เร่งแผนพลังงานแห่งชาติ ผุดพีดีพีแล้วเสร็จไตรมาสที่ 2 ปี 66 ด้าน ‘สุพัฒนพงษ์’ ชี้วิกฤตซ้ำซ้อน เร่งหาพลังงานทดแทน-พลังงานสำรองรับมือ เดินหน้ากู้แสนล้าน โปะกองทุน
27 ต.ค.2565 – นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยในงานสัมมนา “Energy For Tomorrow วาระโลก วาระประเทศไทย 2023” โดยบรรยายในหัวข้อ “Road Map พลังงานไทย” ว่าขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างร่างแผนพลังงานกลุ่มย่อย 5 แผนตามแนวทางแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศ(PDP) หรือพีดีพี ซึ่งจะมีการรับฟังและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น คาดว่าแผนย่อย 5 จะแล้วเสร็จภายในปีนี้ เพื่อรวบรวมบรรจุไว้ในแผนพีดีพีที่คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 1/2566 และคาดว่าจะมีผลบังคับใช้ได้ตั้งแต่ไตรมาส 2/2566
ด้าน นายสุพัฒนพงษ์ พันธุ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน กล่าวปาฐกถาพิเศษหัวข้อ “พลังงาน:วาระโลก-วาระประเทศไทย 2023” ว่าปี 2565 ทั่วโลกและประเทศไทยเผชิญวิกฤตซ้อนวิกฤต จากวิกฤตการแพร่ระบาดของโควิด-19 และสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ทำให้เกิดวิกฤตพลังงาน ซึ่งสถานการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เนื่องจากประเทศไทยนำเข้าพลังงานประมาณ 80% ของทั้งหมด โดยไทยนำเข้าก๊าซธรรมชาติ 20-30% ในราคาที่เพิ่มขึ้น 5 เท่า ดังนั้นรัฐบาลจึงดำเนินนโยบายส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทน พลังงานสำรองทดแทนการนำเข้าก๊าซธรรมชาติ ส่วนราคาน้ำมัน รัฐบาลได้ดำเนินการผ่านกลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในการเข้าไปตรึงราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศไม่ให้สูง จนกองทุนต้องมีภาระอุดหนุนราคาดีเซลนับแสนล้านบาท
“รัฐบาลพยาบามช่วยเหลือประชาชนโดยใช้กลไกการตรึงราคาน้ำมันจากสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) ที่พยายามตรึงราคาในระดับไม่แพงเทียบกับเพื่อนบ้าน ดังนั้นจึงต้องกู้เงินเพื่อทยอยใช้จ่ายต่อไป เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศให้มีความเสถียรภาพ ซึ่งในเดือนพ.ย. 2565 จะมีความชัดเจนในเรื่องขงการกู้เงิน โดยเฉพาะการเปิดให้สถาบันทางการเงินยื่นข้อเสนอต่าง ๆ ตามแผนการกู้เงินส่วนแรก 30,000 ล้านบาท และส่วนที่ 2 อีก 1.2 แสนล้านบาท โดยจะทยายกู้เป็นก้อนเล็ก ๆ ตามความเหมาะสม “นายสุพัฒนพงษ์ กล่าว
