โฆษกรัฐบาลเผย นายกฯ มั่นใจเศรษฐกิจไทยเติบโตต่อเนื่อง นักลงทุนไทยและต่างชาติเชื่อมั่น ปี 2565 ขอรับการส่งเสริมการลงทุนแล้วมูลค่า 6.65 แสนล้านบาท เพิ่มจากปีก่อน 39%
18 ม.ค.2566 - นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มั่นใจเศรษฐกิจไทยเติบโตต่อเนื่อง นักลงทุนไทยและต่างชาติให้ความเชื่อมั่น พร้อมสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสนับสนุนการลงทุนอย่างแข็งขัน เพิ่มเงินหมุนเวียนในระบบ เพิ่มการจ้างงาน ฟื้นฟูเศรษฐกิจ
โฆษกประจำสำนักนายกฯ เผยว่า จากรายงานภาวะการลงทุนภายในปี 2565 พบว่า ในปี 2565 มีการขอรับการส่งเสริมการลงทุน 2,119 โครงการ เพิ่มจากปีก่อน 41% และมีมูลค่าเงินลงทุน 664,630 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 39% มีการอนุมัติให้การส่งเสริมการลงทุน 1,554 โครงการ ลดลงจากปีก่อน 1% และมีมูลค่าเงินลงทุน 618,620 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 21% และมีการออกบัตรส่งเสริม 1,490 โครงการ เพิ่มจากปีก่อน 9% และมีมูลค่าเงินลงทุน 489,090 ล้านบาท เพิ่มจากปีก่อน 21%
ในส่วนของการขอรับการส่งเสริมการลงทุนนั้น มีจำนวนสูงกว่าช่วงก่อนโควิด ทั้งในแง่จำนวนโครงการ และมูลค่าเงินลงทุน เนื่องจากศักยภาพและความพร้อมด้านการลงทุนของไทย ประกอบ กับสถานการณ์โควิด – 19 ผ่อนคลาย ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะ ปกติอีกทั้งในปี 2565 มีโครงการขนาดใหญ่ในหลายประเภทกิจการ เช่น กิจการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าทุก ประเภท มูลค่ารวม 53,991 ล้านบาท กิจการผลิตพลังงานไฟฟ้า มูลค่ารวม 50,495 ล้านบาท และกิจการ Data Center มูลค่ารวม 42,548 ล้านบาท เป็นต้น
ทั้งนี้ การขอรับการส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ มีมูลค่า 433,971 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 65% ของมูลค่าคำขอรับการส่งเสริมทั้งสิ้น และเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 36% โดยแบ่งเป็นรายประเทศ/เขตอาณา ดังนี้ จีน ลงทุนมากเป็นอันดับ 1 มีคำขอรับการส่งเสริม 158 โครงการ คิดเป็นร้อยละ 15 ของจำนวน โครงการจากต่างประเทศ เงินลงทุน 77,381 ล้านบาท คิดเป็น 18% ของเงินลงทุนของโครงการจากต่างประเทศ ส่วนมากเป็นอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ และอุตสาหกรรม ปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์
ญี่ปุ่น ลงทุนมากเป็นอันดับ 2 มีคำขอรับการส่งเสริม 293 โครงการ คิดเป็น 27% ของจำนวน โครงการจากต่างประเทศ เงินลงทุน 50,767 ล้านบาท คิดเป็น 12% ของเงินลงทุนของโครงการ จากต่างประเทศ ส่วนมากเป็นอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ และอุตสาหกรรมปิโตร เคมีและเคมีภัณฑ์
สหรัฐอเมริกา ลงทุนมากเป็นอันดับ 3 มีคำขอรับการส่งเสริม 33 โครงการ คิดเป็น 3% ของจำนวนโครงการจากต่างประเทศ เงินลงทุน 50,296 ล้านบาท คิดเป็น 12% ของเงินลงทุนของโครงการจากต่างประเทศ ส่วนมากเป็นอุตสาหกรรมดิจิทัล และอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและ อิเล็กทรอนิกส์
ไต้หวัน ลงทุนมากเป็นอันดับ 4 มีคำขอรับการส่งเสริม 68 โครงการ คิดเป็น 6% ของจำนวน โครงการจากต่างประเทศ เงินลงทุน 45,215 ล้านบาท คิดเป็น 10% ของเงินลงทุนของโครงการจากต่างประเทศ ส่วนมากเป็นอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน และอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์
สิงคโปร์ลงทุนมากเป็นอันดับ 5 มีคำขอรับการส่งเสริม 178 โครงการ คิดเป็น 17% ของจำนวน โครงการจากต่างประเทศ เงินลงทุน 44,286 ล้านบาท คิดเป็น 10% ของเงินลงทุนของโครงการ จากต่างประเทศ ส่วนมากเป็นอุตสาหกรรมดิจิทัล และอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน
ในส่วนของการขอรับการส่งเสริมการลงทุนใน 12 อุตสาหกรรมเป้าหมาย มีเงินลงทุน 468,668 ล้านบาท คิดเป็น71% ของมูลค่าการขอรับการส่งเสริมทั้งสิ้น ส่วนใหญ่อยู่ในอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและ อิเล็กทรอนิกส์ มูลค่า 129,475 ล้านบาท รองลงมาได้แก่ อุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน อุตสาหกรรมเกษตรและแปรรูปอาหาร อุตสาหกรรมปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์
“นายกฯ มั่นใจเศรษฐกิจไทยเติบโตอย่างต่อเนื่อง นักลงทุนไทยและต่างชาติให้ความเชื่อมั่น โดยรัฐบาลได้ดำเนินนโยบายเพื่อเพิ่มความสามารถทางการแข่งขันของไทยทั้งทางด้านโครงสร้างพื้นฐาน ปรับปรุงกฎระเบียบที่อำนวยความสะดวกให้แก่การลงทุน ซึ่งแนวทางในการทำงานของรัฐบาลตลอดมาเป็นไปเพื่อการพัฒนาของชาติตามยุทธศาสตร์ที่ได้วางไว้ ในส่วนของการวางรากฐานที่ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องนั้น เริ่มเห็นเป็นรูปธรรมที่ชัดเจน ซึ่งรัฐบาลพร้อมดำเนินการต่อยอดเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนด้วยความมั่นคงต่อไป เพื่อประโยชน์ทางการฟื้นฟูเศรษฐกิจ เพิ่มการจ้างงาน และเพื่อชีวิตที่ดีขึ้นของประชาชนทุกคน” นายอนุชา กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ครม.เคาะแพ็กเกจใหญ่ช่วยเหลือ 'ลูกหนี้รายย่อย-เอสเอ็มอี'
ครม. อนุมัติชุดใหญ่! จัดมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ ผู้ประกอบการ SMEs มั่นใจเศรษฐกิจไทยฟื้นแน่
นายกฯ อิ๊งค์ลั่นกลาง ครม.พร้อมลงภาคใต้แต่ไม่รู้เมื่อไหร่!
นายกฯ แจ้งที่ประชุม ครม. พร้อมลงภาคใต้ ขอ ศปช.ส่วนหน้าสรุปแผนแก้ไขน้ำท่วมอย่างเป็นระบบ ทั้งระยะสั้น-ระยะยาว เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก
รัฐบาลตีปี๊บแถลงผลงาน 90 วัน 12 ธ.ค. มั่นใจประเทศไทยไปได้สวย
รัฐบาลแถลงผลงาน 90 วัน “2568 โอกาสไทย ทำได้จริง“ พฤหัสนี้ มั่นใจประเทศไทยไปได้สวย หลังพบทุกมิติของประเทศคึกคัก คาดจีดีพีปีหน้าเติบโตสู้ประเทศในอาเซียนได้แน่
รัฐบาลพร้อมรับ 4 คนไทยกลับบ้าน เช็กสุขภาพ-เยียวยาจิตใจทันที
นายกฯ รับรายงานพร้อมรับ 4 คนไทยกลับบ้าน ด้าน สธ. เตรียมทีมดูแลสุขภาพกาย-จิตใจ ทันทีที่เหยียบแผ่นดินไทย
รัฐบาลชวนชมริ้วขบวนอัญเชิญ 'พระเขี้ยวแก้ว' จากดอนเมืองมาสนามหลวง
รัฐบาล เชิญชวนชมริ้วขบวนอัญเชิญพระเขี้ยวแก้วจากดอนเมือง มาประดิษฐาน มณฑลพิธีท้องสนามหลวง พร้อมเปิดสักการะ 5 ธ.ค.2567 - 14 ก.พ.2568