหลักฐานการลาออกจากตำแหน่งกรรมการบริษัทต่าง ๆ จากนายกรัฐมนตรี
เทพไทจวก ‘พรรคร่วม’ ทำตัวเป็นลูกไล่ทักษิณ
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์เฟซบุ๊ก "เทพไท - คุยการเมือง"
‘หนู’ ลั่นฟังแค่ ‘อิ๊งค์’ ยันร่วมรัฐบาลเป็นไฟต์บังคับ ‘ทักษิณ’ พูดไม่นำพา
"อนุทิน" ลั่น! รับสัญญาณจากนายกฯ อิ๊งค์เท่านั้น ยันที่ "ทักษิณ" พูดไม่ได้หมายถึงรัฐมนตรีจากพรรคภูมิใจไทย "ท่านทักษิณพูดถึงพรรคที่ไม่เข้าร่วมประชุม ผมก็ไม่นำพาไปฟังอะไรมาก"
รัฐบาลลุยขายฝันหนีบ่วงการเมือง แกนนำม็อบขยับจัดทัพเดินหน้าไล่
การแถลงผลงานรัฐบาลในรอบ 3 เดือนของ อุ๊งอิ๊ง-น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ภายใต้ชื่อ “2568 โอกาสไทย ทำได้จริง” ที่สตูดิโอ 4 สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (NBT)
'อนุทิน' ยันไม่ใส่ใจคำพูด 'ทักษิณ' โชว์ห้าวตะเพิดพรรคร่วมฯ ขอฟังแค่นายกฯอิ๊งค์
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวผ่านรายการข่าวเที่ยง ทางไทยพีบีเอส ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวในการสัมมนาพรรคเพื่อ
ชี้เปรี้ยง ’ทักษิณ’ โชว์ฟอร์มไม่ง้อพรรคร่วมรัฐบาล-เอาใจชนชั้นนำ!
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตส.ส. นครศรีธรรมราชโพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง “ทักษิณ โชว์ฟอร์ม ไม่ง้อพรรคร่วม