'สุพัฒนพงษ์' ชี้แผนยืมอำนาจคลังค้ำประกันเงินกู้กองทุนน้ำมัน เป็นวาระลับ

สุพัฒนพงษ์” ลั่นวาระลับ ยืมอำนาจคลังค้ำประกันเงินกู้กองทุนน้ำมัน อยู่ระหว่างนำเสนอกฤษฎีกา ชี้เป็นเรื่องเร่งด่วน จากการประเมินสถานการณ์ราคาพลังงานลำบาก หวั่นช่วยเหลือไม่ทัน ลั่นอาจทยอยกู้ตามความเหมาะสม

18 ส.ค. 2565 – นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยถึงกรณีที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) หารือวาระลับ และมีมติเห็นชอบร่างพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังค้ำประกันการชำระหนี้ของสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. …. และการกู้ยืมเงินของสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง กรอบวงเงิน 1.5 แสนล้าน เป็นที่เรียบร้อย ว่าขณะนี้อยู่ระหว่างนำเสนอสำนักคณะกรรมการกฤษฎีกา พิจารณา ซึ่งต้องยอมรับว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต้องหารืออย่างเข้มข้น และเร่งหามาตรการช่วยเหลือ โดยการขออนุมัติครม. ในครั้งนี้ ถือเป็นวาระลับ

ขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการดำเนินการ และเป็นไปตามปกติของวิธีการเสนอกฎหมายที่เป็น พ.ร.ก. ประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา ก็มีผลบังคับใช้ โดยสามารถกู้เงินได้ทันที ซึ่งก่อนหน้านี้กองทุนน้ำมันเมื่อติดลบก็สามารถออกเงินกู้ ตราสารหนี้ต่าง ๆ ได้ โดยกระทรวงการคลังเป็นผู้ดูแล และเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงพ.ร.บ.กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง กฎหมายหรือการกำกับดูแลบางตัวก็ไม่ตามมาด้วย

“ตอนนี้เมื่อยังอยู่ในสมัยประชุมสามัญของรัฐสภา ก็ต้องนำเสนอเข้าไปให้สภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา พิจารณาด้วย ซึ่งเชื่อว่า การดำเนินการทั้งหมดนี้ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร” นายสุพัฒนพงษ์ กล่าว

นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า การหาเงินมาช่วยเสริมสภาพคล่องกองทุนน้ำมัน ถือเป็นเรื่องเร่งด่วน และตอนนี้กำลังจะเข้าสู่ฤดูหนาวในต่างประเทศแล้ว ไม่รู้ว่าสถานการณ์ราคาจะเป็นยังไงต่อ ดังนั้นเพื่อให้กองทุนน้ำมันได้ดำเนินการตามบทบาทหน้าที่ของตัวเองในการช่วยเหลือดูแลประชาชนได้ต่อไป ก็ต้องเร่งทำเรื่องนี้โดยเร็ว ซึ่งที่ผ่านมาก็พยายามทุกวิถีทางแล้วในการสร้างสภาพคล่องให้กับกองทุนน้ำมัน จนมาเป็นพ.ร.ก.ฉบับนี้

สำหรับการกู้เงินของกองทุนน้ำมัน จะกู้เต็มกรอบวงเงินที่ผ่านครม. วงเงิน 1.5 แสนล้านบาท หรือไม่นั้น เรื่องนี้เป็นรายละเอียด แถมเป็นวาระลับที่คุยในครม. คงบอกทั้งหมดไม่ได้ แต่เชื่อว่า การกู้เงินคงไม่ได้กู้เงินทันทีเลยในครั้งเดียว ซึ่งกองทุนน้ำมันจะมีแผนการกู้เงินทีละก้อนอยู่แล้ว ซึ่งต้องทยอยกู้ตามความเหมาะสม เพื่อใช้ทั้งหนี้เดิม และสำรองเอาไว้ใช้ในช่วงต่อไป ส่วนวงเงิน 1.5 แสนล้านบาท จะเพียงพอต่อการกู้วิกฤตกองทุนน้ำมันได้จนสุดทางหรือไม่นั้น ต้องดูกรอบวินัยทางการเงินการคลัง ไม่ให้เกินกรอบ 70% ต่อ GDP ด้วย ซึ่งตัวเลขนี้ เป็นตัวเลขที่กระทรวงการคลังประเมินออกมาแล้วว่า สามารถดำเนินการได้โดยที่ไม่กระทบกับวินัยการเงินการคลัง

นอกจากนี้ แม้ว่ากองทุนน้ำมันจะสามารถกู้เงินได้เอง โดยไม่มีใครมาช่วยสนับสนุน หรือมาค้ำประกัน การกู้เงินของกองทุนน้ำมันทั้งหมด ก็ถือเป็นหนี้สาธารณะ จะไปซ่อนหรือไปหลบไม่ได้ ดังนั้น จึงอยากให้ทุกคนสบายใจได้ว่า กระทรวงการคลังได้ดูแลเรื่องนี้อย่างดี และคำนวณตัวเลขออกมาเหมาะสม

“ในรายละเอียดเบื้องต้นของการกู้เงิน ล่าสุด กระทรวงการคลัง ได้สรุปออกมาแล้วแต่ยังไม่สามารถบอกได้ ส่วนจะเป็นการกู้สถาบันการเงินในประเทศหรือต่างประเทศนั้น เป็นไปได้หมด เพื่อให้ได้เงินมาอย่างรวดเร็วและเกิดความคล่องตัวมากที่สุด”นายสุพัฒนพงษ์ กล่าว
สำหรับการเสนอให้เก็บภาษีลาภลอยจากโรงกลั่นน้ำมันนั้น หากย้อนไปดูข้อมูลในอดีตก็ไม่ใช่เรื่องง่าย และต้องใช้เวลา อีกทั้ง ยังมีเกณฑ์ต่าง ๆ ค่อนข้างมาก ส่วนการเจรจากับผู้ประกอบการโรงกลั่นน้ำมัน ก็ยังมีการหารืออยู่ แต่ปัจจุบันค่าการกลั่นก็ลดลงมาอยู่ประมาณลิตรละ 2 บาทกว่า ๆ เท่านั้น อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญในยามวิกฤตครั้งนี้นั้น รัฐบาลจะต้องประคับประคองให้ผ่านพ้นไปให้ได้ และรักษาวินัยทางการเงินการคลังให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งวิกฤตนี้ ถือว่าท้าทายการทำงานของรัฐบาล เพราะทุกอย่างขึ้นอยู่กับความไม่แน่นอน อะไรจะเกิดเมื่อไหร่ก็ได้ โดยเฉพาะเรื่องของราคาพลังงานที่ผันผวน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กองทุนน้ำมันฯ เร่งศึกษาศักยภาพเชื้อเพลิงชีวภาพ ก่อนขยายระยะเวลาจ่ายเงินชดเชยต่อ

สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) เตรียมรวบรวมข้อมูลทั้งไบโอดีเซลและเอทานอล จากผู้ประกอบการและเกษตรกรในการปรับตัวพัฒนาศักยภาพรองรับภายหลังการลดการจ่ายเงินชดเชยน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีส่วนผสมของเชื้อเพลิงชีวภาพตามกฎหมายกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ.2562 ซึ่งการขยายระยะเวลาจ่ายเงินชดเชยให้แก่น้ำมันเชื้อเพลิงที่มีส่วนผสมของเชื้อเพลิงชีวภาพรอบแรกจะสิ้นสุดวันที่ 24 กันยายน 2567

'พิชัย' อวยรัฐบาลแก้ปัญหามาถูกทางแม้ราคาน้ำมันพุ่ง-ศก.จีนทรุด

'พิชัย' เตือน ราคาน้ำมันพุ่ง จะทำหนี้กองทุนน้ำมันทะลุแสนล้าน ห่วงปัญหาเศรษฐกิจจีนฉุดเศรษฐกิจไทย ชี้รัฐบาลมาถูกทางเร่งแก้ปัญหาพร้อมกันหลายด้าน

'สรรพสามิต' เล็งเลิกลดภาษีอุ้มดีเซล โยนกองทุนน้ำมันรับหน้า!

“สรรพสามิต” โยนพลังงานเข็นกองทุนน้ำมันรับหน้าอุ้มราคาพลังงาน หลังมาตรการลดภาษีดีเซลเตรียมหมดอายุ 20 ก.ค. นี้ แจงลดภาษีสูญรายได้แล้ว 1.58 แสนล้านบาท ห่วงฐานะการคลังสะดุด พร้อมเดินเครื่องชงรัฐบาลใหม่เคาะภาษีความเค็ม-บุหรี่ไฟฟ้า-ไบโอเจ็ท

'สุพัฒนพงษ์' โต้ยิบทีมเศรษฐกิจ พปชร. ให้ข้อมูลไม่ตรงข้อเท็จจริง ปมโซลาร์เซลล์

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะทีมเศรษฐกิจพรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.)โพสต์เฟซบุ๊กตอบโต้นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล