นายกฯ ปลื้ม 'เจพี มอร์แกน' ชี้ตลาดหุ้นไทยน่าลงทุน

โฆษกรัฐบาลเผย นายกฯ ยินดี บริษัทหลักทรัพย์เจพี มอร์แกน จัดอันดับให้หุ้นไทยเป็นหุ้นที่น่าลงทุนที่สุดในอาเซียน คาดดัชนี SET พุ่งขึ้น 7% แตะระดับสูงสุดที่ 1,800 จุด

25 ม.ค.2566 - นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้รับทราบรายงานกรณีบริษัทหลักทรัพย์ เจพี มอร์แกน เปิดเผยข้อมูลในการประชุม J.P. Morgan Thailand Conference ว่าตลาดหุ้นไทย เป็นตลาดหุ้นที่น่าลงทุนที่สุด เมื่อเทียบกับตลาดหุ้นอื่น ๆ ในอาเซียน โดยเจพีมอร์แกนคาดการณ์ว่า ดัชนี SET ตลาดหุ้นไทยจะพุ่งขึ้นอีกราว 7% แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1,800 จุดในปี 2566 ซึ่งเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนให้กับหุ้นกลุ่มต่อไปนี้ในตลาดหุ้นไทย ได้แก่ สินค้าอุปโภคบริโภคกลุ่มสินค้าจำเป็น, สินค้าอุปโภคบริโภคกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย และกลุ่มเพื่อการดูแลสุขภาพ

“ในช่วงเดือนธันวาคม 2565 ดัชนี SET พุ่งขึ้นราว 4% โดยส่วนมากเป็นหุ้นกลุ่มสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ กลุ่มพลังงาน และกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค”นายอนุชากล่าว

โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวเพิ่มเติมถึงเหตุผลของ JPMorgan’s ที่ทำให้หุ้นไทยเป็นหุ้นที่น่าลงทุนที่สุด ในตลาดหุ้นอาเซียน โดยเป็นสืบผลเนื่องมาจากหลากหลายปัจจัย อาทิเช่น ด้านการท่องเที่ยว ประเทศไทยเป็นจุดมุ่งหมายที่ได้รับความนิยมสูงสุดของนักท่องเที่ยวจีน ซึ่งปัจจัยนี้จะส่งผลบวกต่อบรรยากาศทางธุรกิจในประเทศ และความเชื่อมั่นของผู้บริโภค สำหรับปี 2566 คาดการณ์ว่าจะมีนักท่องเที่ยวมาเยือนประเทศไทยทั้งสิ้น 26 ล้านคน สูงกว่าที่รัฐบาลได้ตั้งเป้าไว้ที่ 25 ล้านคน สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวเป็นมูลค่า 39,000 ล้านดอลลาร์ รวมทั้งโครงการช้อปดีมีคืนของรัฐบาล ได้กระตุ้นการจับจ่ายสินค้าของประชาชนภายในประเทศ เป็นการเพิ่มจำนวนเงินที่หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจอีกทางหนึ่ง อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ ได้แก่อัตราเงินเฟ้อชะลอตัว เนื่องจากราคาพลังงานลดลง ภาคธุรกิจมีกำไรมากขึ้น ซึ่งจากปัจจัยทั้งหมดนี้ ส่งผลให้ ตลาดหุ้นไทยมีเสถียรภาพสูงขึ้น หุ้นไทยเป็นที่น่าจับตามองสำหรับการลงทุน

“นายกฯ ยินดีที่บริษัทหลักทรัพย์เจพี มอร์แกน ที่ประเมินว่า ตลาดหุ้นไทย เป็นตลาดที่น่าลงทุนที่สุดในอาเซียน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเป็นผลสำเร็จของการดำเนินนโยบายด้านเศรษฐกิจของรัฐบาล ไทย ฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว โดยเป็นผลมาจากนโยบายทุกทางที่ดำเนินมาประกอบกันจนเป็นผลสำเร็จเป็นรูปธรรม นักท่องเที่ยว และ นักลงทุนให้ความเชื่อมั่น ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีขอบคุณทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับระบบเศรษฐกิจของประเทศ ที่เดินหน้าตามแนวทางการทำงานและนโยบายของรัฐบาลร่วมกัน จนผลงานออกมาเป็นที่ประจักษ์” นายอนุชา กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ชัย' ฟุ้งแค่ไตรมาสแรกต่างชาติลงทุนในไทยกว่า 3 หมื่นล้าน!

โฆษกรัฐบาล เผยนายกฯ ชื่นชมผลจากความสำเร็จรัฐบาล ไตรมาสแรกปี 2567 ต่างชาติลงทุนในไทยกว่า 3 หมื่นล้านบาท ส่งเสริมโอกาสการประกอบอาชีพ เพิ่มรายได้ให้คนไทย