
กกพ.จ่อเคาะลดค่าไฟเอกชน 40 สตางค์ 28 ธ.ค. รอตัวเลขหนี้ กฟผ. ด้านเอกชนลั่นผิดหวังทางแก้ไฟแพงของรัฐบาล มีแต่โยนภาระกฟผ. – ปตท. ไม่แก้ต้นเหตุจริง วอนดึง 5 ข้อกกร.แก้ตั้งแต่ต้นเหตุ
28 ธ.ค. 2565 – รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า วันที่ 28 ธ.ค. คณะกรรมการกกพ.จะประชุมทบทวนอัตราค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ หรือเอฟที งวดม.ค.-เม.ย. 66 ประเภทอื่นๆได้แก่ ธุรกิจ อุตสาหกรรม บริการ ตามนโยบายรัฐบาล เบื้องต้นคาดว่า จะลดลงได้อีกประมาณ 40 สต. จากเดิมต้องปรับขึ้นไปอยู่ที่อัตรา 190.44 สตางค์ต่อหน่วย หรือค่าไฟเฉลี่ยรวมเป็น 5.69 บาทต่อหน่วย แบ่งเป็น 20 สต.แรกมาจากการปรับลดราคาก๊าซธรรมชาติของบมจ.ปตท. รวมทั้งค่าน้ำมันดีเซล ที่ใช้ผลิตไฟฟ้าของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ส่วนที่เหลืออีกประมาณ 20 สต. รอตัวเลขการจ่ายหนี้สะสมของกฟผ.จากเดิมต้องจ่ายให้กฟผ. 33 สตางค์ต่อหน่วยว่า กฟผ.จะรับคืนลดลงได้เท่าไร เช่น รับคืนก่อนครึ่งหนึ่ง หรือ 16 – 20 สต. รวมแล้วก็จะลดได้ประมาณ 40 สต.
นายอิศเรศ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวถึงกรณีกระทรวงพลังงานอยู่ระหว่างให้กกพ.จัดทำตัวเลขค่าเอฟทีใหม่ ให้กับภาคธุรกิจให้ถูกลงจากเดิมว่า รู้สึกผิดหวังกับสิ่งที่กระทรวงพลังงานชี้แจงออกมา เช่น ให้เอกชนบางส่วนที่ใช้ก๊าซธรรมชาติในการผลิตให้มีการใช้ลดลงเพื่อลดนำเข้าแอลเอ็นจี หันไปใช้น้ำมันเตา และดีเซล แทนเป็นการชั่วคราว ซึ่งกรณีที่ต้องใช้ระยะเวลา ไม่สามารถทำได้ทันที ส่วนตัวมองว่า แนวทางของกระทรวงพลังงาน เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ไม่ได้นำแนวทางข้อเสนอ 5 ข้อของคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน หรือกกร. ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ นำไปพิจารณาเลย
“กลุ่มโรงงานเมื่อเลิกใช้น้ำมันเตา ก็รื้อถังทิ้งมาเปลี่ยนเป็นท่อเพื่อใช้แก๊สแทน ตอนนี้หลายโรงงานเริ่มกลับมาใช้น้ำมันเตาจะต้องหาถังมาใส่ใหม่ ต้องใช้เงินลงทุนและเวลาในการปรับเปลี่ยน จึงไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนการเดินท่อน้ำประปา ซึ่งเอกชนพยายามดูประเด็นว่า สิ่งที่ต้องทำจะต้องอย่างไรมากกว่า เพราะการแก้ปัญหายังเป็นวิธีเดิม ดังนั้นเราจึงยืนยันให้แก้ที่ต้นเหตุตาม 5 ข้อที่กกร.เสนอ เช่น ค่าความพร้อมมจ่าย หรือเอพีของโรงไฟฟ้าเอกชนควรจะปรับตัวลงบ้างหรือไม่ ไม่พูดถึงประเด็นนี้เลย ทั้ง ๆ ที่ภาครัฐมีเครื่องมือ ทั้งนโยบาย กฎหมายและการกำกับดูแล ก็เลือกสั่งแต่กฟผ. เพราะอยู่ภายใต้กำกับ จนไม่สามารถแบกรับภาระไหวแล้ว”แหล่งข่าว กล่าว
ส่วนภาระหนี้กฟผ. กระทรวงการคลังควรเข้ามาช่วยเหลือ เช่น ออกบอนด์ เพื่อระดมเงินทุนจากประชาชนแล้วเพื่อมาช่วยเสริมสภาพคล่องให้กฟผ. แต่ปัญหาตอนนี้ คือ นายสุพัฒนพงษ์ ได้พิจารณาเรื่องนี้หรือไม่ ทุกคนรักษาบทบาทตัวเองหมด ดังนั้นนายกรัฐมนตรี จะต้องสั่งการ อีกทั้งคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจมีไว้ทำไม ควรจะหารือว่า จะเอาอย่างไรให้ดีที่สุด ถ้าเป็นหน่วยงานอื่นเชื่อว่า จะมีวิธีการหาทางออกที่ดี
นอกจากนี้กรณีที่นายสุพัฒนพงษ์ ระบุว่า ให้เอกชนเข้ามาหารือนั้น ยืนยันว่าได้ทำหนังสือไปหากระทรวงพลังงาน 4-5 ฉบับแต่ก็ไม่เคยเปิดช่องให้หารือเลย ทั้งที่เป็นรองนายกฯ ดูเรื่องเศรษฐกิจควรจะหารือกับหลาย ๆ กระทรวง เช่น กระทรวงอุตสาหกรรมในเรื่องของใบอนุญาตโรงงานช่วยกลุ่มอุตสาหกรรม เพื่อเดินหน้าปลดล็อคทุกเรื่องที่เสนอไป ซึ่งจะทำได้หรือไม่ได้ ก็ควรที่จะมาคุยกันให้ผู้มีอำนาจผลักดันจะดีกว่ามาแก้ปัญหาปลายเหตุ ใช้กลไกภาครัฐนอกเหนือจากกระทรวงพลังงานขับเคลื่อนร่วมกัน
“กกพ.น่าจะปรับลดค่าไฟลงแต่ก็ไม่เยอะ เอกชนมองว่า ขั้นต่ำไม่ควรต่ำกว่า 40 สต. ความหวังเราคือแก้ปัญหาตรงจุดตามวิธีที่เหมาะสม ซึ่งผลจะเป็นอย่างไรเราก็ยอมรับได้ เราอยากให้การทำงานเป็นเชิงรุกสร้างสรรค์ ผลที่ได้ถ้าไม่ได้ก็คือไม่ได้ ไม่ใช่ว่ายังไม่ทำแล้วบอกว่าไม่ได้ก็ไม่มีใครยอมหรอก ผลที่ออกมาเป็นวิธีของเขา เราก็ไม่พอใจอยู่แล้ว เพราะวิธีการที่เสนอไปยังไม่ได้เอามาพิจารณาเลย รอบนี้เป็นระเบิดเวลาจริง ๆ”แหล่งข่าว กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นายกฯ ปลื้มเอกชนเชื่อมั่นนโยบาย BCG ตอบโจทย์ความยั่งยืนของไทย
โฆษกรัฐบาลเผย นายกฯ ยินดี องค์กรเอกชนเชื่อมั่นและขานรับนโยบาย BCG ตอบโจทย์ความยั่งยืนของไทย พร้อมเร่งเดินหน้ารัฐบาลมุ่งยกระดับ และเสริมสร้างขีดความสามารถของประเทศ สร้างการเติบโตแบบทั่วถึง เท่าเทียมและเป็นธรรม
จับตาบอร์ด กกพ. เคาะค่าเอฟที งวดพ.ค.-ส.ค.66 ลั่นข่าวดีต้นทุนต่างๆปรับตัวลง
กกพ. ชี้จับตาประชุมบอร์ด 8 มี.ค. เคาะค่าเอฟที งวดพ.ค.-ส.ค.66 ลั่นข่าวดีต้นทุนต่าง ๆ ปรับตัวลง ฉุดค่าไฟเฉลี่ยลดต่ำกว่า 5 บาทต่อหน่วยแน่นอน มีลุ้นเหลืออัตราเดียวเท่ากับบ้านที่อยู่อาศัย 4.72 บาทต่อหน่วย
จับตา‘กกพ.’ลดค่า‘เอฟที’ เฉลี่ยต่ำกว่า5บ.ต่อหน่วย
กกพ.ชี้จับตาประชุมบอร์ด 8 มี.ค. เคาะค่าเอฟทีงวด พ.ค.-ส.ค.66
'บิ๊กตู่' ปลื้ม 'กกพ.' ขานรับและต่อยอดแนวคิด BCG
นายกฯ ยินดี หน่วยงานขานรับแนวทาง BCG ที่รัฐบาลผลักดัน ล่าสุด กกพ. สนับสนุนใช้พลังงานหมุนเวียน พลังงานสีเขียว แต่ยังรักษาความมั่นคงทางพลังงานในประเทศ
นายกฯชมทุกฝ่าย ผลักดันนวัตกรรมพลังงาน สอดรับสู่สังคมคาร์บอนต่ำ
โฆษกรัฐบาลเผยนายกฯ ชื่นชมความร่วมมือของทุกภาคส่วนที่ผลักดันนวัตกรรมด้านพลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สอดรับกับนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งก้าวสู่สังคมคาร์บอนต่ำ ช่วยกันแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ภาคเอกชน ชื่นชม โครงการดูแลสุขภาพผู้ประกันตนเชิงรุกในสถานประกอบการ ลดอัตราเจ็บป่วย
นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมการให้บริการโครงการดูแลสุขภาพผู้ประกันตนเชิงรุกในสถานประกอบการ ณ บริษัท เอส บี อุตสาหกรรมเครื่องเรือน จำกัด