“อุ๊งอิ๊ง”หักภท.ยึดมท.1 เพื่อไทยหนีเสือปะจระเข้

เกมการเมืองชิงอำนาจของฝ่ายแดงและน้ำเงินใกล้เข้าสู่จุดแตกหักเต็มที หลังคณะอนุกรรมการสืบสวนและไต่สวนชุด 26 กกต. ออกหมายเรียกฮั้ว สว.ชุดที่ 7 แก่บรรดาแกนนำสีน้ำเงิน นำโดย “2 นอ” คือ “นอหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และ “เสี่ยนอ” เนวิน ชิดชอบ ครูใหญ่พรรคภูมิใจไทย พร้อมด้วยคณะกรรมการบริหารพรรคภูมิใจไทยอีกหลายคน  

เกมนี้เพื่อไทยเล่นแรงถึงขั้นยุบพรรคภูมิใจไทย หลังก่อนหน้านี้พยายามต่อรองส่วนแบ่งในองค์กรอิสระ รวมถึงกดให้กฎหมายกาสิโนและกฎหมายการพนันถูกกฎหมาย ให้ฝ่ายสีน้ำเงินยอมผ่านไปง่ายๆ หลัง “นายใหญ่” ดีลกับนักลงทุนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว 

สำหรับประเด็นคดีฮั้ว สว. ฝั่งพรรคภูมิใจไทยมั่นใจว่าสามารถชี้แจงได้ เพราะเป็นเพียงข้อกล่าวหาลอยๆ เหมือนคัดลอกแล้ววาง อีกทั้งกระบวนการของ กกต.เพิ่งเริ่มต้นขั้นที่ 1 ทั้งที่มี 4 ขั้นตอน และหากเห็นว่าสามารถชี้แจงได้ และไม่มีหลักฐานก็สั่งยุติเรื่อง แต่หากมีความผิดจึงส่งให้ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งตัดสิน ซึ่งใช้เวลานาน  

แตกต่างจากคดีที่ฝ่าย สว.สีน้ำเงิน เดินหน้าแต่งตั้งองค์กรอิสระต่างๆ ในปีนี้อีกหลายตำแหน่ง อาทิ ศาลรัฐธรรมนูญ กกต.และ ป.ป.ช.ที่สามารถให้คุณให้โทษนักการเมืองได้   

ขณะเดียวกันคณะ สว.สีน้ำเงิน ได้ยื่นเอาผิดเครือข่าย “นายใหญ่” อย่างเช่นการใช้อำนาจของคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) และปรากฏว่า 3 องค์กรอิสระได้รับไว้พิจารณา เพราะเข้าองค์ประกอบความผิด เป็นที่เรียบร้อยแล้ว  

ประกอบด้วย ข้อ 1.คณะ สว.ร้องศาลรัฐธรรมนูญ ให้นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ในฐานะประธาน กคพ.และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ในฐานะรอง กคพ.พ้นจากความเป็นรัฐมนตรี โดยศาลรัฐธรรมนูญรับฟ้อง และหยุดปฏิบัติหน้าที่ “พ.ต.อ.ทวี” ที่กำกับดีเอสไอไปแล้ว   

ข้อ 2 คณะ สว.ยื่นร้อง ป.ป.ช.ให้ลงโทษ พ.ต.อ.ทวีกับ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ และได้รับคำร้อง และตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง   

ข้อ 3 คณะ สว.ยื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน และผู้ตรวจฯ ได้รับไว้สอบสวนแล้วว่า การทำหน้าที่ของ กคพ.ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่  

ฉะนั้นหากเปรียบเทียบเส้นทางของนิติสงครามของ 2 ฝ่าย ทางฝั่ง สว.สีน้ำเงินอาจถึงเส้นชัยก่อน ยกตัวอย่างเช่น หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยลงโทษให้ “ภูมิธรรม” และ “พ.ต.อ.ทวี” พ้นจากตำแหน่ง อยากถามว่าคดีในชั้น กกต.จะกล้าเดินหน้าต่อหรือไม่ 

ขณะที่ฝ่ายแดงหวังจะใช้องค์กรอิสระต่างย้อนศร สว.สีน้ำเงินบ้าง แต่ที่ผ่านมาก็เป็นหมัน อย่างเช่น ศาลรัฐธรรมนูญก็ไม่รับคำร้องของ “ณฐพร โตประยูร” อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจเงินแผ่นดิน ในหลายกรณี หวังเอาผิด กกต.จัดการเลือกตั้ง สว.ไม่สุจริต หลังคนพรรคภูมิใจไทยกล่าวหาว่า “ณฐพร” มีเจตนาซ่อนเล้นรับงานดีเอสไอ มายื่นยุบพรรคภูมิใจไทยต่อ กกต.และศาลรัฐธรรมนูญ 

จนสุดท้ายต้องเผชิญกับวิบากกรรมเก่าในคดีฟอกเงิน ในคดีสหกรณ์เคดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ต้องนอนคุกเพราะศาลอาญาไม่ให้ประกันตัว    

หันมาอีกสนามรบฝ่ายบริหาร “นายใหญ่” เดินหน้าครอบงำ “นายกฯ อิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ พรรคเพื่อไทย และพรรคสาขา เต็มสูบไล่บี้ขั้นแตกหักกับพรรคภูมิใจไทย เพื่อยึดกระทรวงมหาดไทย  

มีรายงานข่าวระหว่างที่ “นายกฯ อิ๊งค์” เชิญ “อนุทิน” มาหารือที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบฯ เมื่อวันที่ 16 มี.ค. ได้ ยื่นข้อเสนอแลกกระทรวงสาธารณสุขกับกระทรวงมหาดไทย  

แต่ “มท.หนู” รีบปฏิเสธทันที เพราะมองว่าไม่ได้ทำอะไรผิด อีกทั้งเป็นข้อเสนอที่ไม่สมเหตุสมผล และผิดจากสัญญาการจัดตั้งรัฐบาล ที่พรรคภูมิใจไทยสนับสนุนให้คนของพรรคเพื่อไทยเป็นนายกฯ ถึง 2 คน 

อนุทิน ให้สัมภาษณ์ภายหลังว่า ไม่ได้คุยเรื่องปรับ ครม.กับนายกฯ แต่ก็ย้ำหลักการว่า หากถูกริบกระทรวงมหาดไทย ก็พร้อมจะเป็นฝ่ายค้าน 

สอดคล้องกับ “ชาดา ไทยเศรษฐ์” สส.อุทัยธานี และแกนนำพรรคภูมิใจไทย ระบุว่า พรรคภูมิใจไทยมีเกียรติและศักดิ์ศรี พร้อมทำงานในทุกตำแหน่ง 

ส่วน “นายกฯ อิ๊งค์” ให้สัมภาษณ์วันที่ 17 มิ.ย.ว่ายังไม่มีการพูดคุยเรื่องปรับ ครม. แต่ก็ไม่ยืนยันว่าตำแหน่งเก้าอี้ มท.1 เป็นของ “อนุทิน” ต่อไป  

ท่าทีของนายกฯ ที่ส่งสัญญาณออกมาว่า อึดอัดและ หนักใจ หลังถูก “พ่อนายกฯ“ กดดันอย่างหนัก ต้องการยึดกระทรวงมหาดไทย

เมื่อต่างฝ่ายไม่มีใครยอม จึงต้องกลับไปวัดกำลัง และตัวเลข สส.ในสภาฯ ของตัวเอง หากนายใหญ่จะหักพรรคภูมิไทย ก็ต้องมั่นใจว่าดึงเสียงงูเห่ามาทดแทนได้หรือไม่ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย หลัง 6 สส.กลุ่มมะขามหวาน ของ “สันติ พร้อมพัฒน์” และ 2 สส.อุดรธานี ปิดดีลมาอยู่กับพรรคภูมิใจไทย ทั้งที่เคยถูกนำไปเคลม และนำไปสร้างราคากับ “นายใหญ่” มาแล้ว แต่ท้ายสุดวืด 

 อีกทั้งต้องไม่ลืมว่า หากไร้เงาพรรคสีน้ำเงิน อาจเจอปัญหาใหม่ ที่พรรคร่วมรัฐบาลอื่นๆ ต่างลุกขึ้นมาขี่คอ ต่อรอง รุมกินโต๊ะพรรคเพื่อไทย เนื่องจากเสียงของรัฐบาลอยู่ในสภาปริ่มน้ำ 

เช่นเดียวกับพรรคภูมิใจไทย 69 เสียง หากย้ายไปเป็นฝ่ายค้านแล้ว ต้องดูว่าพลังฝ่ายอนุรักษนิยมอย่าง พรรครวมไทยสร้างชาติ 18 เสียง (กลุ่มพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค) และกลุ่มพรรคประชาธิปัตย์ 5 เสียง นำโดย กลุ่มชวน หลีกภัย ออกมาด้วยหรือไม่ หากเดินตามมาจริง รัฐบาลจะกลายเป็นเสียงข้างน้อย ขณะที่ฝ่ายค้านจะมีเสียงข้างมากทันที

รวมถึงไพ่ในมือของ “ครูใหญ่” จะมีอะไรอีกหรือไม่ เช่น งูเห่าสีแดงแถวๆ อีสาน ที่เริ่มปล่อยข่าวออกมาอาจย้ายค่าย เพราะมั่นใจสถานการณ์ของ “นายใหญ่” รวมถึงคดีชั้น 14 ก็ใกล้เข้ามาจับคนผิดติดคุก เพื่อฟื้นฟูกระบวนการยุติธรรมที่เสียหายไป 

เช่นเดียวกับกลไกของ สว.สีน้ำเงินอีกประมาณ 138 เสียง ที่จะเปลี่ยนบทมาเป็นฝ่ายค้าน เดินหน้ารบทุกลมหายใจ ไม่ว่าจะยื่นตรวจสอบผ่านองค์กรอิสระ หรือทุกกฎหมายของรัฐบาลจะเจอดองด้วยเงื่อนไข 180 วัน

จึงเป็นเรื่องที่ "นายใหญ่" และ "นายกฯ อิ๊งค์" ต้องดีดลูกคิด คำนวณตัวเลขในสภาฯ ให้ดีว่ามีพรรคภูมิใจไทยอาจการันตีอยู่ครบวาระ หรือเลือกขอไปตายดาบหน้า และสุ่มเสี่ยงเข้าทำนองหนีเสือปะจระเข้หรือไม่. 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'อนุทิน' ยันยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้วยังฟื้นฟูหาดใหญ่ต่อ จ่อขนนักวิชาการลงพื้นที่ถอดบทเรียน

'อนุทิน' ยอมรับยังกังวลน้ำท่วมหาดใหญ่ ยัน ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้วยังฟื้นฟู-เยียวยาต่อ หยอด อำนาจอยู่ที่ มท.1แล้ว 'นายกฯ คงไม่ขัดอะไร' เผยขั้นตอนนำผู้ประสบภัยกลับบ้าน ทำไปแล้วกว่า 90% จ่อขนกองทัพนักวิชาการลงพื้นที่ถอดบทเรียนพรุ่งนี้

'จตุพร' แนะ 'อนุทิน' อย่ามัวแต่พูดอธิบายภาพ 'เบน สมิธ' ต้องรุกกลับปราบสแกมเมอร์ให้สิ้นซาก

'จตุพร' แนะ 'อนุทิน' อย่าพะวงกับรูปถ่ายร่วมเฟรม 'เบน สมิธ' อย่ามัวแต่พูดอธิบายภาพ อ้างไม่สนิท จี้ปฏิบัติให้จริง รุกกลับปราบ'แก๊งสแกมเมอร์' ให้ราบคาบจากไทย ลั่นรู้นะ คนปล่อยรูปหวังทำลายการเมือง

นายกฯ ลั่นหากเกิดเหตุชายแดนหลังยุบสภา รัฐบาลรักษาการยังมีอำนาจสนับสนุนเต็มที่

นายกฯ ย้ำไม่มีปัจจัยบอกเหตุ ก็ต้องมีแผนป้องกัน โดยเฉพาะตามแนวชายแดน มั่นใจผู้ว่าฯ ดูแลได้ หากอยู่ในช่วงยุบสภา ปฎิเสธข่าวการเจรจาที่ออตตาวาไม่เป็นผล

เพื่อไทยกระอัก! 'อนุทิน' ย้อนเจ็บ มีภาพคู่ทักษิณเยอะ ไม่เห็นมีปัญหา

"อนุทิน" เหน็บ "สุริยะ-โฆษกเพื่อไทย" ไม่รู้เรื่องอะไรเพราะไม่ได้ร่วมวง การสนทนาสำหรับผมต้องระดับสูงขึ้นไป ย้อนเจ็บภาพถ่ายคู่ทักษิณก็มีตั้งเยอะ ไม่เห็นมีปัญหาอะไรเลย

นายกฯ สั่งผู้ว่าฯ 7 จว.ชายแดนไทย-กัมพูชา ต้องมีความพร้อมเต็มที่ ดูแล-อพยพประชาชน

นายกฯ มอบนโยบายชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน สั่งผู้ว่าฯ 7 จังหวัดเตรียมแผนดูแลประชาชน เผย ยืมสตาร์ลิงค์ทหารไว้สื่อสารแล้วเปรียบ ”ชรบ.“ เป็นกำแพงมหึมาดูแลแนวหลังให้ปลอดภัย - สร้างความสบายใจให้ทหารไม่ต้องพะวงหลังห่วงครอบครัว ชี้ ใครคิดรบกับไทยคงประสาทไม่ดี