รัฐบาลรับฟังข้อเสนอป้องกันผลกระทบจากการพัฒนาอีอีซี ของกมธ.แก้ไขปัญหาความยากจนฯ วุฒิสภา เน้นย้ำขับเคลื่อนโครงการเชิงยุทธศาสตร์เศรษฐกิจควบคู่การดูแลสังคม ประชาชนในพื้นที่ได้ประโยชน์ 15 ส.ค.นายกรัฐมนตรีเตรียมประชุมติดตามความคืบหน้าโครงการสำคัญ
14 ส.ค. 2565 – น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลได้มีนโยบายส่งเสริมเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี เพื่อให้เป็นพื้นที่รองรับการลงทุนอุตสาหกรรมเป้าหมายเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้ให้ความสำคัญและกำชับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ดำเนินการขับเคลื่อน อีอีซี ควบคู่ไปกับการรับฟังข้อเสนอแนะหน่วยงานต่างๆ เพื่อดูแลสังคม สิ่งแวดล้อม และการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ให้ได้รับประโยชน์จากโครงการพัฒนาต่างๆ
ทั้งนี้ รัฐบาลได้รับรายงานการพิจารณาการศึกษา พร้อมข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการการแก้ไขปัญหาความยากจนและความเหลื่อมล้ำ วุฒิสภา เรื่องแนวทางการเฝ้าระวังและป้องกันผลกระทบทางสังคม สิ่งแวดล้อมและสุขภาพในระดับท้องถิ่น กรณีอีอีซี และได้ให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) รับเรื่องไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ข้อเสนอแนะได้ไปสู่การปฏิบัติ
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ตามรายงานได้วิเคราะห์ถึงสถานการณ์เชิงลบในอนาคตที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่อีอีซี อาทิ การขยายตัวของเมือง การสูญเสียที่ดินทำกิน การเสื่อมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติ ปัญหาคุณภาพสิ่งแวดล้อม ความเพียงพอขอทรัพยากรน้ำ ความกังวลต่อการบริหารจัดการด้านมลพิษ
พร้อมกับมีข้อเสนอแนะเพื่อป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต อาทิ การมีแนวทางจัดการเชิงรุกเน้นผลกระทบล่วงหน้า นำแนวทางการประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์(Strategic Environmental Assessment : SEA)เป็นเครื่องมือสำคัญในการตัดสินใจเชิงนโยบาย ส่งเสริมอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตของประชาชน ส่งเสริมกระบวนการมีส่วนร่วมของคนในพื้นที่ในการตัดสินใจ ประเมินผลในเรื่องสำคัญที่ส่งผลต่อวิถีชีวิต จูงใจให้ผู้ประกอบการเกิดความรับผิดชอบในมิติต่างๆ พัฒนาศักยภาพประชาชนให้สามารถรับกับการเติบโตของพื้นที่ได้
ทั้งนี้ สกพอ. ได้หารือกับหน่วยงานเกี่ยวข้องตามที่รัฐบาลมอบหมาย ได้เห็นด้วยกับข้อเสนอของคณะกรรมาธิการแก้ปัญหาความยากจนและความเหลื่อมล้ำ วุฒิสภา ซึ่งหลายประเด็นสอดคล้องกับแผนงานของ สกพอ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งสามารถดำเนินการได้ทันที ส่วนข้อเสนอแนะที่เพิ่มเติมเข้ามาและเป็นประโยชน์กับคนในพื้นที่จะได้ปรับไปอยู่ในแผนงานต่อไป
“อีอีซีเป็นพื้นที่พัฒนาเชิงยุทธศาสตร์เศรษฐกิจที่รัฐบาลให้ความสำคัญ ได้จัดมาตรการส่งเสริมและจูงใจให้เกิดการลงทุนควบคู่ไปกับการดูแลสังคม สิ่งแวดล้อม การสร้างโอกาสให้กับคนในพื้นที่ให้ได้รับประโยชน์จากโครงการพัฒนาต่างๆ ซึ่งในวันพรุ่งนี้(15ส.ค.) นายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอีอีซี ที่ทำเนียบรัฐบาลจะมีการติดตามความคืบหน้าทั้งโครงการลงทุน และมาตรการเชิงสังคมที่สำคัญ” น.ส.ไตรศุลี กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สกพอ. ผนึก ส.อ.ท. เพิ่มศักยภาพผู้ประกอบการพื้นที่อีอีซี
อีอีซี ลุยจับมือ ส.อ.ท. เพิ่มศักยภาพผู้ประกอบการพื้นที่อีอีซี ผลักดันเข้าถึงนวัตกรรมใหม่ บริการ แหล่งเงินทุน ขยายโอกาสลงทุนอุตฯ เป้าหมาย
อีอีซี มอบรางวัลผลิตภัณฑ์ชุมชน EEC Select
สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) หรืออีอีซี จัดพิธีมอบรางวัลผลิตภัณฑ์ชุมชนต้นแบบ ประจำปี 2566 (EEC Select 2023)
มูลนิธิสืบฯ ค้านเพิกถอนพื้นที่ป่าอนุรักษ์ในอุทยานฯทับลาน 2.6 แสนไร่
นายภาณุเดช เกิดมะลิ ในฐานะประธานมูลนิธิสืบนาคะเสถียรสืบ ได้ออกแถลงการณ์ คัดค้านการเพิกถอนพื้นที่ป่าอนุรักษ์ จำนวน 2 แสนกว่า
รองโฆษกรัฐบาล แจงยิบขุมทรัพย์ใต้ผืนแผ่นดินไทย
นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากกรณีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร