'ทิพานัน' ซัด 'เพื่อไทย' ขาดวุฒิภาวะ วิจารณ์ 'IPEF' จินตนาการเกินจริง ทำลายภาพลักษณ์ประเทศ

'ทิพานัน' แจงถกกรอบความร่วมมือเศรษฐกิจอินโด-แปซิฟิก ไทยไม่เสียเปรียบการค้า ยกประเด็นสำคัญ4 ข้อ วอนเพื่อไทยอย่าโยง-จินตนาการเกินจริง ทำลายภาพลักษณ์ประเทศ ปิดโอกาสเงินเข้ากระเป๋าคนไทย

14 ก.ย. 2565 - ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ทีมโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่ กรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ ทั้งเรื่อง กรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจอินโด-แปซิฟิก (IPEF) ว่าไทยจะเสียเปรียบการค้า เสียเปรียบต่างๆนาๆ และพูดถึง เรื่องความเชื่อมั่นของต่างประเทศในการจัดประชุมเอเปคของไทยว่า สะท้อนให้เห็นเป็นการแสดงความคิดเห็นแบบคนที่ขาดวุฒิภาวะและความรู้ ความเข้าใจ ตื้นเขิน ที่อาจส่งผลต่อการเข้าใจผิดของประชาชน จึงต้องสื่อสารเพื่อสร้างความเข้าใจให้อีกครั้ง

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า กรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจอินโด-แปซิฟิก (IPEF) วันที่ 8-9 กันยายน 2565 ณ นครลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา เพื่อหารือแนวทางการขับเคลื่อนความร่วมมือภายใต้ภายใต้ 4 เสาความร่วมมือ ได้แก่ ด้านการค้า ด้านห่วงโซ่อุปทาน ด้านพลังงานสะอาด การลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน โครงสร้างพื้นฐาน และด้านภาษีและการต่อต้านการทุจริต เพื่อความร่วมมืออย่างเป็นรูปธรรม เพื่อการเติบโตทางเศรษฐกิจในภูมิภาคอินโดแปซิฟิก เพื่อประโยชน์ที่จับต้องได้สำหรับประชาชน รวมทั้งไทยที่เข้าร่วมก็จะกล่าวถึงวาระการเป็นเจ้าภาพเอเปคของไทยในปีนี้ด้วย

น.ส. ทิพานัน กล่าวว่า ในการประชุมครั้งนี้เป็นการพูดคุยที่เปิดกว้าง ในการฟื้นฟูด้านต่างๆตามกรอบ 4 เสา ที่สำคัญการประชุมได้เปิดตัวโครงการ IPEF Upskilling Initiative ซึ่งเป็นโครงการความร่วมมือด้านการศึกษาและการฝึกอบรมทางด้านดิจิทัลสำหรับสตรีและเด็กหญิงสำหรับ8 ประเทศหุ้นส่วน IPEF โดยเป็นโครงการความร่วมมือโดยภาคเอกชนชั้นนำในภาคดิจิทัลของสหรัฐอเมริกา จำนวนรวม 14 บริษัท ซึ่งจะครอบคลุมความร่วมมือด้านการศึกษาและการฝึกอบรมสำหรับสตรีและเด็กหญิง กว่า 7 ล้านคน ภายในระยะเวลา 10 ปี จนถึงปี 2575 ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของการดำเนินการภายใต้กรอบความร่วมมือ IPEF อย่างเป็นรูปธรรม ที่จะมีโครงการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ภายใต้กรอบความร่วมมือIPEF ซึ่งกรอบความร่วมมือ IPEF จะสามารถเป็นประโยชน์เกื้อกูลกันกับความร่วมมือภายใต้กรอบเอเปคที่ไทยจะจัดนี้ด้วย

"ดังนั้นสิ่งที่พรรคเพื่อไทยกังวลโยงไปถึงข้อเสียเปรียบทางการค้า หรือข้อกังวลอื่นๆ เป็นข้อคิดเห็นที่ไม่เป็นความจริง ไม่มีเรื่องการค้าที่จะเสียเปรียบใดๆ ทั้งนั้น ท่านจินตนาการเกินเลยข้อเท็จจริงไปมาก และข้อเท็จจริงอีกประการคือนานาประเทศมีความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลไทยและมีแนวโน้มความสำเร็จที่จะนำประโยชน์มาสู่ประเทศชาติและคนไทยทั้งประเทศอย่างมาก"

น.ส. ทิพานัน กล่าวว่า ส่วนเรื่องการประชุมเอเปคเป็นการ "เปิดกว้าง สร้างสัมพันธ์ เชื่อมโยงกัน สู่สมดุล: Open Connect Balance” ที่เป็นแนวคิดหลักของการประชุมเอเปคที่ไทย ซึ่งหลายการประชุมที่เกี่ยวข้องกับ APEC ในไทยที่ผ่านมา ก็ประสบผลความสำเร็จด้วยดี โดยการ ที่ประชุมฯ มุ่งเน้นการส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจ และการฟื้นตัวของ Start-up และวิสาหกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม และรายย่อย (MSME) ในภูมิภาคเอเชีย – แปซิฟิก เพื่อขับเคลื่อน 4 ประเด็นสำคัญ เพื่อการฟื้นตัวของ Start-up และ MSME ในภูมิภาคเอเปคดังนี้

1. เร่งรัดการประยุกต์ใช้ BCG Model ซึ่งสามารถสร้างโอกาสทางธุรกิจและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและบริการของธุรกิจขนาดเล็ก และยังสนับสนุนความพยายามของโลกที่จะรับมือกับภาวะโลกร้อน

2. การเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัลอย่างครอบคลุม ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจขนาดเล็กพัฒนาได้เร็วยิ่งขึ้น และ MSME ที่มีทักษะในด้านดิจิทัลจะเข้าถึงลูกค้าได้มากกว่าและยืนหยัดต่อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว

3. การจัดหาเงินทุนและการปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อช่วยให้ธุรกิจขนาดเล็กสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน

4. การรับมือกับตลาดที่กำลังพัฒนาและเปลี่ยนแปลงไป การสร้างสิ่งแวดล้อมทางธุรกิจ ส่งเสริมนวัตกรรม การมีส่วนร่วมในห่วงโซ่มูลค่าโลก เพื่อสร้างการเติบโตอย่างเข้มแข็งและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน

น.ส. ทิพานัน กล่าวอีกว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับวิสาหกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม และรายย่อย (MSME) ที่เป็นกุญแจสำคัญสู่การเติบโตทางเศรษฐกิจของภูมิภาค เนื่องจากกว่าร้อยละ 98 ของธุรกิจในภูมิภาคเอเชีย – แปซิฟิก คือ MSME โดย MSME เหล่านี้สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจคิดเป็นร้อยละ 40-60 ของ GDP ของเอเปค ดังนั้นรัฐบาลจึงสนับสนุนเพื่อเพิ่มศักยภาพธุรกิจขนาดเล็ก และ MSME ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและความเจริญรุ่งเรืองของประเทศและภูมิภาค เพื่อพัฒนาศักยภาพให้เชื่อมโยงเข้าสู่ห่วงโซ่อุปทานระดับโลก

"น่าเสียดายที่พรรคเพื่อไทยพยายามสร้างภาพว่าเก่งด้านเศษฐกิจ แต่กลับวิจารณ์เศรษฐกิจแบบไม่เข้าใจ ไร้ประโยชน์ ไร้ข้อมูลจริง คล้ายกับเป็นการสื่อสารเพื่อทำลายชาติ ทำลายความหวังในการฟื้นฟูประเทศ ทำลายเงินที่จะเข้ากระเป๋าคนไทย และยังวนเวียนกับเรื่องให้ พล.อ.ประยุทธ์ ลาออก ทั้งที่อยู่ในกระบวนการวินิจฉัยของศาล พรรคเพื่อไทยควรไปหมกมุ่นหนึ่งในนโยบายของพรรคเรื่องทุจริตคอร์รัปชัน โดยเร่งพานักโทษหนีคดีกลับบ้าน นำเงินที่โกงไปหลายแสนล้าน กลับมาคืนคนไทยจะดีกว่า" น.ส. ทิพานัน กล่าว

 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เดือด! โฆษกพรรคหญิงหน่อยจี้ 'สุภาพร' ลาออกหลังโผล่ไปรับทักษิณ

'ภัชริ' ซัด 'สุภาพร' ไม่มีความละอาย ไม่สำนึกถึงสิ่งที่ได้สัญญากับประชาชน โผล่ถ่ายรูป 'ทักษิณ' ทั้งที่ยังสังกัด ไทยสร้างไทย ลั่นพฤติกรรมเป็นงูเห่าชัดตั้งแต่ต้น จี้ลาออกหลังพรรคให้โอกาสแต่ไม่สำนึก

'เพื่อไทย' กำลังถูกดึงลงสู่ระบบกงสีของการโกงที่ 'ทักษิณ' พาเดินลงเหว

จากกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯซึ่งอยู่ระหว่างพักโทษเดินทางเข้าที่ทำการพรรคเพื่อไทยมีการต้อนรับอย่างคึกคัก นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่าวิกฤต เก่ง / โกง

สส.เพื่อไทย ฮึกเหิม! 'อุ๊งอิ๊ง' พาทักษิณดูห้องหัวหน้าพรรค ปัดครอบงำ

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ว่า การเดินทางเข้าที่ทำการพรรคเพื่อไทยของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ทันทีที่เดินทางมาถึงตนได้พาไปดูห้องทำงานของหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่ชั้น 8 ซึ่งเดิมตนทำงานอยู่ชั่น 9 แต่กำลังปรับปรุงเลยย้ายมาทำงานที่ชั้น 8 ซึ่งห้องดังกล่าวเป็นห้องทำงานที่นายทักษิณเคยทำงาน