'จุรินทร์' ชูตัวเลขส่งออกเดือนตุลา ขยายตัว 17.4% นำรายได้เข้าประเทศ 7.5 แสนล้าน

พาณิชย์-ส่งออก ขาหลักช่วยชาติ! จุรินทร์ ชู ตัวเลขส่งออกเดือนล่าสุด 'ตุลาคม' ขยายตัวต่อเนื่อง 17.4% นำรายได้เข้าประเทศ 750,016 ล้านบาท ยางพารา-ข้าว-ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง-ผลไม้ ขายดี

22 พ.ย.2564 - เมื่อเวลา 09.30 น.นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า และทูตพาณิชย์จาก 58 แห่งทั่วโลกเข้าร่วม

แถลงข่าวภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทย เดือนตุลาคม 2564 และ 10 เดือนแรกของปี 2564 ณ สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ นายจุรินทร์ กล่าวว่าตัวเลขการส่งออกเดือนตุลาคม 2564 ขยายตัวเป็น +17.4% คิดเป็นมูลค่า 22,738.7 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 750,016 ล้านบาท ตัวเลขรวม 10 เดือนแรกของปีนี้ การส่งออก +15.7% คิดเป็นมูลค่า 222,736.4 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 6.95 ล้านล้านบาท โดยแบ่งสินค้าสำคัญออกเป็น 3 กลุ่ม ประกอบด้วย 1.กลุ่มสินค้าเกษตร 2.กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมเกษตร และ 3.กลุ่มอุตสาหกรรม

โดย 1.กลุ่มสินค้าเกษตร ในเดือนตุลาคม 2564 ขยายตัว 22.5% คิดเป็นมูลค่า 66,048 ล้านบาท ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 12 สินค้าเกษตรสำคัญมี 5 ตัว ได้แก่ 1) ลำไยสด เป็นบวก 5 เดือนต่อเนื่อง บวก 97.7% มูลค่า 3,191 ล้านบาท สามารถผลักดันการส่งออกได้มากเป็นเท่าตัว แม้จะมีความกังวลเมื่อต้นฤดู 2) ยางพารา เป็นบวก 13 เดือนต่อเนื่อง ขยายตัว 51.7% มูลค่า 16,766 ล้านบาท 3) ข้าว เป็นบวก 3 เดือนต่อเนื่อง ขยายตัว 33.7% มูลค่า 12,188 ล้านบาท 4) ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง เป็นบวก 12 เดือนต่อเนื่อง +29.5% มูลค่า 8,262 ล้านบาท 5) มะม่วงสด เป็นบวก 9 เดือนต่อเนื่อง ขยายตัว 27.0% มูลค่า 146 ล้านบาท แม้ว่ามูลค่ายังน้อย แต่จะเป็นอนาคตที่สดใสต่อไป

2.กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมการเกษตร เดือนตุลาคม ขยายตัว 13.5% ยอดส่งออก 56,543 ล้านบาท ขยายตัวต่อเนื่องเดือนที่ 8 โดยมีสินค้าที่ขยายตัวสูง ได้แก่ 1) น้ำตาลทราย เป็นบวก 111.6% มูลค่า 6,092 ล้านบาท 2)ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็ง แห้ง กระป๋องและแปรรูป เป็นบวก 28.7% มูลค่า 14,383.6 ล้านบาท 3) อาหารสัตว์เลี้ยง เป็นสินค้าดาวรุ่งอย่างต่อเนื่องเนื่องจากมีมูลค่าเป็นบวก 25 เดือนต่อเนื่อง ในตุลาคม 2564 ขยายตัว 14.4% มูลค่า 6,818 ล้านบาท

3. กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม ภาพรวมเดือนตุลาคม ขยายตัว 13.9% คิดเป็นมูลค่า 593,731 ล้านบาท ขยายตัวต่อเนื่องเดือนที่ สินค้าที่ขยายตัวดี ได้แก่ 1) สินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน เป็นบวก 9 เดือนต่อเนื่อง) ขยายตัว 67.3% มูลค่า 91,829 ล้านบาท 2) เหล็ก เหล็กกล้า และผลิตภัณฑ์ ขยายตัว 35.9% มูลค่า1 9,381 ล้านบาท) เป็นบวก 11 เดือนต่อเนื่อง 3) อัญมณีและเครื่องประดับ (ไม่รวมทองคำ) เป็นบวก 8 เดือนต่อเนื่อง ขยายตัว 20.6% มูลค่า 21,552 ล้านบาท 4) แผงวงจรไฟฟ้า บวก 11 เดือนต่อเนื่องขยายตัว 18.6% มูลค่า 25,309 ล้านบาท 5) รถยนต์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ เป็นบวก 12 เดือนต่อเนื่อง ขยายตัว 10.3% มูลค่า 75,582 ล้านบาท

นอกจากสินค้าที่เป็นบวก ในเรื่องของตลาดมีตลาดที่ขยายตัวระดับสูง 10 อันดับแรก ดังต่อไปนี้

1) รัสเซียและกลุ่มประเทศ CIS เป็นตลาดใหม่ที่กระทรวงพาณิชย์ให้ความสำคัญอย่างยิ่ง ขยายตัว 78.8% 2) เอเชียใต้ ซึ่งเป็นตลาดใหม่เช่นเดียวกัน เช่น อินเดีย บังคลาเทศ ศรีลังกา ขยายตัว 50.4% 3) อาเซียน 5 (ไม่รวม CLMV ไม่รวม กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมาร์ และเวียดนาม) ขยายตัว 39.7% 4) ทวีปแอฟริกา ซึ่งเป็นตลาดใหม่ที่กระทรวงพาณิชย์ต้องการไปบุกตลาด ซึ่งแม้จะมีอุปสรรคจากโควิด-19 ก็ยังมีเซลส์แมนประเป็นที่ประจำการอยู่ในภูมิภาคดังกล่าวที่เป็นกลไกลสำคัญในการขับเคลื่อน ขยายตัว 38.8% 5) ตะวันออกกลาง ขยายตัว 33.2% ซึ่งภายในสัปดาห์นี้ ตนจะได้พบกับทูตโอมาน เพื่อจะได้หารือเรื่องการส่งออกไปตะวันออกกลางด้วย 6) เกาหลีใต้ ขยายตัว 30.6% 7) CLMV ขยายตัว 19.8% 8) สหรัฐฯ ขยายตัว 16.1% 9) จีน ขยายตัว 14.1% 10) ลาตินอเมริกา ตลาดใหม่ที่มีแผนในการบุกตลาด ขยายตัว14.1%

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตัวเลขการส่งออกเดือนตุลาคม 2564 เป็นบวกถึง 17.4% ได้แก่

1. การดำเนินการตามแผนการส่งเสริมการส่งออกของกระทรวงพาณิชย์อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวเลขมันสำปะหลังพุ่งสูง ในเดือนตุลาคมสูงถึง 30% เนื่องจากการผลักดันการส่งออกมันสำปะหลังไทยให้มีคุณภาพอันดับ 1 ของโลก ตามยุทธศาสตร์มันสำปะหลังไทยปี 2564 - 2567 รวมไปถึงการเดินหน้าตามแผนงานยุทธศาสตร์ มุ่งรักษาตลาดเดิม เพิ่มตลาดใหม่ และฟื้นฟูตลาดเก่า

2. การเติบโตของเศรษฐกิจและการค้าโลกที่ต่อเนื่องมาระยะหนึ่ง และคาดว่าจะเจริญเติบโตต่อไปจนถึงไตรมาสที่ 4

3. ค่าเงินบาทในช่วงเดือนตุลาคม อ่อนค่าสุดในรอบกว่า 4 ปี

4. ราคาน้ำมันดิบที่เพิ่มสูงขึ้นส่งผลให้มูลค่าการส่งออกสินค้าที่เกี่ยวข้องกับน้ำมันเพิ่มขึ้น

ขณะที่ นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า ได้แถลงคาดว่าตัวเลขการค้าทั้งปี 2564 มีความเป็นไปได้ที่จะขยายตัว 15 – 16% (266,379 -268,696 ล้านเหรียญสหรัฐ) ซึ่งถือว่าเกินกว่าเป้าประมาณ 4 เท่า (จากเมื่อต้นปี มีการตั้งเป้าไว้ที่ 4%) โดยมีปัจจัยสนับสนุนเพิ่มเติม ได้แก่ 1) มาเลเซียซึ่งเป็นคู่ค้าที่ชะลอการค้าไปในช่วงกลาง หลังจากการเปิดด่านคาดว่าจะมีการส่งออกจากไทยที่เจริญเติบโตมากขึ้น 2) การค้าผ่านอีคอมเมิร์ซ 3) การเปิดด่านอื่นๆ เพิ่มเติม

นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า “ทางกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศมีการจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่องการจับคู่เจรจาธุรกิจผ่านออนไลน์ (Online Business Matching: OBM) ในเดือนธันวาคมจะมีการจัดกิจกรรมดังกล่าวสำหรับสินค้าผลไม้ก่อนที่จะออกฤดูกาลผลไม้นั้นๆ และมีกิจกรรมส่งเสริมสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับซึ่งเป็นการทำงานของเซลล์แมนประเทศที่แจ้งความต้องการเข้ามายังส่วนกลางอยู่ตลอดเวลา โดยจะใช้เวลา 2 เดือนที่เหลือในการสร้างมูลค่าให้มากที่สุด”

สำหรับกล่าวถึงเป้าส่งออกปี 2565 นั้น นายจุรินทร์กล่าวว่า จะมีการประชุม กรอ. พาณิชย์ ร่วมกับภาคเอกชน เพื่อประเมินสถานการณ์ส่งออกปี 2565 และวางแผนการดำเนินการสำหรับปี 2565 ต่อไป.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รัฐบาลตีปี๊บ ประกวด 'ข้าวหอมมะลิไทย' ช่วยยกคุณภาพชีวิตเกษตรกร

รัฐบาลหนุนเกษตรกรและโรงสี จัดประกวดข้าวหอมมะลิไทยปี 2566 เฟ้นหาและอนุรักษ์พันธุ์ข้าวไทยคุณภาพชั้นเลิศ พร้อมขยายช่องทางการจำหน่าย

รัฐบาลแนะผู้ประกอบการไทยปรับตัว ปฏิบัติตามกฎตลาดโลก

รัฐบาลเสริมความเข้มแข็งสินค้าไทย ให้เท่าทันกฎระเบียบของทุกตลาด แนะผู้ประกอบการปรับตัว หลังสเปนจ่อออกกฎใหม่ เครื่องดื่มพสาสติกต้องใช้ฝาแแบยึดกับขวด

รัฐบาลลุยต่อยอด 'ผ้าขาวม้าไทยฟีเวอร์' ขยายตลาดช่วยชุมชนโกยรายได้

รัฐบาลเดินหน้าส่งเสริมต่อยอด 'ผ้าขาวม้าไทยฟีเวอร์' เพิ่มมูลค่าขยายตลาด ช่วยผู้ประกอบการชุมชนโกยรายได้ กระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น