ดัชนีทอง ธ.ค.65 ทะยาน 9.2% นักลงทุนหันซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย

ดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำ เดือน ธ.ค. 2565 ทะยาน 9.20% หลังนักลงทุนแห่ซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย-แรงซื้อเก็งกำไร จากความกังวลเศรษฐกิจโลกถดถอย พร้อมแนะกลยุทธ์ลงทุน รอดูความชัดเจนนโยบายการเงิน-แนวโน้มดอกเบี้ยจากเฟด

14 ธ.ค. 2565 – นายพิบูลย์ฤทธิ์ วิริยะผล ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ กล่าวว่า ดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำประจำเดือน ธ.ค. 2565 อยู่ที่ระดับ 58.36 ปรับเพิ่มขึ้น 4.92 จุด หรือคิดเป็น 9.20% จากเมื่อเดือน พ.ย. 2565 ที่ระดับ 53.44 จุด เนื่องจากมีความต้องการซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย แรงซื้อเก็งกำไร ความกังวลเศรษฐกิจโลกถดถอย และความกังวลเรื่องเงินเฟ้อในสหรัฐฯ ตามลำดับ

โดยคาดการณ์ความต้องการซื้อทองคำในช่วงเดือน ธ.ค. 2565 จากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 336 ราย พบว่า ในจำนวนนี้มี 144 ราย หรือเทียบเป็น 43% ไม่แน่ใจว่าจะซื้อทองคำในเดือนนี้หรือไม่ ส่วนอีกจำนวน 132 ราย หรือเทียบเป็น 39% จะซื้อทองคำ และจำนวน 60 ราย หรือเทียบเป็น 18% ไม่ซื้อทองคำ

ขณะที่กลุ่มตัวอย่างที่เป็นผู้ประกอบกิจการค้าทองคำรายใหญ่ และผู้ประกอบกิจการนายหน้าซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาทองคำจำนวน 13 ราย พบว่า ในจำนวนนี้มี 5 ราย หรือเทียบเป็น 38% เชื่อว่าราคาทองคำในเดือน ธ.ค.2565 จะลดลง ส่วนจำนวน 4 ราย หรือเทียบเป็น 31% คาดว่าจะเพิ่มขึ้น และจำนวน 4 ราย หรือเทียบเป็น 31% คาดว่าใกล้เคียงกับราคาทองคำในเดือน พ.ย. 2565

สำหรับการคาดการณ์ราคาทองคำในเดือน ธ.ค.2565 ของผู้ประกอบกิจการค้าทองคำรายใหญ่มีมุมมอง ดังนี้ Gold Spot ให้กรอบเฉลี่ยบริเวณ 1,707-1,845 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ ด้านราคาทองคำแท่งในประเทศความบริสุทธิ์ 96.5% ให้กรอบเฉลี่ยบริเวณ 28,550-30,150 บาทต่อน้ำหนัก 1 บาททองคำ และด้านค่าเงินบาทให้กรอบเฉลี่ยบริเวณ 34.41-36.06 บาท/ดอลลาร์

คำแนะนำการลงทุนทองคำในเดือน ธ.ค. 2565 ผู้ค้าทองคำรายใหญ่ให้ความเห็นว่า ราคาทองคำจะยังคงเคลื่อนไหวในกรอบ เป็นลักษณะ sideways เพื่อรอดูความชัดเจนของทิศทาง โดยเฉพาะนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ และแนวโน้มของอัตราดอกเบี้ยในระยะถัดไป

อย่างไรก็ตาม บรรยากาศการซื้อ-ขายทองคำในสัปดาห์สุดท้ายของปีอาจมีปริมาณที่เบาบาง เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่ชะลอการตัดสินใจลงทุนก่อนช่วงวันหยุดยาวปลายปี และเทศกาลคริสต์มาส ซึ่งกรอบการเคลื่อนไหวของราคาทองมักจะแคบลงไปจนถึงเทศกาลปีใหม่

ดังนั้น จึงแนะนำนักลงทุนเน้นการทำกำไรในระยะสั้นจากการแกว่งตัวของราคาทอง โดยเข้าซื้อหากราคาย่อตัว และให้แบ่งขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้น หรืออาจชะลอการเข้าซื้อ เพื่อรอดูการสร้างฐานของราคาทองในระยะถัดไป

สำหรับภาพรวมดัชนีตลาดหุ้นไทยวันที่ 13 ธ.ค. 2565 พบว่า ดัชนีปิดที่ 1,625.91 จุด เพิ่มขึ้น 2.78 จุด (+0.17%) มูลค่าการซื้อขาย 55,072.71 ล้านบาท

นายณรงค์เดช จันทรไพศาล ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ไอร่า กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวผันผวนเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกและลบ เป็นไปตามตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย เนื่องจากนักลงทุนยังรอการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 14-15 ธ.ค.นี้ และการเปิดเผยตัวเลข CPI ของสหรัฐ เพื่อรอลุ้นว่าเฟดจะส่งสัญญาณทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างไร

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ทุบสถิติใหม่อีก! ราคาทองในประเทศ พุ่งทะลุ 34,000 บาท

สถานการณ์ราคาทองคำในประเทศวันนี้ ยังคงพุ่งทำนิวไฮต่อเนื่อง โดยมีการปรับเปลี่ยนราคาระหว่างวันทั้งสิ้น 5 ครั้ง ปรับขึ้นสุทธิ 300 บาท ครั้งล่าสุด (14.40 น.)

ผวาสงครามปะทุหนุนราคาทองนิวไฮ

ทองคำพุ่งทำนิวไฮ “YLG” ชี้นักลงทุนผวาสงครามรัสเซีย-ยูเครนปะทุ พ่วงเศรษฐกิจสหรัฐฯ แผ่ว หนุนเงินทุนไหลเข้าสู่สินทรัพย์ปลอดภัย พร้อมแนะทำกำไรระยะสั้น ด้าน “ตลท.” แจงเดือน มี.ค. ต่างชาติยังเทขายหุ้นไทยเป็นเดือนที่ 2

นักลงทุนกังวลศก.โลกถดถอย กระทบราคาทองคำดิ่ง

‘YLG’ มองช่วงสั้นราคาทองคำยังดิ่ง หลังต้น ก.ค. ร่วงทำนิวโลว์ในรอบปี เหตุกังวลเศรษฐกิจโลกถดถอย ด้าน ‘KTB’ ลุ้นปลายปีบาทพลิกกลับแข็งค่า ที่ระดับ34-35 บาท/ดอลลาร์