'ดร.สามารถ' ชำแหละ 'ป้าย 33 ล้าน' บทเรียนราคาแพง ชี้โครงการขนาดเล็กก็มีเงินรั่วไหล

  'ดร.สามารถ' ชำแหละ ป้าย 33 ล้าน บทเรียนราคาแพง 4ข้อ ชี้ แม้โครงการขนาดเล็กก็อาจมีเงินรั่วไหล แล้วโครงการขนาดใหญ่ซึ่งยากที่จะตรวจสอบจะไม่มีเงินรั่วไหลหรือ

25ม.ค.2566- นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความบนเฟสบุ๊ก ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ - Dr.Samart Ratchapolsitte เรื่อง “ป้าย 33 ล้าน” บทเรียนราคาแพง มีเนื้อหาดังนี้

ข้อกังขาของป้ายราคา 33 ล้านบาท ชี้ให้เราเห็นว่าแม้โครงการขนาดเล็กก็อาจมีเงินรั่วไหล แล้วโครงการขนาดใหญ่ซึ่งยากที่จะตรวจสอบจะไม่มีเงินรั่วไหลหรือ ?

บทเรียนที่เราได้รับจากการเปลี่ยนชื่อป้าย “สถานีกลางบางซื่อ” เป็น “สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์” มีดังนี้

1. การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ควรขอพระราชทานชื่อสถานีกลางบางซื่อซึ่งเป็นศูนย์กลางการขนส่งทางรางของประเทศไทยและเป็นสถานีรถไฟที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียนก่อนดำเนินการก่อสร้าง เพื่อลดค่าใช้จ่ายซ้ำซ้อน เช่นเดียวกับ “สนามบินหนองงูเห่า” ซึ่งเป็นชื่อที่พวกเราเรียกขานกัน หรือ “ท่าอากาศยานสากลกรุงเทพแห่งใหม่ (New Bangkok International Airport : NBIA)” ซึ่งเป็นชื่อที่ใช้สื่อสารตอนเริ่มดำเนินโครงการก่อนได้รับพระราชทานชื่อ “ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ” จากพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เมื่อวันที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2543 ก่อนเริ่มก่อสร้างอาคารผู้โดยสาร

2. แม้ว่าผลการตรวจสอบของคณะกรรมการพิจารณาตรวจสอบข้อเท็จจริงการก่อสร้างในโครงการปรับปรุงป้ายชื่อสถานีกลางบางซื่อเป็นสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์และตราสัญลักษณ์ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ไม่ได้ชี้ชัดว่าการเปลี่ยนป้ายชื่อมีราคาแพง แต่เป็นที่น่าสังเกตได้ว่าถ้าราคาไม่แพง คณะกรรมการฯ คงไม่เสนอแนะให้ทบทวนราคากลาง และวิธีการประมูล ซึ่งผมเห็นด้วยกับข้อเสนอแนะของคณะกรรมการฯ

แต่เป็นที่น่ากังขาว่า “เหตุใด รฟท. จึงไม่นำแนวทางตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการฯ มาใช้ตั้งแต่การคิดราคากลางครั้งแรกเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2565 ซึ่งคำนวณได้ 33,169,726.39 ล้านบาท เพราะเป็นแนวทางที่ รฟท. รู้ดีอยู่แล้ว” ดังนี้

(1) นำตัวอักษรเดิม “สถานีกลาง” มาใช้ตามที่คณะกรรมการฯ เสนอแนะ ซึ่งผมขอเสนอแนะเพิ่มเติมว่าควรใช้ตัวอักษรเดิมอีก 2 ตัว ได้แก่ “ง” และ “อ” จากป้ายชื่อเดิม “บางซื่อ” มาใช้กับ “กรุงเทพอภิวัฒน์” ในป้ายชื่อใหม่ รวมทั้งควรนำตัวอักษรภาษาอังกฤษเดิมที่เหมือนกันมาใช้ด้วย
(2) ลดค่าออกแบบใหม่ซึ่งมีแบบเดิมอยู่แล้ว ไม่ได้ออกแบบใหม่ทั้งหมด
(3) ลดค่าใช้จ่ายในการเลือกใช้วัสดุ การรื้อถอนป้ายชื่อเดิม และติดตั้งป้ายชื่อใหม่
(4) เลือกวิธีการประมูลที่เปิดให้มีการแข่งขัน ซึ่งจะทำให้ราคาลดลงได้
เหล่านี้เป็นแนวทางที่ รฟท. ควรนำมาใช้ในการคำนวณราคากลางในครั้งแรก เพราะมีประสบการณ์ในการคิดราคากลางดีอยู่แล้ว ปัญหาราคากลางที่ถูกกล่าวหาว่าแพงก็จะไม่เกิดขึ้น แต่เหตุใดจึงไม่นำมาใช้ ?

3. การเปลี่ยนป้ายชื่อเป็นโครงการขนาดเล็กแต่มีความสำคัญ โครงการขนาดเล็กเป็นโครงการที่ใช้งบประมาณต่ำ การก่อสร้างไม่ซับซ้อน ซึ่งผู้สนใจทั่วไปสามารถรู้สึกได้ว่าราคาถูกหรือแพง ต่างกับโครงการขนาดใหญ่ ซึ่งต้องใช้งบประมาณสูง การก่อสร้างซับซ้อน ยุ่งยาก ดังเช่นโครงการรถไฟฟ้า เป็นต้น ซึ่งผู้สนใจไม่สามารถรู้สึกได้ว่าราคาถูกหรือแพง เพราะยากที่จะตรวจสอบได้ ด้วยเหตุนี้ หากโครงการขนาดเล็กมีเงินรั่วไหล แล้วโครงการขนาดใหญ่ที่เกิดขึ้นมากมาย เราจะมั่นใจได้อย่างไรว่าไม่มีเงินรั่วไหล ?

4. โดยสรุป โครงการเปลี่ยนชื่อป้ายสถานีจาก “สถานีกลางบางซื่อ” เป็น “สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์” ทำให้ประชาชนทุกคนได้บทเรียนราคาแพงว่าเราต้องให้ความสนใจกับการใช้งบประมาณซึ่งเป็นเงินภาษีของพวกเราในการประมูลทุกโครงการ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ดร.สามารถ ชี้ กทม.ล้างหนี้ BTSC หมดเกลี้ยง แต่เส้นทางอิสรภาพทางรางเพิ่งเริ่มต้น

กทม.ล้างหนี้ BTSC ได้หมดเกลี้ยง แต่เส้นทาง 'อิสรภาพทางราง' เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น เพราะการ 'จ่ายครบ' อาจยังไม่พอ

‘ดร.สามารถ’ หนุนโครงการ ‘คนละครึ่ง’ รีเทิร์น! แนะปรับอีกนิดปังแน่

ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีตรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และอดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง “คนละครึ่ง” รีเทิร์น!

'ดร.สามารถ' ชี้ไม่ว่านายกฯจะเป็นใคร ต้องจัดการกัมพูชา ให้ 'เบ็ดเสร็จ-เด็ดขาด'

การเมืองไทยกำลังร้อนแรง พรรคภูมิใจไทยและพรรคเพื่อไทยต่างยอมรับเงื่อนไขของพรรคประชาชนเพื่อให้ได้เก้าอี้นายกรัฐมนตรี แต่ท่ามกลางเกมอำนาจที่ซับซ้อนนั้น มีเงื่อนไขหนึ่งที่สำคัญมาก