ถึงตอนนี้ยังไม่ชัดว่า”ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี”น้องสาวทักษิณ และอาปูของ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะได้เดินทางกลับประเทศไทย ตามรอยพี่ชาย ทักษิณ ในวันใด ปีไหน และด้วยวิธีการแบบไหน?
แม้ก่อนหน้านี้ ทักษิณจะเคยบอกไว้เมื่อเมษายน 2567 ว่าจะพา ยิ่งลักษณ์กลับมาเล่นสงกรานต์ที่บ้านเกิดเชียงใหม่ ในเดือนเมษายน 2568 ให้ได้ แต่สุดท้าย ทักษิณ ก็ทำไม่สำเร็จ เพราะหลายอย่างไม่เป็นไปตามที่คาดคิด
โดยเฉพาะการที่ ทักษิณ ถูกองค์กรต่างๆ ตรวจสอบไล่หลังปม นักโทษเทวดาชั้น 14 รพ.ตำรวจอย่างหนัก ทำให้ขนาดตัวเองยังเอาตัวแทบไม่รอด ขืนมีกรณี ยิ่งลักษณ์ เข้ามาอีกคน จะยิ่งหนักเข้าไปใหญ่
และที่สำคัญ แรงต้าน สังคมไทย คงไม่ยอม ให้ ยิ่งลักษณ์ เดินตามรอย ทักษิณ พี่ชาย ด้วยการกลับไทยโดยไม่ต้องรับผิด-ติดคุกแม้แต่วันเดียวในคดีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองฯ ตัดสินจำคุกยิ่งลักษณ์ 5 ปีในคดีจำนำข้าว
เพราะแค่ทักษิณ ได้อภิสิทธิ์ชนโดยการช่วยเหลือของหน่วยงานภาครัฐต่างๆ จนทำให้ไม่ต้องรับโทษ มันก็สร้างความเสียหายต่อกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทยอย่างหนัก
ดังนั้น หากยิ่งลักษณ์ จะเดินตามรอย ทักษิณ อีกคน คาดว่าสังคมไทยคงลุกฮือ ต่อต้าน ยอมไม่ได้
จุดนี้ ทักษิณ ก็อ่านสถานการณ์ออก เพราะหากยิ่งลักษณ์ กลับไทยในช่วงที่ แพทองธาร ที่เป็นหลานสาวยิ่งลักษณ์ นั่งเป็นนายกฯ มันย่อมทำให้ประชาชนไม่พอใจ รัฐบาลแพทองธาร ที่ต้องถูกมองว่าช่วยเหลือ อาของตัวเอง
และที่สำคัญ จะถูกฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง หาช่องเล่นงาน-ตรวจสอบ เอาผิด แพทองธาร ได้โดยตรง
เพราะตอนทักษิณกลับมา ยังอ้างได้ว่าเป็นช่วงรอยต่อรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ก่อนที่รัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน จะเข้ามาบริหารประเทศ แต่หาก ยิ่งลักษณ์ กลับมาและไม่ติดคุกแม้แต่วันเดียวในยุครัฐบาลแพทองธาร
งานนี้ นายกฯ แพทองธาร หลีกเลี่ยงการถูกตรวจสอบและเอาผิดไม่ได้ ต้องรับไปเต็มๆ ทำให้ ทักษิณ ไม่ยอมเสี่ยง จะให้ น้องสาว มาทำให้ รัฐบาลลูกสาว ตัวเอง พังลงเพราะเรื่องนี้
ส่วน”ระเบียบกรมราชทัณฑ์ ว่าด้วยการดำเนินการสำหรับการคุมขังในสถานที่คุมขัง” ฉบับแก้ไขปรับปรุงฯ ที่ออกมาเมื่อเมษายน 2568 ที่ให้ใช้ สถานที่อยู่อาศัย เป็นสถานที่คุมขังได้ ก็ติดล็อกตรงที่ ผู้ต้องขังที่จะได้สิทธิดังกล่าว ต้องเป็นผู้ต้องขังในคดีที่ ศาลมีคำพิพากษาลงโทษจำคุกไม่เกิน 4 ปี หรือนักโทษเด็ดขาดซึ่งเหลือโทษจำคุกต่อไปไม่เกิน 4 ปี หากมีการพระราชทานอภัยโทษหรือลดโทษให้ถือเอากำหนดโทษตามหมายแจ้งโทษเด็ดขาดหรือคำสั่งให้ลดโทษฉบับหลังสุดฯ
ซึ่ง ยิ่งลักษณ์ โดนศาลฎีกาตัดสินจำคุก 5 ปี จึงไม่เข้าข่าย ยกเว้นแต่กลับมารับโทษติดคุกสักระยะ แล้วยื่นเรื่องขอพระราชทานอภัยโทษหรือลดโทษ เพื่อให้เหลือโทษจำคุกน้อยลงคือไม่เกินสี่ปี แล้วใช้อำนาจรัฐช่วยเหลือให้ได้รับสิทธิ์ดังกล่าว แต่ ยิ่งลักษณ์ ก็คงไม่พร้อมจะกลับมาติดคุก แม้อาจติดคุกไม่กี่วัน สู้ทำแบบทุกวันนี้คือ หนีคดีอยู่ต่างประเทศ อยู่ต่างประเทศกับลูกชาย ที่เรียนอยู่ต่างประเทศ ย่อมมีความสุขมากกว่า
ขณะที่ยังไม่ชัดว่า “แผนพายิ่งลักษณ์กลับไทยแบบปูพรหมแดง”ของทักษิณ จะออกมาอย่างไรและใช้แผนวันไหน
แต่สัปดาห์นี้ “ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์”ต่างรอลุ้นฟังข่าวดี ที่จะต้องไม่จ่ายเงินให้รัฐร่วม 35,000 ล้านบาทในคดี”จำนำข้าว” ที่เป็นมหากาพย์ยืดเยื้อมาหลายปี แต่จะสิ้นสุดและรู้ผลกันเด็ดขาดวันพฤหัสบดีนี้ 22 พ.ค.
เพราะวันดังกล่าว ศาลปกครองสูงสุด นัดอ่านคำพิพากษา ในคดียิ่งลักษณ์ กับพวกรวม2 คน(สามี) ฟ้องคดีกับนายกรัฐมนตรี กับพวกรวม9 คน ในคดีที่กระทรวงการคลังได้มีคำสั่งให้ ยิ่งลักษณ์ ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนในโครงการรับจำนำข้าว วงเงิน 35,717,273,028 บาท
หลังก่อนหน้านี้ เมื่อเมษายน 2564 ศาลปกครองกลางมีคำตัดสินให้ ยิ่งลักษณ์ ชนะคดี ที่ก็คือไม่ต้องชดใช้เงินดังกล่าว ตามที่กระทรวงการคลัง มีคำสั่งให้ยิ่งลักษณ์ จ่ายเงินดังกล่าวให้กับรัฐเพื่อ ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน กรณีปล่อยให้มีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว และเพิกเฉยไม่ระงับยับยั้งความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ราชการ
แต่ยิ่งลักษณ์และนายอนุสรณ์ อมรฉัตร สามี ร่วมกันยื่นฟ้องนายกรัฐมนตรีกับพวก เช่นรมว.คลังฯ -กรมบังคับคดี โดยร้องศาลปกครองกลางว่า เป็นคำสั่งไม่ชอบด้วยกฎหมาย และชนะคดีในที่สุด
ส่วนเหตุผลที่ศาลปกครองกล่าง ตัดสินให้ ยิ่งลักษณ์ ชนะคดีก็คือ “คำสั่งให้ชดใช้เงินดังกล่าว เป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะการทุจริตเกิดขึ้นในเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติ ซึ่งมีเจ้าหน้าที่หลายคนเกี่ยวข้อง แต่การสอบสวนของคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิด กลับมิได้มีการดำเนินสอบสวนให้ได้ว่า เจ้าหน้าที่คนใดควรต้องรับผิดเป็นจำนวนเท่าใด จากการทุจริต
อีกทั้งในฐานะนายกรัฐมนตรี รับรู้เกี่ยวข้องเฉพาะขั้นตอนการทำเอ็มโอยู เพื่อให้มีการซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ แต่ในส่วนการทำสัญญาระบายข้าวไม่ได้เกี่ยวข้อง รวมถึงกระทรวงการคลัง ก็รับว่า ไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นผู้กระทำให้เกิดความเสียหายโดยตรง และขั้นตอนการตรวจสอบของคณะกรรมการสอบสวนความรับผิดทางละเมิดก็ไม่ถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด”
การแพ้คดีดังกล่าว ทำให้ รัฐบาลในยุคพลเอกประยุทธ์ สั่งให้กระทรวงการคลังยื่นอุทธรณ์คดีต่อศาลปกครองสูงสุด จนศาลปกครองสูงสุดนัดฟังคำตัดสินวันพฤหัสบดีนี้ 22 พ.ค.
ที่หากนส.ยิ่งลักษณ์ชนะคดี ทำให้ไม่ต้องชดใช้เงินหลายหมื่นล้านบาท และทำให้ ที่กรมบังคับคดี อายัด-ยึดทรัพย์ ของยิ่งลักษณ์ไปเช่น บ้านพักที่ซอยโยธินพัฒนา ก็ต้องยกเลิกการอายัดทรัพย์ ทันทีไปติดตามทรัพย์สินของยิ่งลักษณ์ ที่นำไปขายทอดตลอดก่อนหน้านี้กลับคืนมา
อ่านสถานการณ์ไว้ว่า หากยิ่งลักษณ์ชนะคดี ฝ่ายเพื่อไทย คงออกมาสร้างกระแส ทวงคืนความชอบธรรมให้กับยิ่งลักษณ์ ทำนอง ศาลฎีกาฯตัดสินจำคุก แต่ศาลปกครองสูงสุดบอกว่ายิ่งลักษณ์ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องหรือต้องรับผิดชอบเรื่องจำนำข้าว หลังก่อนหน้านี้ เคยทำมาแล้วเช่น การที่ ภูมิธรรม เวชยชัย สมัยเป็นรมว.พาณิชย์ พาสื่อไปตรวจโกดังที่เก็บข้าวในโครงการจำนำข้าวไว้หลายปี แล้วเอามาหุงโชว์สื่อ บอกว่าเป็นข้าวที่กินได้ จนถูกจับไต๋ว่ามันคือ
”แผนฟอกขาว ล้างผิด ให้ยิ่งลักษณ์ ในคดีจำนำข้าว ปูทางกลับไทย”
หากวันที่ 22 พ.ค.นี้ ยิ่งลักษณ์ กำชัยชนะที่ศาลปกครองสูงสุด เป็นไปได้ อาจได้เห็นการปั่นกระแสเรื่อง ยิ่งลักษณ์ ไม่ผิดคดีจำนำข้าว จะกลับมาอีกรอบ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'อิ๊งค์' โพสต์ภาพคู่ 'ทักษิณ' สุขสันต์วันพ่อ อดทนไว้ เราจะได้ไปเที่ยวรอบโลกด้วยกัน
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย โพสต์ภาพถ่ายร่วมกับนายทักษิณ ชินวัตร พร้อมระบุข้อความผ่านอินสตาแกรมว่า
หยิกเล็บเจ็บเนื้อ! 'ภท.-พท.' โต้เดือดพัวพัน 'เบน สมิธ'
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า กรณีเบน สมิธ : ภูมิใจไทย-เพื่อไทย หยิกเล็บเจ็บเนื้อ
รู้จักน้อยไปจริง! กระทุ้ง 'อนุทิน' เผยตัวตนให้มากขึ้น
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า หรือเรารู้จักท่านนายกรัฐมนตรีน้อยไปจริงๆ
'ทักษิณ' ร่วมเวที 'เสก โลโซ' ร้องเพลงใจสั่งมา ในเรือนจำกลางคลองเปรม
"ทักษิณ" ขึ้นเวทีเรือนจำฯ ควงไมโครโฟนร้องเพลง "ใจสั่งมา" บรรยากาศอบอุ่นมวลความสุข เพื่อนผู้ต้องขังกว่า 1,000 คน ต่างลุกโชว์สเต็ปแด๊นซ์
เพจดังงัดภาพใหม่กว่า ตบหน้าแฟนคลับพรรคแดง ขว้างงูไม่พ้นคอ ทักษิณก็รู้จัก 'เบน สมิธ'
จากกระแสวิพากษ์วิจารณ์ หลังปรากฏภาพนายเบน สมิธ ถ่ายร่วมเฟรมกับบุคคลระดับสูงในแวดวงการเมืองไทย ได้แก่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี, นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
จิรุตม์-มณฑลลุ้นผงาดกกต. สีน้ำเงินคุมเสียงข้างมาก7เสือ
เมื่อมีความชัดเจนทางการเมืองว่า “พรรคเพื่อไทย” จะยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ หลังการโหวตร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญวาระ 3 ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นช่วงปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า 2569


