สศอ. โชว์เอ็มพีไอ 10 เดือนโต 2.2% รับเศรษฐกิจในประเทศฟื้น เฝ้าระวังต้นทุนพลังงานผันผวนสูง

30 พ.ย. 2565 – นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ผลจากการขยายตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศและการท่องเที่ยวที่กลับมาดีขึ้น สะท้อนจากตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติที่กลับเข้ามาท่องเที่ยวในไทยเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม(เอ็มพีไอ) ขยายตัวต่อเนื่อง โดยภาพรวม 10 เดือนของปีนี้ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 2.2% อยู่ที่ระดับ 99.06 อัตราการใช้กำลังการผลิตเฉลี่ยอยู่ที่ 63.06% ซึ่งปีนี้คาดว่าเอ็มพีไอจะขยายตัว 1.9% ปี 2566 คาดว่าจะขยายตัว 2.5-3.5% ส่วนอัตราการขยายตัว(จีดีพี) ของภาคอุตสาหกรรมปีนี้คาดว่าจะขยายตัว 2% และปีหน้าคาดว่าจะขยายตัว 2.5-3.5%

นางวรวรรณ ชิตอรุณ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) กล่าวว่า สำหรับดัชนีเอ็มพีไอเดือนต.ค.2565 หดตัว 3.71% เนื่องจากการปิดซ่อมบำรุงใหญ่ของโรงงานในอุตสาหกรรมน้ำมันปิโตรเลียมและอุตสาหกรรมเม็ดพลาสติก ซึ่งจะกลับมาผลิตเป็นปกติอีกครั้งในเดือนพ.ย. โดยอุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลบวกในเดือนต.ค.2565 ได้แก่ ยานยนต์ จากรถบรรทุกปิกอัพและรถยนต์นั่งขนาดกลาง ที่สามารถผลิตได้ต่อเนื่อง น้ำมันปาล์ม ขยายตัวจากความต้องการสินค้ามากขึ้นในภาคอุตสาหกรรมและภาคพลังงาน รวมถึงมีผลผลิตปาล์มน้ำมันออกสู่ตลาดเป็นจำนวนมาก และชิ้นส่วนและแผ่นวงจรอิเล็กทรอนิกส์ ขยายตัวตามการเติบโตของตลาดโลกยุคดิจิทัล

“เดือนพ.ย.2565 คาดว่าดัชนีเอ็มพีไอจะขยายตัวจากโรงกลั่นกลับมาดำเนินการตามปกติ รวมถึงเศรษฐกิจในประเทศมีทิศทางที่ดีขึ้น จากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวและการบริโภคในประเทศ แต่อุปสงค์สินค้าในตลาดโลกเป็นปัจจัยที่ต้องติดตามใกล้ชิด เนื่องจากปัจจัยลบจากตลาดส่งออกสำคัญมีแนวโน้มจะเข้าสู่เศรษฐกิจถดถอย และนโยบายโควิดเป็นศูนย์ของจีน ซึ่งเอ็มพีไอปีนี้ทั้งปีที่คาดว่าจะขยายตัว 1.9% มาจากแนวโน้มเศรษฐกิจในประเทศมีทิศทางที่ดีขึ้น การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวและการบริโภคในประเทศ รวมถึงมาตรการช่วยเหลือของภาครัฐ”

อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่เหลือของปีนี้ยังมีปัจจัยเสี่ยงที่ควรเฝ้าระวังและติดตาม ได้แก่ ทิศทางราคาพลังงานทั้งภายในและต่างประเทศ ความผันผวนของราคาน้ำมันทำให้ต้นทุนการผลิตของภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น การปรับค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (เอฟที) ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตเพิ่มจากการนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศ อัตราดอกเบี้ยเงินกู้มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น และทิศทางเศรษฐกิจโลกชะลอตัวจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวในหลายๆ ประเทศทั่วโลก รวมถึงการเกิดภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจของตลาดส่งออกที่สำคัญของไทย ได้แก่ สหรัฐ จีน และญี่ปุ่น และความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ การกีดกันและย้ายฐานการผลิตทางเทคโนโลยีกระทบต่อการส่งออกของไทย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สะสางปัญหา กากแคดเมียม เดิมพันการเมืองครั้งสำคัญ พิมพ์ภัทรา-รมว.อุตสาหกรรม

ปัญหาการพบกากแร่อันตรายแคดเมียม ที่มีการขนย้ายมาจากจังหวัดตาก ซึ่งปัจจุบันมีการยึดอายัดได้ประมาณ 12,500 ตัน หลังพบที่สมุทรสาคร ชลบุรี และกรุงเทพฯ

'พิมพ์ภัทรา' ดึงดีเอสไอ-ปปง. ร่วมสอบปมกากแคดเมียม ชี้หากมีแต่คนใน ก.อุตฯ สังคมจะคาใจ

น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รมว.อุตสาหกรรม ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาการลักลอบขนย้ายกากสารแคดเมียมที่ผิดกฎหมาย ว่า คำสั่งการการประชุมครม. ที่ผ่านมา เป็นการทำงานร่วมกันของทั้ง 6 กระทรวง

กมธ.อุตสาหรรม ไล่บี้เอาผิดเจ้าหน้าที่รัฐ รับผลประโยชน์ขนย้ายกากแคดเมียม

นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)การอุตสาหกรรม สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ว่า ในวันที่ 17 เมษายน เวลา 10.00 น.ที่รัฐสภา กมธ.อุตสาหกรรม