ปี 2569 กลายเป็นปีที่ท้าทายที่สุดสำหรับประชาธิปไตยไทย ด้วยการเลือกตั้งหลายระดับที่กระชั้นชิดกันอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ที่คาดว่าจะพ่วงด้วยการลงประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ และบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่างไทย-กัมพูชา ปี 2543-2544 (MOU 43-44) รวมถึงการเลือกตั้งท้องถิ่นอย่างองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) และนายกเมืองพัทยา
ไทม์ไลน์ทั้งหมดนี้ยึดโยงกับการตัดสินใจยุบสภาผู้แทนราษฎร มาจากคำกล่าวของนายกรัฐมนตรี "นายอนุทิน ชาญวีรกูล" และ "นายแสวง บุญมี" เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่งยืนยันถึงความพร้อมในการจัดการเลือกตั้งให้เป็นไปตามกรอบกฎหมาย แม้สถานการณ์การเมืองจะตึงเครียดเพียงใด
การยุบสภากลายเป็นหัวใจของไทม์ไลน์ทั้งหมด โดย นายกฯ อนุทิน ได้ย้ำว่า รัฐบาลซึ่งมีเสียงสนับสนุนเพียง 146 เสียง จากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้ง 500 เสียง กำลังเผชิญกับความเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยที่ "ไปต่อไม่ได้" หากฝ่ายค้านยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตามมาตรา 151 รัฐธรรมนูญ "เราพร้อมยุบสภาในวันที่ 12 ธ.ค.2568 ซึ่งเป็นวันเปิดสมัยประชุมสภาสมัยสามัญ เพื่อคืนอำนาจให้ประชาชนตัดสิน โดยไม่ต้องรอให้การอภิปรายดำเนินไป เพราะโหวตแล้วก็แพ้อยู่ดี"
นายกฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า หากไม่มีการยื่นซักฟอก รัฐบาลจะยึดกรอบเดิมตามบันทึกความเข้าใจ (MOA) ระหว่างพรรคภูมิใจไทยและพรรคประชาชน คือยุบสภาไม่เกินวันที่ 31 ม.ค.2569 นับจากวันที่แถลงนโยบายคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อ 29 ก.ย.2568 ซึ่งจะนำไปสู่การเลือกตั้ง สส.ภายใน 45-60 วัน ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 102 โดยคาดการณ์วันเลือกตั้งที่ 29 มี.ค.2569 ซึ่งเป็นวันอาทิตย์ที่เหมาะสมที่สุด
คำประกาศของนายกฯ เชื่อมโยงโดยตรงกับแรงกดดันจากฝ่ายค้าน โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยที่ประกาศยื่นซักฟอก กรณี "ฮั้วเลือก สว." และปมที่ดินเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ ตามที่ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์เมื่อ 20 พ.ย.2568 นอกจากนี้ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ โฆษกพรรคประชาชน ยังวิจารณ์ว่า "การยุบสภาเพื่อหนีซักฟอกเหมือนผู้รับเหมาทิ้งงานปิดกิจการหนีตรวจสอบ ซึ่งขัดเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญที่ห้ามยุบสภาเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบ และอาจผิด MOA ที่กำหนดให้แก้รัฐธรรมนูญวาระ 3 ภายใน ธ.ค.2568"
การขู่ว่าจะยุบสภา 12 ธ.ค.2568 จึงไม่เพียงเป็นกลยุทธ์ดักทางฝ่ายค้าน แต่ยังเสี่ยงกระทบไทม์ไลน์ประชามติ หากยุบก่อนกำหนดจะทำให้การลงมติวาระ 3 ระหว่าง 15-20 ธ.ค.2568 ล่าช้า ส่งผลให้ประชามติเลื่อนจาก 29 มี.ค.2569
ด้าน นายแสวง-เลขาฯ กตต. ให้สัมภาษณ์ว่า "ไม่ว่ายุบสภาเมื่อไหร่ กกต.พร้อมจัดการเลือกตั้ง สส.และประชามติในวันเดียวกัน แม้จะมีบัตรลงคะแนน 3-4 ใบ โดยบัตร สส.แบ่งเป็นแบบแบ่งเขตและบัญชีรายชื่อ ส่วนประชามติรวมคำถามแก้รัฐธรรมนูญและ MOU 43-44 ในบัตรใบเดียวเพื่อลดความสับสน"
เขายืนยันเพิ่มเติมว่า หากยุบสภาเดือน ม.ค.2569 กกต.ใช้เวลา 75 วันเตรียมการ โดยรัฐบาลต้องส่งเอกสารคำถามประชามติชุดแรกไม่เกิน 13 ม.ค.2569 และชุดสุดท้ายไม่เกิน 28 ม.ค.2569 เพื่อเผยแพร่ข้อมูลอย่างน้อย 20 วัน ก่อนลงคะแนนตาม พ.ร.บ.ประชามติ พ.ศ.2568
นายแสวงกล่าวด้วยว่า "ปี 2569 คือปีแห่งประชาธิปไตย ประชาชน 53 ล้านคน จะได้แสดงอำนาจอธิปไตยผ่านสนามเลือกตั้งหลายแห่ง โดย กกต.จะนับคะแนน สส.ก่อน แล้วค่อยนับประชามติ เพื่อจัดการปัญหาที่อาจเกิดขึ้น" ความพร้อมนี้ช่วยบรรเทาความกังวลจากประเด็นซักฟอก หากยุบสภา 12 ธ.ค.2568 กกต.ยังจัดการประชามติคู่เลือกตั้งได้ แต่ต้องส่งคำถามล่วงหน้าให้ทัน
นอกจากนี้ในปีหน้า ยังมีการเลือกตั้ง อบต.เป็นสนามแรกที่ประเดิมปี 2569 โดย กกต.มีมติเมื่อ 9 ต.ค.2568 กำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภา อบต.และนายก อบต.ทั่วประเทศกว่า 5,300 แห่ง ในวันอาทิตย์ที่ 11 ม.ค.2569 ภายใน 45 วันนับจากครบวาระ 27 พ.ย.2568 ตาม พ.ร.บ.สภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ.2537 เลขาฯ กกต. ระบุว่า "การเลือกตั้ง อบต.ใกล้เคียงยุบสภา แต่ กกต.จัดแยกกันได้ คาดออกมาใช้สิทธิ์ 65% โดยไม่กระทบเลือกตั้งใหญ่" แม้จะใกล้ชิดกับการยุบสภาเพื่อหนีซักฟอก แต่สนามนี้ยังคงดำเนินตามกรอบกฎหมายท้องถิ่น โดยไม่ถูกดึงรั้งจากปัญหาการเมืองระดับชาติ
สำหรับการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.และสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (สก.) กกต.กำหนดไว้หลังครบวาระ "นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์" เมื่อ 21 พ.ค.2569 โดยคาดว่าเลือกตั้งในวันที่ 5 ก.ค.2569 ซึ่งเป็นวันอาทิตย์ที่อยู่ในกรอบ 45 วัน ตาม พ.ร.บ.กรุงเทพมหานคร พ.ศ.2528 ไทม์ไลน์รวมประกาศรับสมัครประมาณเดือน มิ.ย.2569 และประกาศผลไม่เกิน 4 ส.ค.2569 หากไม่มีร้องเรียน
อย่างไรก็ตาม สนาม กทม. เป็นรูปแบบพิเศษที่ร้อนแรงเสมอ แต่ กกต.เตรียมงบแยกและบุคลากรเพิ่ม เพื่อรองรับผู้มีสิทธิ์ 6 ล้านคน โดยไม่ทับซ้อนกับเลือกตั้ง สส. สนามนี้จึงเป็นจุดส่งท้ายปีแห่งการเลือกตั้ง ท่ามกลางกระแสการเมืองที่อาจรุนแรงจากผลซักฟอก หากรัฐบาลรอดพ้นการยุบสภา นอกจากนี้การเลือกตั้งนายกและสมาชิกสภาเมืองพัทยา กกต.ที่ต้องรอกำหนดวันกาบัตร
ประเด็นประชามติแก้รัฐธรรมนูญ และ MOU 43-44 เป็นจุดเชื่อมสำคัญ เนื่องจากเป็นปมสำคัญที่พรรคประชาชนหวังจากพรรคภูมิใจไทย เพื่อดำเนินเกมต่อไปของพรรคส้ม ส่วนภูมิใจไทยเอง เรื่องนี้กลายเป็นเครื่องมือต่อรองสำคัญให้อายุของรัฐบาลยังคงเดินต่อไปได้ โดยนายอนุทินกล่าวว่า ประชามติครั้งแรกต้องมีผู้มาใช้สิทธิ์เกินกึ่งหนึ่ง หรือ 26 ล้านเสียง จาก 52 ล้านคน และเห็นชอบเกินครึ่ง หรือ 13 ล้านเสียง เพื่อให้ร่างแก้ไขผ่าน โดยรวมคำถามทั้ง 2 ในบัตรเดียวกับเลือกตั้ง สส. 29 มี.ค.2569
ไทม์ไลน์ปี 2569 จึงไม่เพียงสะท้อนความพยายามรักษากรอบกฎหมายของรัฐบาลและ กกต.แต่ยังเป็นบททดสอบท่ามกลางแรงกดดันซักฟอกที่อาจเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง
นายอนุทิน ย้ำว่า "รัฐบาลมีภารกิจ 3 ประการใน 120 วัน คือแก้รัฐธรรมนูญ จัดประชามติ และยุบสภา โดยไม่จับรัฐธรรมนูญเป็นตัวประกัน" ขณะที่ นายแสวง เน้นย้ำ "ความพร้อมป้องกันทุจริต คาดผู้มีสิทธิ์ทั้ง 53 ล้านคน จะใช้สิทธิ์อย่างเสมอภาค"
ปี 2569 จึงเป็นโอกาสให้ประชาชนตัดสินอนาคตประเทศ ท่ามกลางการเมืองที่เปราะบาง แต่ยึดมั่นในหลักประชาธิปไตยที่ยั่งยืน!.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'อนุทิน' ยันยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้วยังฟื้นฟูหาดใหญ่ต่อ จ่อขนนักวิชาการลงพื้นที่ถอดบทเรียน
'อนุทิน' ยอมรับยังกังวลน้ำท่วมหาดใหญ่ ยัน ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้วยังฟื้นฟู-เยียวยาต่อ หยอด อำนาจอยู่ที่ มท.1แล้ว 'นายกฯ คงไม่ขัดอะไร' เผยขั้นตอนนำผู้ประสบภัยกลับบ้าน ทำไปแล้วกว่า 90% จ่อขนกองทัพนักวิชาการลงพื้นที่ถอดบทเรียนพรุ่งนี้
'จตุพร' แนะ 'อนุทิน' อย่ามัวแต่พูดอธิบายภาพ 'เบน สมิธ' ต้องรุกกลับปราบสแกมเมอร์ให้สิ้นซาก
'จตุพร' แนะ 'อนุทิน' อย่าพะวงกับรูปถ่ายร่วมเฟรม 'เบน สมิธ' อย่ามัวแต่พูดอธิบายภาพ อ้างไม่สนิท จี้ปฏิบัติให้จริง รุกกลับปราบ'แก๊งสแกมเมอร์' ให้ราบคาบจากไทย ลั่นรู้นะ คนปล่อยรูปหวังทำลายการเมือง
จ่ายศพละ2ล.อีก8จว. ขยายเยียวยานํ้าท่วมใต้ ตั้ง5อนุครบวงจรใช้ทุกที่
นายกฯ ประเดิมนั่งหัวโต๊ะถอดบทเรียนรับมือมหาอุทกภัย ตั้ง 5 อนุกรรมการแก้ครบวงจร พยากรณ์-เตือนภัย-เยียวยา
นายกฯ ลั่นหากเกิดเหตุชายแดนหลังยุบสภา รัฐบาลรักษาการยังมีอำนาจสนับสนุนเต็มที่
นายกฯ ย้ำไม่มีปัจจัยบอกเหตุ ก็ต้องมีแผนป้องกัน โดยเฉพาะตามแนวชายแดน มั่นใจผู้ว่าฯ ดูแลได้ หากอยู่ในช่วงยุบสภา ปฎิเสธข่าวการเจรจาที่ออตตาวาไม่เป็นผล
เพื่อไทยกระอัก! 'อนุทิน' ย้อนเจ็บ มีภาพคู่ทักษิณเยอะ ไม่เห็นมีปัญหา
"อนุทิน" เหน็บ "สุริยะ-โฆษกเพื่อไทย" ไม่รู้เรื่องอะไรเพราะไม่ได้ร่วมวง การสนทนาสำหรับผมต้องระดับสูงขึ้นไป ย้อนเจ็บภาพถ่ายคู่ทักษิณก็มีตั้งเยอะ ไม่เห็นมีปัญหาอะไรเลย
นายกฯ สั่งผู้ว่าฯ 7 จว.ชายแดนไทย-กัมพูชา ต้องมีความพร้อมเต็มที่ ดูแล-อพยพประชาชน
นายกฯ มอบนโยบายชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน สั่งผู้ว่าฯ 7 จังหวัดเตรียมแผนดูแลประชาชน เผย ยืมสตาร์ลิงค์ทหารไว้สื่อสารแล้วเปรียบ ”ชรบ.“ เป็นกำแพงมหึมาดูแลแนวหลังให้ปลอดภัย - สร้างความสบายใจให้ทหารไม่ต้องพะวงหลังห่วงครอบครัว ชี้ ใครคิดรบกับไทยคงประสาทไม่ดี


