“ควิกบิ๊กวิน” 120 วัน สู่เส้นทางอำนาจ 4 ปี

ภารกิจ 4 เดือนของรัฐบาล “อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เพื่อแก้ปัญหาสำคัญของประเทศ 4 ด้าน และทำตามเงื่อนไขบันทึกความเข้าใจ (MOA) กับพรรคประชาชน เพื่อไปสู่การยุบสภาภายใน 4 เดือนหลังการแถลงนโยบาย

ขณะนี้ยังไม่ชัดเจนว่าจะจัดแถลงในวันที่ 29-30 กันยายน หรือ 1-2 ตุลาคม ตามที่ วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา วางกรอบเอาไว้

ช่วงเวลาที่แตกต่างกันเพียงไม่กี่วัน มีผลโดยตรงต่อการเดินหน้านโยบาย “ควิกบิ๊กวิน ของรัฐบาล หากการแถลงเกิดขึ้นวันที่ 29-30 กันยายน ทันทีที่นายกรัฐมนตรีแถลงนโยบายเสร็จสิ้น โดยไม่ต้องรอพิธีกรรมในสภา ก็สามารถเรียกประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่ออนุมัติและผลักดันงบประมาณปี 2568 ที่ยังค้างอยู่ได้ทันก่อนสิ้นปีงบประมาณ โดยเฉพาะงบกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดก่อน ซึ่งยังเหลือ 25,000 ล้านบาท จากกรอบงบประมาณ 157,000 ล้านบาท ที่ไม่ได้ใช้กับโครงการแจกเงินดิจิทัล สามารถนำมาใช้ดำเนินโครงการเร่งด่วน เช่น “คนละครึ่ง ได้ทันที โดยไม่ต้องรอเข้าสู่กระบวนการงบปี 2569

แต่หากการแถลงนโยบายเลื่อนไปเป็นวันที่ 1 ตุลาคม จะทำให้สิ้นสุดปีงบประมาณ 2568 พอดี เงินที่ยังไม่ได้ใช้ต้องถูกคืนคลัง ส่งผลให้หลายโครงการต้องชะงักและรอใช้งบปี 2569

นอกจากนี้ยังอาจถูกตีความทางการเมืองว่า เป็นการร่วมมือกันระหว่างประธานรัฐสภาและพรรคเพื่อไทย เพื่อสกัดกั้นรัฐบาลอนุทินตั้งแต่เริ่มต้น ด้วยการตัดโอกาสสร้างผลงานของพรรคสีน้ำเงิน ที่จะลงไปสู่ประชาชนใช่หรือไม่

 “นายกฯ อนุทิน ยืนยันว่า ร่างนโยบายของรัฐบาลเสร็จสมบูรณ์แล้ว 100% และกำลังประสานกับประธานรัฐสภาเพื่อกำหนดวันแถลง โดยกล่าวว่า ยิ่งเร็วยิ่งดี เพราะวันที่หนึ่งของการทำงานคือนับจากวันแถลงนโยบายเสร็จสิ้น เพื่อที่รัฐบาลจะได้ทำงานอย่างเต็มที่

ภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งคาดว่าจะกำกับดูแลสำนักงบประมาณ กล่าวว่า การใช้งบ 25,000 ล้านบาท จากปี 2568 เพื่อนำมาดำเนินโครงการคนละครึ่ง ต้องรอหลัง ครม.ถวายสัตย์ปฏิญาณและแถลงนโยบายเสร็จสิ้นก่อน จึงจะพิจารณาได้ว่าจะดำเนินการทันก่อนสิ้นปีงบประมาณหรือไม่ หากไม่ทันก็ต้องไปใช้งบปี 2569 แทน

ไม่ว่ารัฐบาลจะได้ใช้งบปี 2568 หรือไม่ สุดท้ายภารกิจสำคัญคือการเร่งผลักดันนโยบาย “ควิกบิ๊กวิน เพื่อแก้ปัญหาสำคัญ 4 ด้าน ได้แก่ 1.เศรษฐกิจ 2.ความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา 3.ภัยธรรมชาติ 4.ปัญหาสังคม

ด้านเศรษฐกิจถือเป็นตัวชี้วัดสำคัญที่ประชาชนคาดหวังให้รัฐบาลแสดงฝีมือ โดยทีมเศรษฐกิจนำโดย “เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกฯ และ รมว.การคลัง เตรียมผลักดัน คนละครึ่งโฉมใหม่ ผ่านแอป เป๋าตัง หรือ ถุงเงิน โดยรัฐจ่าย 50% และประชาชนจ่าย 50% สำหรับผู้เสียภาษีจะได้รับสิทธิพิเศษ รัฐจ่าย 60% ประชาชนจ่าย 40%

มาตรการอื่นๆ ที่จะเร่งดำเนินการ ได้แก่ ลดค่าโดยสารรถไฟฟ้า โดยใช้กฎหมายตั๋วร่วม เจรจากับผู้ให้บริการเพื่อลดค่าแรกเข้าระหว่างสายลง 30-40% แทนแนวคิด “20 บาทตลอดสาย ที่ใช้งบสูง 8,000-9,000 ล้านบาทต่อปี

ลดค่าไฟฟ้าและพลังงาน จากปัจจุบันที่ตรึงอยู่ 3.98 บาทต่อหน่วย โดยมีเป้าหมายลดลงช่วงปลายปีและต้นปีถัดไป

ภาคเกษตรและชุมชน ออกมาตรการ “ซอฟต์โลนดอกเบี้ยต่ำช่วยเกษตรกร ส่งเม็ดเงินเข้ากองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง พร้อมกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ ด้วยโครงการคล้าย “เราเที่ยวด้วยกันเชื่อมเมืองหลักกับเมืองรอง

นอกจากนี้ รัฐบาลยังต้องดำเนินการตามเงื่อนไข MOA โดยเฉพาะการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดย 3 พรรคหลัก ได้แก่ พรรคประชาชน พรรคเพื่อไทย และพรรคภูมิใจไทย จะร่วมยื่นร่างแก้ไขมาตรา 256 และมาตรา 15/1 เพื่อปลดล็อกปัญหาการเมือง พร้อมจัดทำประชามติควบคู่กับการเลือกตั้งภายใน 4 เดือน

อีกเงื่อนไขสำคัญคือ พรรคสีน้ำเงินต้องไม่แทรกแซงหรือปกป้องคดีใหญ่ เช่น คดีเขากระโดง และคดีฮั้ว สว. ซึ่งล่าสุดเกิดกระแสดรามาระหว่าง 3 พรรค หลัง “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้นำทางจิตวิญญาณของพรรคส้ม ส่งสัญญาณเชิงบวกต่อฝ่ายสีน้ำเงิน โดยกล่าวว่า

 “เขากระโดงอยู่ในการรถไฟ พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลมานาน ถ้ามันผิดจริง การรถไฟฟ้องไปแล้ว แต่นี่ยังไม่ได้ฟ้องเลย 

ขณะที่ข้าราชการที่เกี่ยวข้องเริ่มถอยห่างจากคดีเหล่านี้ เพราะมองว่าเป็นเรื่องการเมืองมากกว่าเรื่องกฎหมาย ส่งผลให้ “ภูมิธรรม เวชยชัยอดีตรองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย แกนนำพรรคแดงถึงกับร้องอึ้ง

ทั้งหมดนี้คือโจทย์ร้อนของรัฐบาลเฉพาะกิจ ที่ต้องแก้ปัญหาภายในเวลาเพียง 4 เดือน เพื่อสร้างผลงานและยุบสภาตามข้อตกลง หากทำสำเร็จอนุทินอาจได้รับการสนับสนุนให้เดินหน้าบริหารประเทศต่อไปอีก 4 ปีเต็มหลังเลือกตั้งก็เป็นได้.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เลือก ‘ภูมิใจไทย’ ได้ ‘สีหศักดิ์’ สานงานต่างประเทศ! ‘ยุทธพร’ วิเคราะห์เกมเลือกตั้ง ชี้พรรคน้ำเงินเปิดทางคนเก่งไปต่อ โอกาสคัมแบ็กสูง

รศ.ดร.ยุทธพร อิสรชัย อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ให้ความเห็นกรณีการปรากฏตัวของ นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ที่พรรคภูมิใจไทยว่า มีความเป็นไปได้หลายแนวทางทางการเมือง ทั้งการเป็นหนึ่งในแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี หรือการเป็นผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ

'อนุทิน' เปิดพรรครับ 'กลุ่มรักสถาบัน' ให้กำลังใจ ปกป้องอธิปไตยไทย

'อนุทิน' เปิดพรรค รับดอกไม้-หนังสือ 'กลุ่มศปปส.' ให้กำลังใจปกป้องอธิปไตย ลั่นไทยไม่มีแพ้ ขอมั่นใจพร้อมสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ทหาร

'หนูนา' เปิดใจร่ายยาว ทำไม 'ท็อป' ปล่อยมือ 'ชทพ.' ไปอยู่ ภท.

'หนูนา' เปิดใจ 'ท็อป' ลา ชทพ. เหตุต้องหาพื้นที่อยู่บนถนนการเมืองต่อไปได้ รับรุ่นลูกไม่เก่งเท่าพ่อบรรหาร เลือก ภท. เพราะยึดมั่นในชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เผยรักษาการหัวหน้าพรรค แต่ไม่มีกิจกรรมการเมือง

แนวรบสุดท้ายสู้สแกมเมอร์ ปัจจัยที่ต้องปิดจ๊อบชายแดน

แม้สถานการณ์สู้รบตามแนวชายแดน "ไทย-กัมพูชา" ในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนอีสานใต้ ฝ่ายไทยจะสามารถยึดเป้าหมายในหลายพื้นที่ และ มีแนวโน้มที่ดีใน 13 แนวรบ แต่ก็ยังประมาทไม่ได้ เพราะดูเหมือนว่า "กัมพูชา"