
เว็บไซด์สภาผู้แทนราษฎรช่วงเย็นวันที่ 1 เมษายน เผยแพร่ระเบียบวาระการประชุมสภาฯ เป็นพิเศษ วันพฤหัสบดีที่ 3 เมษายนนี้ ซึ่งปกติจะเป็นการประชุมสภาฯ ที่จะมีการพิจารณากระทู้สดและญัตติต่างๆ รวมถึงรายงานของกมธ.ชุดต่างๆ ที่พิจารณาเสร็จแล้ว แต่การประชุมวันดังกล่าว มีร่างพรบ.เสนอเข้าสภาฯห้าฉบับ ที่เสนอโดยคณะรัฐมนตรี และหนึ่งในนั้นคือร่างพรบ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร ฯ หรือร่างพรบ.เอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ที่ให้มีการเปิดกาสิโน ฯ เข้าสู่การพิจารณาของสภาฯเรียบร้อย
จึงต้องจับตาว่าการประชุมสภาฯวันพฤหัสบดี 3 เม.ย.อาจมีการพิจารณาร่างพรบ.กาสิโนฯ เลยหรือไม่ หลังก่อนหน้านี้ วิปรัฐบาล บอกไว้ว่าจะพิจารณาวันที่ 9 เม.ย. ซึ่งหากพิจารณาไม่ทัน วันที่ 3 เม.ย. ก็อาจต้องขยับไปสัปดาห์หน้า
ก่อนหน้านี้ “วิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธานวิปรัฐบาล”จากพรรคเพื่อไทย ย้ำชัดหลายรอบในช่วงหลายวันที่ผ่านมา วิปรัฐบาลพร้อมเปิดไฟเขียว ดัน”ร่างพระราชบัญญัติธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร” (เอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์) ที่ให้มี”กาสิโน”เข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมสภาฯ ในสัปดาห์หน้า 9 เม.ย. เพื่อให้ทันสภาฯ เห็นชอบวาระแรกขั้นรับหลักการ ก่อนปิดสมัยประชุมสภาฯ 11 เม.ย.
ทั้งที่ร่างพรบ.ฯดังกล่าว เพิ่งผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อ 27 มี.ค.ที่ผ่านมา เท่ากับหากสภาฯพิจารณาร่างพรบ.กาสิโนฯ วันที่ 9 เม.ย.นี้ ก็คือ ใช้เวลาไม่ถึงสองสัปดาห์ จากครม.ก็เอาร่างกม.กาสิโน เข้าสภาฯให้ผ่านวาระแรกขั้นรับหลักการเลย ซึ่งเป็นเรื่องที่เร็วมากในการเสนอร่างกฎหมายจากฝ่ายบริหารไปที่สภาฯ ทั้งที่ไม่ใช่กฎหมายการเงิน-กฎหมายความมั่นคงฉุกเฉิน อะไรที่จะต้องเร่งรัด-เร่งรีบ ถึงเพียงนี้
ประเมินแล้ว ดูจากอาการเร่งรีบดังกล่าวของรัฐบาล ทำให้ เชื่อได้ว่า หลังสภาฯ โหวตรับหลักการ่างพรบ.กาสิโนวาระแรก แล้วมีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพรบ.กาสิโน ฯ ตามขั้นตอนปกติ จากนั้น ฝ่ายรัฐบาลก็คงไปล็อบบี้-สั่งการ กมธ.เสียงข้างมากที่เป็นคนของฝ่ายรัฐบาล-พรรคร่วมรัฐบาล ให้เร่งพิจารณาร่างพรบ.กาสิโน ให้ออกมาโดยเร็ว เพื่อส่งให้สภาฯพิจารณาวาระสองและวาระสามโดยเร็วที่สุด โดยใช้ช่วงปิดสภาฯ ไปสองเดือน กมธ.ฯ ก็ไปพิจารณาเรียงรายมาตราฯ มาให้เสร็จเรียบร้อยภายในสองเดือน จากนั้นพอเปิดสภาฯ ช่วงมิ.ย. -ก.ค. ทางกมธ.ฯ ก็ส่งร่างกฎหมายกาสิโน เข้าสภาฯ แล้ววิปรัฐบาลเพื่อไทย ก็จะไปดันต่อ ให้เอาร่างพรบ.กาสิโน เข้ามาพิจารณาโดยเร็ว และใช้เสียงข้างมาก โหวตให้ผ่านสภาฯโดยเร็ว เพื่อส่งต่อไปยังวุฒิสภา
ดูทรงแล้ว รัฐบาลคงวางแผนต้องการให้ร่างพรบ.กาสิโน ฯ ผ่านจากรัฐสภา ภายในไม่เกินปลายปีนี้ จากนั้นพอกฎหมายกาสิโนประกาศใช้ จะได้เร่งทำขั้นตอนต่างๆ ต่อไปตามกฎหมาย เช่นการกำหนดพื้นที่ตั้งเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ที่จะมีกาสิโน จะให้มีกี่แห่งและให้ก่อสร้างที่จัดหวัดใดบ้าง รวมถึงหลักเกณฑ์การพิจารณาออกใบอนุญาตกับผู้ประกอบการที่ยื่นเรื่องขอใบอนุญาตเปิดกาสิโน-เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ จะมีรายละเอียดอย่างไรบ้าง -หลักเกณฑ์การเปิดรับฟังความคิดเห็นประชาชนในพื้นที่ซึ่งจะมีการก่อสร้าง-เปิดกาสิโนฯ เป็นต้น
โดยกระบวนการต่างๆ ที่จะออกมาหลังกฎหมายกาสิโนประกาศใช้ รัฐบาลเพื่อไทย ก็คงไปเร่งอีกเช่นกันเช่น เร่งให้ คณะกรรมกานโยบายสถานบันเทิงครบวงจรฯ ออกใบอนุญาตหรือขายใบอนุญาตเปิดกาสิโนฯ ให้เสร็จภายในปีไม่เกินกลางปี 2569 เป็นต้น
การเร่งรัด-เร่งรีบดังกล่าวของรัฐบาลเพื่อไทย ที่ต้องการเร่งออกกฎหมายสถานบันเทิงครบวงจรฯให้ได้โดยเร็วที่สุดดังกล่าว จึงไม่พ้นถูกวิพากษ์วิจารณ์และตั้งข้อสังเกตุถึงความเร่งรัดดังกล่าวว่า มีเบื้องหน้าเบื้องหลังอะไรหรือไม่ ถึงเร่งผิดปกติ ยิ่งตอนนี้ ประเทศไทยก็ยังต้องรับมือกับผลพวง อาฟเตอร์ช็อกแผ่นดินไหว ไทม์มิ่งไม่น่าเหมาะจะมาเร่งออกกฎหมายที่อ่อนไหวต่อสังคมไทย ผนวกกับแรงคัดค้าน-เสียงต่อต้านร่างกฎหมายกาสิโนจากประชาชนหลายภาคส่วนก็ยังแรงอยู่ ที่ไม่เห็นด้วยกับการให้ประเทศไทยมีการเปิดบ่อนกาสิโน แต่รัฐบาลกลับจะเร่งรัด จะออกกฎหมาย-ขายใบอนุญาตเปิดกาสิโนให้ได้
ทั้งที่เนื้อหาในร่างพรบ.กาสิโนฯ มีหลายประเด็นที่สังคมยังเห็นว่ามีจุดอ่อน -ช่องโหว่ มากมาย ในการบังคับใช้เป็นกฎหมาย ที่ประชาชนหลายภาคส่วน เห็นว่ารัฐบาลควรรับฟังเสียงสะท้อนให้รอบด้านเสียก่อน เพื่อให้การพิจารณาออกกฎหมายเป็นไปอย่างรอบคอบ ไม่ใช่มาเร่งรัดอย่างที่เห็น
จึงไม่แปลกที่ การเร่งรัดดังกล่าว จะถูกจับตามองว่า เป็นเพราะรัฐบาลเพื่อไทย ต้องการจะให้กฎหมายบังคับใช้โดยเร็ว จะได้มีการออกใบอนุญาตให้กับกลุ่มทุนขนาดใหญ่ ที่จะเป็นการร่วมมือกันของ ทุนกาสิโนข้ามชาติกับบริษัทในไทย ที่ร่วมกันยื่นขอเปิดเอ็นเตอรเทนเมนต์คอมเพล็กซ์ โดยให้มีการออกใบอนุญาตให้แล้วเสร็จก่อนการเลือกตั้งใหญ่ปี 2570 ใช่หรือไม่ ปมกังขาดังกล่าวของคนในสังคม ก็คือ เจตนาการเร่งรัดครั้งนี้ เสมือนหนึ่งต้องการสะสมทุน-เสบียงไว้สำหรับการเลือกตั้ง เลยต้องมีการเร่งออกกฎหมายเพื่อวางบิลไว้ก่อน ให้กลุ่มทุนกาสิโน โดยเฉพาะทุนกาสิโนข้ามชาติได้เกิดความมั่นใจว่า กาสิโนเกิดแน่ในรัฐบาลชุดนี้ ยิ่งเมื่อใช้ระบบการออกใบอนุญาตให้เปิดเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ -กาสิโน ไม่ใช่การประมูล ก็ทำให้ กลุ่มที่จะได้ใบอนุญาตทำธุรกิจเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์-เปิดบ่อนกาสิโนในไทย ต้องไม่ธรรมดาแน่นอน
แต่ข้อกังขาจะใช่หรือไม่ สิ่งสำคัญคือต้องดูพฤติกรรมทางการเมืองของรัฐบาลเพื่อไทย เป็นสำคัญว่ามีพิรุธหรือไม่?
อย่างทัศนะของ”ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าและส.ส.พรรคประชาชน”ก็ระบุชัดๆว่าความเร่งรีบดังกล่าวของรัฐบาล ทำให้ตอนนี้ ไม่รู้แล้วว่าเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์เป็นนโยบายเศรษฐกิจหรือเป็นนโยบายหาเงินของพรรคการเมืองหรือไม่กันแน่
“เป้าประสงค์คือต้องผ่านกฎหมาย แล้วออกใบอนุญาตให้ได้ก่อนที่จะหมดสมัยประชุมใช่หรือไม่ ความพยายามเร่งรีบ มันเป็นการออกบิล เหมือนเป็นการวางบิลเก็บเงินว่าที่ได้ตกลงกันไว้ ทำมาคืบหน้าถึงตรงนี้แล้ว ล็อกใบอนุญาตไว้ให้ได้แล้ว”
ทำให้ต้องรอดูการผลักดันออกกฎหมายกาสิโนของรัฐบาลว่าจะทำได้แบบรวดเร็วอย่างที่วางแผนไว้หรือไม่ ด้วยแม้รัฐบาลเพื่อไทย จะมีเสียงข้างมากในสภาฯ เพราะพรรคร่วมรัฐบาลแม้อาจมีบางพรรคไม่เห็นด้วยกับกาสิโน แต่ไม่กล้าแสดงออกเพราะกลัวโดนถีบออกไปเป็นฝ่ายค้าน เลยต้องตามน้ำตามพรรคเพื่อไทยไป แต่ก็ต้องดูองค์ประกอบอื่นๆ ระหว่างทางด้วยเช่น ฝ่ายสมาชิกวุฒิสภา(สว.)จะมีการออกมาขวางลำเพื่อดีเลย์การออกกฎหมายให้ล่าช้าออกไปหรือไม่ เหมือนเช่นที่สว.เคยขวางการแก้ไข “พรบ.การออกเสียงประชามติ”ที่สว.ขวางจนทำให้ดีเลย์ไป 180 วัน จทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญสะดุด
หลังสว.หลายคนเริ่มเปิดตัวแล้วว่าจะไม่ร่วมสังฆกรรมเห็นชอบร่างกฎหมายให้ประเทศไทยมีบ่อน แต่ไม่แน่ หากเพื่อไทยไปเจรจากับแกนนำพรรคสีน้ำเงิน ให้ไปล็อบบี้-สั่งสว.สีน้ำเงินว่าอย่าขวางร่างกม.กาสิโน ฯ
จนทำให้ สว.สีน้ำเงิน อาจไม่ขวางการออกกฎหมายกาสิโน ถ้ามีการร้องขอมา แล้วสว.ยอมทำตาม แม้อยากคัดค้านก็ตามที!!!
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ศึกชายแดน เปลี่ยนเกม! ‘อนุทิน’ พลิกบีบ ‘ส้ม-แดง’
พรรคภูมิใจไทย พลิกเกมขี่กระแส ชาตินิยม ได้อย่างทันทีท่วงที เมื่อ “นายกฯ หนู”-อนุทิน ชาญวีรกูล พลิกสถานการณ์จากเสียงตำหนิเรื่องน้ำท่วมใต้และปัญหาสแกมเมอร์ล่าช้า มายืนบนพื้นที่ที่ตัวเองได้เปรียบ คือกระแสชาตินิยม และประเด็นความมั่นคง
พิสูจน์กึ๋น“แม่ทัพใหม่กกต.” คุมบังเหียน2ศึกใหญ่ปีหน้า
ในช่วงปลายปี 2568 ที่กำลังจะสิ้นสุดลง กระแสการเมืองไทยกำลังร้อนแรงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะประเด็นการเตรียมจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) และการออกเสียงประชามติที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในปี 2569
แก้รธน.วาระ2เร่งสรุปเนื้อหา วัดใจวาระ3ก่อนกดปุ่มยุบสภา
ในการประชุมร่วมรัฐสภา ครั้งที่ 1 สมัยวิสามัญ เป็นพิเศษ วันพุธที่ 10 ธ.ค. และครั้งที่ 2 สมัยวิสามัญ เป็นพิเศษ วันพฤหัสบดีที่ 11 ธ.ค. ตั้งแต่เวลา 09.00 น. ถึงเที่ยงคืนโดยประมาณ เพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่…พุทธศักราช...ซึ่งคณะกรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้ว วาระ 2
ข้ามเส้นแดง“เผด็จศึกฮุน เซน” “เจ็บต้องจบ”ก่อนถูกห้ามมวย
การปรากฏตัวของขุนพล “มือขวา” ของ “สมเด็จฮุน เซน” ประธานพฤฒสภากัมพูชาเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เปรียบเหมือนสัญญาณที่บ่งชี้ว่า “กัมพูชา” กำลังขยับเข้าสู่ปฏิบัติการเอาพื้นที่คืนจากไทย ที่เราได้ยึดมาได้ใน “สงคราม 5 วัน” ช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
วาระร้อนหลังเปิดสภาฯ12ธ.ค. จุดไฟการเมืองลุกโชนก่อนยุบ!
รัฐสภาจะกลับมาเปิดสมัยประชุมกันอีกครั้งตั้งแต่ 12 ธ.ค.นี้เป็นต้นไป ซึ่งหากจังหวะการเมืองเดินไปตาม MOA ที่ อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ทำไว้กับพรรคประชาชน ก็คือจะ ยุบสภาฯ ในวันที่ 31 มกราคม 2569
หาดใหญ่-สแกมเมอร์ทำรบ.'แต้มหล่น' 'อนุทิน'เปิดหน้าชนกู้เรตติ้ง
โดนล่อเป้าในจังหวะที่รัฐบาลกำลังอยู่ในสภาพอ่อนแอจากกรณีมหาอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ โดยเฉพาะที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา สำหรับการปล่อยภาพที่มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล

