เปิดทำเนียบเศรษฐีโลกปี 65 'อีลอน มัสก์' รวยสุด 'ธนินท์' ติดอันดับ 137 ยืนเบอร์ 1 ของไทย

ฟอร์บส์จัดอันดับเศรษฐีโลกปี 65 เอกชนไทยยังเข้มแข็ง พยุงเศรษฐกิจ ฝ่าแรงต้านอุปสรรครอบด้าน เทสล่าพา “อีลอน มัสก์” คว้าอันดับ 1 เศรษฐีโลกขณะที่ “ธนินท์  เจียรวนนท์” ติดอันดับ 137 ถือเป็น 1 ในคนไทยบนทำเนียบเศรษฐีโลกเจ้าสัวย้ำยังมุ่งมั่นเดินหน้าลงทุนต่อเนื่อง หวังพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน รักษาการจ้างงาน ประคองเศรษฐกิจไทย

5  เม.ย. 2565 – นิตยสารฟอร์บส์ สื่อชั้นนำของสหรัฐอเมริกา ประกาศการจัดอันดับอภิมหาเศรษฐีโลก หรือ “The World’s Billionaires” หรือผู้มีทรัพย์สินมากกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขึ้นไป ประจำปี 2565 โดย นายอีลอน มัสก์ นักธุรกิจและนักลงทุนชาวอเมริกัน-แอฟริกาใต้ ผู้ก่อตั้งและผู้บริหารของบริษัทแห่งบริษัท Tesla ได้รับการจัดอันดับให้เป็นบุคคลที่รวยที่สุดในโลก ด้วยทรัพย์สินทั้งสิ้น 219,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แซงหน้า เจฟฟ์ เบโซส ผู้ก่อตั้ง บริษัทค้าปลีกออนไลน์แอมะซอน  

ฟอร์บส์รายงานว่าในปีนี้ สงคราม, โรคระบาด และตลาดที่ซบเซาส่งผลกระทบต่อมหาเศรษฐีโลก โดยมีมหาเศรษฐี 2,668 คนในการจัดอันดับคนที่ร่ำรวยที่สุดในโลก ซึ่งน้อยกว่าปีที่แล้ว 87 คน พวกเขามีทรัพย์สินมูลค่ารวมกัน 12.7 ล้านล้านดอลล่าร์ หรือน้อยกว่าในปี 2564 ถึง 4 แสนล้านดอลลาร์ การลดลงอย่างน่าตกตะลึงนี้เกิดขึ้นมากที่สุดในประเทศรัสเซีย ซึ่งมีมหาเศรษฐีลดลง 34 คนจากปีที่แล้ว หลังจากการบุกยูเครนของวลาดิมีร์ ปูติน

อย่างไรก็ตามมีเศรษฐีพันล้านมากกว่า 1,000 คนที่ร่ำรวยขึ้น และมีมหาเศรษฐีหน้าใหม่ 236 ราย อเมริกายังคงเป็นผู้นำของโลก โดยมีมหาเศรษฐี 735 คน ซึ่งมีทรัพย์สินมูลค่ารวม 4.7 ล้านล้านดอลลาร์ รวมถึง อีลอน มัสก์ ประเทศจีน (รวมถึงมาเก๊าและฮ่องกง) ยังคงเป็นอันดับสอง โดยมีมหาเศรษฐี 607 คน มูลค่าทรัพย์สินรวม 2.3 ล้านล้านดอลลาร์  

ในการจัดอันดับอภิมหาเศรษฐีโลกประจำปีนี้ มีคนไทยติดอันดับรวมทั้งสิ้น 28 ราย  หนึ่งในนั้นคือ นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP) บริษัทชั้นนำของไทย โดยอยู่ในอันดับที่ 137 ด้วยมูลค่าทรัพย์สินรวม 13,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 405,000 ล้านบาท โดยลดลงจากปี 2564 ที่ผ่านมา ซึ่งติดอันดับที่ 103 มีทรัพย์สินรวม 18,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 543,000 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมี นายเจริญ สิริวัฒนภักดี อันดับที่ 156 มีทรัพย์สินรวม 12,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 360,000 ล้านบาท , นายสารัชถ์ รัตนาวะดี อันดับที่ 161 มีทรัพย์สินรวม 11,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 354,000 ล้านบาท  

รายงานข่าวจากเครือเจริญโภคภัณฑ์หรือเครือซีพี เปิดเผยว่าเครือซีพีดำเนินธุรกิจภายใต้หลักการพัฒนาที่ยั่งยืนและยึดมั่นในปรัชญา “3 ประโยชน์” ประโยชน์ของประเทศชาติมาเป็นอันดับแรก ถัดมาคือประชาชน และผลประโยชน์ของบริษัทเป็นอันดับสุดท้าย บนพื้นฐานของความซื่อสัตย์ ความสุจริต และความเป็นธรรม โดยในปี 2563 เครือเจริญโภคภัณฑ์นำส่งภาษีเข้ารัฐ 22,475 ล้านบาท และมีการจ้างงานพนักงานในเครือรวม 149,978 ล้านบาท   

เครือเจริญโภคภัณฑ์ยังคงลงทุนด้านต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อร่วมสร้างเศรษฐกิจของประเทศไทยให้ยังคงเติบโตท่ามกลางสภาวะวิกฤติจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยเฉพาะการลงทุนด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศไทย ด้วยโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน (ดอนเมือง – สุวรรณภูมิ – อู่ตะเภา) ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้นโยบายการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม นำไปสู่การจ้างงานที่เพิ่มขึ้นภายในประเทศ และช่วยดึงดูดเม็ดเงินจากนักลงทุนทั่วโลกได้   

เครือเจริญโภคภัณฑ์ยังมุ่งสู่เป้าหมายการเป็น Tech Company ด้วยการผนึกกำลังกับองค์กรชั้นนำระดับโลก MIT – Plug and Play ตั้งเครือข่ายองค์กรพันธมิตรด้านนวัตกรรมเทคโนโลยี “CPG Open Innovation Ecosystem Partner”  ค้นคว้าและวิจัยทั้งด้านธุรกิจอาหาร เกษตรกรรม ไปจนถึงด้านฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ ปัญญาประดิษฐ์ และเทคโนโลยีอีกหลายแขนง โดยทุกเทคโนโลยีจะนำไปสู่นวัตกรรม ผลิตภัณฑ์ และบริการใหม่ๆ ที่เป็นประโยชน์แก่ประชาชนและประเทศชาติ  

นอกจากการช่วยพยุงเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลกไม่ให้ทรุดตัวหนักแล้วนั้น ตลอดระยะเวลา 2 ปีของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จนถึงปัจจุบัน เครือเจริญโภคภัณฑ์ยังช่วยบรรเทาผลกระทบของวิกฤติดังกล่าว โดยคิดเป็นมูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาทผ่านหลายโครงการ อาทิ การร่วมกับพันธมิตรจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม,โครงการซีพีร้อยเรียงใจสู้ภัยโควิด-19 สนับสนุนอาหารและการสื่อสารแก่โรงพยาบาลสนาม, สร้างโรงงานผลิตหน้ากากอนามัย,โครงการซีพีปันปลูกฟ้าทะลายโจร, โครงการครัวปั่นอิ่มร้อยเรียงใจสู้ภัยโควิด-19 และยังคงเดินหน้าโครงการอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง รวมถึงนโยบาย “แพลตฟอร์มแห่งโอกาส” ซึ่งเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ของเครือเจริญโภคภัณฑ์ในการฟื้นฟูประเทศไทย ช่วยส่งเสริมผู้ประกอบการเอสเอ็มอีพัฒนาศักยภาพ เพื่อขยายโอกาสการเติบโตทางธุรกิจและโครงการ 60+Plus Kitchen by CP เพื่อฝึกทักษะอาชีพด้านธุรกิจร้านอาหารและบริการแก่ผู้บกพร่องทางการมองเห็น  

จากทุกองค์ประกอบ เครือเจริญโภคภัณฑ์ ได้รับการประเมินดัชนีความยั่งยืนประจำปี 2564 จาก S&P Global ให้เป็นผู้นำอันดับที่ 3 ของโลกในกลุ่มอุตสาหกรรม Industrial Conglomerates โดยเป็นผลการดำเนินงานด้านความยั่งยืนของเครือซีพี ได้แก่ ด้านสิ่งแวดล้อม ด้านสังคม และด้านบรรษัทภิบาลและเศรษฐกิจ  

เครือเจริญโภคภัณฑ์ ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อร่วมพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมของประเทศไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน นำคุณภาพชีวิตที่ดีสู่ประชาชน  

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นิตยสา​ร 'ฟอร์บส์ ไทยแลนด์'​ เลือก 'คุณหญิงปัทมา'​ ขึ้นปกเดือนสิงหาคม

นิตยสาร Forbes Thailand เลือก คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล ซึ่งเป็นทั้งไอโอซีเมมเบอร์ รองประธานสหพันธ์แบดมินตันโลก และนายกสมาคมกีฬาแบดมินตันไทย ขึ้นปกประจำเดือนสิงหาคม พร้อมยกให้เป็น สตรีแถวหน้า ผู้อุทิศตนเพื่อสังคม มีอิทธิพลสูงในแวดวงกีฬา ศิลปวัฒนธรม และดนตรี

'ฟอร์บส์' เผย 'โรนัลโด' ขึ้นแท่นนักกีฬาโกยรายได้สูงสุดประจำปี 2023

คริสเตียโน โรนัลโด ซูเปอร์สตาร์ชาวโปรตุกีสของทีม อัล-นาสเซอร์ ในลีกซาอุดิอาระเบีย ขึ้นแท่นนักกีฬาที่ทำรายได้เข้ากระเป๋าสูงที่สุดในโลกประจำปี 2023 ตามการจัดอันดับของ "ฟอร์บส์" นิตยสารชื่อดังระดับโลก

CP Brand เปิดตัว ‘ยอร์ช-ยงศิลป์’ เป็น ‘CPเกี๊ยวกุ้งFriend’ คนแรกของไทย รุกตลาดกลุ่ม Gen Z

แบรนด์ CP ในกลุ่ม บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอาหารคุณภาพปลอดภัย

ฟอร์บส์ เปิด 10 อันดับมหาเศรษฐีไทยปี 65 พี่น้องเจียรวนนท์รักษาแชมป์เบอร์ 1

ฟอร์บส์ ประเทศไทย เปิด 10 อันดับมหาเศรษฐีไทย “พี่น้องเจียรวนนท์” ครองแชมป์เบอร์ 1 มูลค่าทรัพย์สินรวม 9.33 แสนลบ. ด้าน “เฉลิม อยู่วิทยา” และครอบครัว เจ้าของ Red Bull รั้งอันดับ 2 ทรัพย์สินรวมเริ่มขยับใกล้เคียง

กัลฟ์ - CP ลงขันตั้งบริษัท 'เอจี โคราช' เดินหน้าดำเนินธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์

น.ส.ยุพาพิน วังวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)

'เครือซีพี' เตรียมยกระดับตัวเองเป็น Tech Company

“เครือซีพี” เดินหน้าสู่เป้าหมายการเป็น Tech Company ผนึกกำลังองค์กรชั้นนำระดับโลก MIT – Plug and Play พร้อมหน่วยงานเทคโนโลยีจากจีน-สิงคโปร์ ตั้งเครือข่ายองค์กรพันธมิตรด้านนวัตกรรมเทคโนโลยี “CPG Open Innovation Ecosystem Partner”