นายกฯ ยินดีกระทรวงแรงงานได้โควตาจัดส่งแรงงานไทยไปเกาหลีใต้เพิ่มใน 3 กลุ่มแรงงาน เป็น 15,000 คน มั่นใจเป็นโอกาสเพิ่มงาน ยกระดับคุณภาพชีวิต
01 ธ.ค.2565 - นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบถึงผลการหารือระหว่างนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กับนาย มุน ซึง ฮย็อน (Mr. Moon Seoung-hyun) เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทย ซึ่งทำให้ไทยได้โควตาการจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานในประเทศเกาหลีเพิ่ม
โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่าในส่วนของประเด็นแรงงานไทย ที่รัฐบาลได้ให้ความสำคัญ หากไทยจัดส่งแรงงานไปทำงานต่างประเทศจะเป็นโอกาสยกระดับเพิ่มทักษะฝีมือแรงงาน ทำให้คนไทยมีงานทำ นำรายได้กลับมาพัฒนาประเทศ ทั้งนี้ ตลาดแรงงานต่างชาติในสาธารณรัฐเกาหลี นับว่าเป็นตลาดแรงงานที่มีศักยภาพและเป็นตลาดที่น่าสนใจ เนื่องจากแรงงานต่างชาติได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายเทียบเท่าคนในชาติ รวมทั้งอัตราค่าจ้างแรงงานค่อนข้างสูง ทำให้มีแรงงานไทยจำนวนมาก เดินทางไปทำงาน ซึ่งจากข้อมูลในเดือน กรกฎาคม ปี 2565 มีจำนวนแรงงานไทยสะสมอยู่ในเกาหลีเป็นจำนวนถึง 12,950 คน
ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานรายงานว่า ได้ขอเพิ่มโควตาการจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานในประเทศเกาหลีใต้ในปี 2566 ทั้ง 3 กลุ่ม คือ กลุ่มแรกวีซ่าทำงานประเภท E-9 (แรงงานทั่วไป) ที่จัดส่งตามระบบการจ้างแรงงานต่างชาติ (EPS) ขอเพิ่มโควตาจากเดิมที่เคยจัดส่งไปปีละ 2,500 คน เป็น 5,000 คน กลุ่มที่ 2 วีซ่าทำงานประเภท E-7 (แรงงานประเภททักษะ/แรงงานฝีมือ) ไปทำงานสาขาช่างเชื่อม ช่างทาสี ในอุตสาหกรรมอู่ต่อเรือ จำนวน 5,000 คน และกลุ่มที่ 3 วีซ่าทำงานประเภท E-8 (แรงงานเกษตรตามฤดูกาล) จำนวน 5,000 คน รวมเป็นจำนวนทั้งสิ้น 15,000 คน จากเดิม 2,500 คน
โดยในช่วงสัปดาห์การจัดการประชุมเอเปก 2022 ของไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานได้มีโอกาสหารือกับนายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐเกาหลี ในประเด็นความร่วมมือด้านแรงงาน จึงได้หยิบยกประเด็นการขอเพิ่มโควตาแรงงาน และการแก้ไขปัญหาแรงงานผิดกฎหมาย
“นายกฯ ได้วางแนวทางในการทำงานให้กับคณะรัฐมนตรี โดยให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือ ดูแล ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน เป็นอันดับต้น โดยรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ตอบรับและดำเนินการตามข้อสั่งการอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ การเพิ่มโควตาแรงงานไทยในประเทศเกาหลีจะมีส่วนสำคัญในการเพิ่มรายได้ของแรงงานไทย ยกระดับคุณภาพชีวิตของแรงงานและครอบครัว พัฒนาทักษะและประสบการณ์ ที่จะสามารถนำมาพัฒนาศักยภาพของตนเอง และของประเทศไทยได้ ทั้งนี้ รัฐบาลไม่ได้หยุดการทำงานแต่เพียงเท่านี้ ยังพิจารณาหาช่องทางอื่น ๆ อย่างต่อเนื่องในการพัฒนาศักยภาพและคุณภาพชีวิตของคนไทย” นายอนุชากล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'เศรษฐา' ขายฝัน 'IGNITE THAILAND' ให้ 'UN- ESCAP'
นายกฯ หารือรองเลขาธิการสหประชาชาติ และเลขาธิการบริหาร ESCAP ย้ำศักยภาพไทย ในการขับเคลื่อน SDGs อย่างเป็นรูปธรรม เสริมสร้างความร่วมมือและการพัฒนาที่ยั่งยืนให้แก่ประชาชนในภูมิภาค
'เศรษฐา' บอก 'ไทย-อังกฤษ' มีสัมพันธ์มาอย่างยาวนาน
นายกฯ เผย 'ไทย-สหราชอาณาจักร' มีความสัมพันธ์กันยาวนาน การลงทุนระหว่างประเทศมีเยอะวีซ่าฟรี-เอฟทีเอ
นายกฯ เมินตอบต้นตอย้าย 'บิ๊กต่อ' เข้ากรุสำนักนายกฯ
นายกฯ ปัดตอบหลังสื่อจี้ถามย้าย 'บิ๊กต่อ' พัวพันรับส่วยหรือไม่ บอกแจงเหตุผลไปแล้ว ขอใจเย็นๆให้เวลาคณะกรรมการเก็บข้อมูลก่อน
รับไม่ได้ติดตามข่าวจักรภพ! แต่เมื่อกลับไทยก็ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
นายกฯ ชี้ 'จักรภพ' กลับไทยมอบตัว ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมให้ถูกต้อง
นายกฯ ย้ำใช้งบประมาณปี 67 ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
'เศรษฐา' ยันใช้งบปี 2567 อย่างเหมาะสม ทุกโครงการต้องคุ้มค่า หลังสภาผ่านงบ
เลิกสังคมอีแอบ! เศรษฐาแบไต๋ผุดกาสิโน
'เศรษฐา' หนุนกาสิโนถูกกฎหมาย ลั่นต้องยกเศรษฐกิจสีเทาขึ้นมาบนพื้น เพื่อกำกับควบคุม ดีกว่าปล่อยให้เป็นสังคมอีแอบ