
‘เอ็กซิมแบงก์’รุกเปิดสำนักงานผู้แทนแห่งที่ 4 ใน’โฮจิมินห์’ลุยขยายสินเชื่อให้แก่ผู้ประกอบการในเวียดนามมากที่สุดในตลาด CLMV ตอกย้ำเวียดนามคู่ค้าสำคัญอันดับ 2 ของไทยในอาเซียน ด้านเศรษฐกิจมีแนวโน้มโตสูงเกือบ 7% ต่อปีโดยเฉลี่ย
10 มิ.ย.2565 – นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.การคลัง เป็นประธานในพิธีเปิดสำนักงานผู้แทนธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย หรือ (เอ็กซิมแบงก์ ) ในนครโฮจิมินห์ สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ผ่านระบบออนไลน์ว่า รัฐบาลโดยกระทรวงการคลังให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคมให้ฟื้นตัวอย่างยั่งยืน หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 คลี่คลายลง รวมถึงการส่งเสริมการใช้โมเดลเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy : BCG Economy) เพื่อช่วยให้ทุกภาคส่วนก้าวพ้นปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ควบคู่กับการเข้าถึงโอกาสใหม่ ๆ ของโลกยุค Next Normal
นายอาคม กล่าวว่า ในด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน เวียดนามเป็นประเทศสมาชิกอาเซียนที่มียุทธศาสตร์ชัดเจนในการส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียนเพื่อสร้างความมั่นคงด้านพลังงาน ลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิลในการผลิตไฟฟ้าเพื่อลดมลพิษทางสิ่งแวดล้อมด้วยการผ่อนคลายกฎระเบียบ และการให้สิทธิประโยชน์ด้านการลงทุนโดยเฉพาะมาตรการทางภาษี เพื่อดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ สอดรับกับศักยภาพของผู้ประกอบการไทยในการเข้าไปลงทุนพัฒนาพลังงานหมุนเวียนในเวียดนามโดยการสนับสนุนของสถาบันการเงินเฉพาะกิจอย่าง เอ็กซิมแบงก์ ในการทำงานเชิงรุกเพื่อสนับสนุนทุนไทยให้เข้าไปสยายปีกในต่างประเทศมากขึ้น โดยใช้ความรู้ความเชี่ยวชาญของ เอ็กซิมแบงก์ พัฒนานวัตกรรมทางการเงินเพื่อสนับสนุนธุรกิจ BCG ในเวียดนามเพิ่มมากขึ้น
ด้านนายนายรักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) หรือเอ็กซิมแบงก์ กล่าวว่า ท่ามกลางความไม่แน่นอนและความท้าทายในโลกยุค Next Normal ยังมีโอกาสทางธุรกิจจำนวนมากอยู่รายล้อม โดย เอ็กซิมแบงก์พร้อมรับความเสี่ยงและเข้าไปสนับสนุนผู้ประกอบการไทยทั้งด้านสินเชื่อและให้บริการประกันความเสี่ยงทางการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน ความเสี่ยงทางการค้า และความเสี่ยงทางการเมือง ให้กำเนิดอุตสาหกรรมใหม่สู่อนาคต รวมถึง BCG และสนับสนุนทุนไทยไปต่างประเทศมากขึ้น
นายรักษ์ กล่าวว่า เอ็กซิมแบงก์จึงพร้อมเปิดดำเนินงานสำนักงานผู้แทนในนครโฮจิมินห์อย่างเป็นทางการ เพื่อทำงานร่วมกับภาครัฐและภาคเอกชนภายใต้ทีมประเทศไทย และเป็นส่วนหนึ่งของการเสริมทีม เอ็กซิมแบงก์ สู่บทบาท “ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งประเทศไทย” ควบคู่กับการเป็น “ศูนย์บริการครบวงจรเพื่ออำนวยความสะดวกทางการค้าระหว่างประเทศให้แก่ SMEs” ด้วยภารกิจ “ซ่อม สร้าง เสริม และสานพลัง” เพื่อเป็นกลไกการพัฒนาร่วมกันระหว่างประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียนอย่างยั่งยืน ท่ามกลางความท้าทายและการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นตลอดเวลาของโลกยุค Next Normal
สำหรับเวียดนามเป็นหนึ่งในประเทศเป้าหมายของการจัดตั้งสำนักงานผู้แทน เอ็กซิมแบงก์ โดย เอ็กซิมแบงก์ ได้มีบทบาทสนับสนุนให้เกิดธุรกิจการค้าและการลงทุนของไทยในเวียดนามมาเป็นเวลานานกว่า 2 ทศวรรษ ทั้งนี้ มีโครงการลงทุนในเวียดนามภายใต้การสนับสนุนของ เอ็กซิมแบงก์ ในหลากหลายธุรกิจ อาทิ โรงไฟฟ้าพลังงานสะอาด ปิโตรเคมี ห้างค้าส่งและค้าปลีก
“โดยในช่วงไตรมาสแรกปี 2565 เอ็กซิมแบงก์ ได้ขยายสินเชื่อให้แก่ผู้ประกอบการในเวียดนามมากที่สุดในตลาด CLMV (กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และเวียดนาม) โดยมียอดสินเชื่อคงค้างจำนวน 13,843 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 65.65% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากสินเชื่อคงค้างใน CLMV และ New Frontiers ทั้งหมด 51,554 ล้านบาท “นายรักษ์ กล่าว
ทั้งนี้ เวียดนามเป็นคู่ค้าสำคัญอันดับ 2 ของไทยในอาเซียน การส่งออกของไทยไปเวียดนามเน้นการตอบสนองความต้องการวัตถุดิบและสินค้าขั้นกลางให้แก่ภาคอุตสาหกรรมของเวียดนาม สินค้าส่งออกสำคัญของไทยไปเวียดนาม ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ เม็ดพลาสติก เคมีภัณฑ์ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ และน้ำมันสำเร็จรูป ขณะที่การลงทุนของไทยในเวียดนามกระจายอยู่ในหลากหลายธุรกิจ อาทิ พลังงาน นิคมอุตสาหกรรม อุตสาหกรรมการผลิตและแปรรูป เกษตรและประมง ธนาคาร ก่อสร้าง ค้าส่ง ค้าปลีก โรงแรม ร้านอาหาร คลินิกเสริมความงาม ขนส่ง โลจิสติกส์ และธุรกิจโฆษณา โดยไทยเป็นนักลงทุนรายใหญ่อันดับ 8 ในเวียดนาม
นายรักษ์ กล่าวว่า โอกาสใหม่ ๆ ของผู้ประกอบการไทยยังมีอยู่อีกมากในเวียดนาม เนื่องด้วยจำนวนประชากรเกือบ 100 ล้านคนและเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มเติบโตสูงเกือบ 7% ต่อปีโดยเฉลี่ย แม้ในวิกฤตโควิด-19 ที่ผ่านมายังขยายตัวได้ที่ระดับเกือบ 3% ไทยและเวียดนามเป็นพันธมิตรทางการค้ามาช้านานและมีที่ตั้งอยู่ไม่ห่างกัน จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่น่าสนใจของ SMEs ไทยในการส่งออก
ทั้งนี้ โดยเฉพาะการเจาะกลุ่มผู้บริโภคเวียดนามตามช่วงอายุ ซึ่งมีความต้องการที่หลากหลาย โดยผู้บริโภคชาวเวียดนามให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพมากขึ้นเป็นลำดับ ประชากรวัยทำงานมีกำลังซื้อสูงขึ้นและชอบชอปปิ้งออนไลน์ ทำให้ตลาด E-Commerce โตถึง 35% ต่อปี ขณะเดียวกัน เวียดนามมีทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ รัฐบาลเวียดนามมีนโยบายส่งเสริมการค้าเสรีและการลงทุนจากต่างประเทศ ทำให้เวียดนามเป็นแหล่งลงทุนเป้าหมายสำคัญของนักลงทุนต่างชาติรวมทั้งไทย
“นครโฮจิมินห์เป็นเมืองเศรษฐกิจที่สำคัญ เป็นศูนย์กลางธุรกิจการค้า บริการ การเงินการธนาคาร เทคโนโลยี อุตสาหกรรม และการท่องเที่ยว ศูนย์กลางการคมนาคม เป็นที่ตั้งของนิคมอุตสาหกรรมที่ทันสมัยและท่าเรือไซง่อนซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในเวียดนาม เศรษฐกิจของโฮจิมินห์มีขนาดใหญ่เป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศ และขยายตัวสูงกว่าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจเฉลี่ยของทั้งประเทศ”นายรักษ์ กล่าว
อย่างไรก็ตามในโอกาสนี้ เอ็กซิมแบงก์ ได้ลงนามในสัญญาสนับสนุนทางการเงินกับธนาคารเพื่อการลงทุนและพัฒนาแห่งประเทศเวียดนาม (The Joint Stock Commercial Bank for Investment and Development of Vietnam : BIDV) จำนวน 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อให้ BIDV นำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน สนับสนุนการส่งออกสินค้าจากไทยไปเวียดนาม รวมทั้งแลกเปลี่ยนข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการเสริมสร้างโอกาสขยายการค้าและการลงทุนระหว่างไทยกับเวียดนาม และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการของทั้งสองประเทศ
“เอ็กซิมแบงก์ เปิดสำนักงานผู้แทนครบ 4 แห่งใน CLMV สะท้อนถึงความสำคัญที่รัฐบาลไทยให้กับประเทศเพื่อนบ้านและอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง เพื่อจับมือก้าวผ่านความท้าทายจากการเปลี่ยนแปลงของโลกและสร้างโอกาสใหม่ ๆ เพื่อวางรากฐานการพัฒนาอย่างยั่งยืนในภูมิภาคไปด้วยกัน ในมิติเศรษฐกิจ เชื่อมโยงกับมิติสังคมและสิ่งแวดล้อม ช่วยเหลือและเยียวยาธุรกิจที่ประสบปัญหา สร้างอุตสาหกรรมใหม่สู่อนาคตและนักรบเศรษฐกิจป้ายแดง เสริมอาวุธให้แก่ผู้ประกอบการทุกขนาดธุรกิจ รวมถึงผู้ผลิตและผู้ส่งออกรายย่อย สานพลังการสร้างประเทศไทยและพันธมิตรให้มีภูมิคุ้มกัน เติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว” นายรักษ์กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'อาคม' เชื่อตั้งรัฐบาลใหม่ช้าไม่กระทบเศรษฐกิจ
“อาคม” เชื่อตั้งรัฐบาลใหม่ล่าช้าไม่กระทบเศรษฐกิจ ยันนักลงทุนมั่นใจเสถียรภาพการเงิน-การคลังประเทศ ชูเป้าลงทุนชัดเจน โยนเคาะงบประมาณปี 67 พร้อมจี้ทำนโยบายการคลังแบบมุ่งเป้า เน้นกลุ่มที่ได้รับความเดือดร้อน
‘เอ็กซิมแบงก์’ อวดผลงานไตรมาส 1 กำไร 305 ล้าน ปล่อยกู้ใหม่กระฉูด
“เอ็กซิมแบงก์” อวดผลดำเนินงานไตรมาส 1/2566 กวาดกำไร 305 ล้านบาท ฟุ้งอนุมัติสินเชื่อใหม่แตะ 1 หมื่นล้านบาท ลุยอุ้มเอสเอ็มอีเต็มสูบ สำรองแน่นปึ๊ก 1.3 หมื่นล้านบาท
'อาคม' การันตีไตรมาส 2 ส่งออกฟื้นยันฐานะการเงิน-คลังยังแจ่ม!
“อาคม” การันตีไตรมาส 2 ส่งออกฟื้น ฟุ้งจัดเก็บรายได้ 5 เดือนทะลุเป้า การันตีฐานะการเงิน-การคลังประเทศยังแกร่ง จับตาสถานการณ์แบงก์ต่างชาติล่มใกล้ชิด พร้อมแจงให้รอดูไปก่อน หลังพรรคการเมืองลุยออกนโยบายโหมใช้เงินเกินเบอร์
'คลัง' ยกเครื่องรีดรายได้มั่นใจเศรษฐกิจไทยปีนี้โตทะลุ4%
“คลัง” มั่นใจเศรษฐกิจไทยปี 2566 โตทะลุ 4% เร่งเครื่องลงทุนภาครัฐ ลุ้นส่งออกตีปีก จับตาปัญหาภูมิรัฐศาสตร์-วิกฤติแบงก์ทั่วโลก พร้อมกาง 5 ปัจจัยท้าทาย ยกเครื่องรีดรายได้ ลดกู้หวังหดงบขาดดุลต่ำกว่า 3% ต่อจีดีพี
คลังมั่นใจดัชนีหุ้นไทยทยอยรีบาวน์ ย้ำรัฐบาลรักษาการพร้อมดูแลเต็มที่
“คลัง” มั่นใจดัชนีตลาดหุ้นไทยทยอยรีบาวน์ หลังวิกฤติปิด 2 แบงก์สหรัฐฯ ทำนักลงทุนตื่นตระหนก หวั่นกระทบตลาดการเงินโลก ย้ำรัฐบาลรักษาการพร้อมดูแลเต็มที่
คลังเล็งออกมาตรการภาษีหนุนจ้างงานผู้สูงอายุ
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.การคลัง กล่าวว่า เรื่องการจ้างงาน แม้ว่าปัจจุบันจะปรับตัวดีขึ้นจากช่วงปี 2563-2564 แต่ต้องยอมรับว่าไทยยังเจอปัญหาเรื่องการขาดแคลนแรงงาน