นับหนึ่ง พาณิชย์เดินหน้าเจรจา FTA ไทย-อียู

“จุรินทร์”บันทึกประวัติศาสตร์ ประกาศเจตจำนงร่วมกันกับสหภาพยุโรป (อียู) เริ่มต้นให้แต่ละฝ่ายดำเนินกระบวนการภายใน เพื่อนำไปสู่การเปิดเจรจา FTA ไทย-อียู เผยในส่วนของไทย เตรียมเสนอ ครม. ให้ความเห็นชอบ ส่วนอียู ขอคำรับรองจาก 27 สมาชิก คาดเสร็จในไตรมาสแรกปีนี้ ระบุจะช่วยสร้างแต้มต่อให้กับไทยในตลาดใหม่ 27 ประเทศ ช่วยเพิ่มรายได้ และทำอนาคตดีขึ้น

26 ม.ค. 2566 – นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงผลการหารือทวิภาคีกับนายวัลดิส โดมโบรฟสกิส รองประธานคณะกรรมาธิการยุโรปด้านเศรษฐกิจและกรรมาธิการยุโรปด้านการค้า หรือรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าของสหภาพยุโรป เมื่อช่วงเเย็นวันที่ 25 ม.ค.2566 ตามเวลาท้องถิ่น ที่ Le Berlaymont กรุงบรัสเซลส์ ราชอาณาจักรเบลเยียม ว่า วันนี้ถือเป็นวันประวัติศาสตร์ของไทยกับสหภาพยุโรป ได้มีการเจรจาทำ FTA ระหว่างไทยกับสหภาพยุโรป เป็นการเจรจาที่มีผลสัมฤทธิ์ที่ฝ่ายการเมืองของทั้ง 2 ฝ่าย มีข้อสรุปแสดงเจตจำนงร่วมกันในการเริ่มต้นให้แต่ละฝ่ายดำเนินกระบวนการภายใน เพื่อนำไปสู่การจัดทำ FTA ระหว่าง 2 ฝ่ายต่อไปโดยเร็ว 

“ถือเป็นครั้งแรกที่ฝ่ายการเมืองทั้ง 2 ฝ่าย ประชุมและแสดงเจตจำนงร่วมกัน โดยในส่วนของประเทศไทย ผมจะนำเข้าหารือเดินหน้าสู่การนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ความเห็นชอบในการจัดทำ FTA ไทย-อียู ส่วนรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีการค้าของสหภาพยุโรป จะนำผลการหารือไปดำเนินการภายในของสหภาพยุโรป ขอคำรับรองจากสมาชิก 27 ประเทศ ตั้งเป้าจะดำเนินการตามกระบวนการภายในให้เสร็จสิ้นโดยเร็วที่สุด เพื่อประกาศนับหนึ่งการเริ่มต้นเจรจา FTA ไทยกับสหภาพยุโรปอย่างเป็นทางการต่อไป โดยทั้งสองฝ่ายตั้งเป้าว่าจะดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในไตรมาสแรกของปีนี้”นายจุรินทร์กล่าว

ทั้งนี้ ไทยได้ใช้ความพยายามในการเจรจาทำ FTA กับสหภาพยุโรปมาเกือบ 10 ปีแล้ว แต่ยังไม่สามารถนับหนึ่งในลักษณะนี้ได้อย่างเป็นรูปธรรม จนมาประสบความสำเร็จในครั้งนี้ และหากทำสำเร็จ ไทยจะเป็นประเทศที่ 3 ในอาเซียน ที่มี FTA กับอียู คือ เวียดนาม สิงคโปร์ และไทย ทำให้ประเทศไทยจะมีตลาดการค้าที่ได้ได้เปรียบคู่แข่งขันจากประเทศอื่นเพิ่มขึ้น 27 ประเทศ เป็นแต้มต่อสำหรับประเทศไทยทั้งในเรื่องการค้า การค้ายริการ การลงทุน และอื่น ๆ ในอนาคต เป็นการสร้างเงิน สร้างอนาคตให้กับประเทศต่อไป

สำหรับสหภาพยุโรป เป็นคู่ค้าอันดับที่ 4 ของไทยรองจากจีน สหรัฐฯ  และญี่ปุ่น การค้าระหว่างไทยกับอียู ปี 2565 มีมูลค่า 41,038 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 2.87% สัดส่วนการค้าที่ไทยค้ากับสหภาพยุโรป ประมาณ 7% ของการค้ากับโลก ถือว่าเป็นคู่ค้าที่มีความสำคัญ และไทยส่งออกไปอียูปี 2565 คิดเป็น 22,794 ล้านเหรียญสหรัฐ (843,378 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 5.17% สินค้าที่ไทยส่งออกไปอียูส่วนใหญ่ คือ คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ รถยนต์และอุปกรณ์ แอร์และอุปกรณ์ ผลิตภัณฑ์ยางพารา อัญมณีและเครื่องประดับ ไก่แปรรูป เป็นต้น สินค้าที่นำเข้าจากอียูสำคัญ เช่น เครื่องจักรกล เคมีภัณฑ์ และย า เป็นต้น

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ก.ก.แตะ'ทักษิณ'แค่ผิว ปชป.ติดหล่มร่วมรัฐบาล

การอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ระหว่างวันที่ 3-4 เม.ย. ถือเป็นเวทีของฝ่ายค้าน นำโดย พรรคก้าวไกล และ พรรคประชาธิปัตย์ สังคมคาดหวังจะมีการเปิดแผลให้รัฐบาลก่อนปิดสมัยประชุม 9 เม.ย.นี้

'จุรินทร์' ซัดรัฐบาลทำงานไม่ทันฝ่ายนิติบัญญัติ โยนถามก้าวไกลเรื่องซักฟอก

“จุรินทร์” ซัดรัฐบาลทำงานไม่ทันฝ่ายนิติบัญญัติ ส่วนการอภิปรายจะมีหรือไม่อยู่ที่ก้าวไกลเพราะ ปชป.เสียงไม่พอ

'จุรินทร์' ย้ำเคสป่วนขบวนเสด็จ นิรโทษกรรมต้องไม่รวมความผิด ม.112

“จุรินทร์” ชี้นิรโทษกรรมทำได้ แต่ยิ่งป่วนขบวนเสด็จยิ่งตอกย้ำต้องไม่รวมความผิด ม.112 พร้อมส่งสัญญาณให้กรรมธิการต้องนำประเด็นนี้ไปพิจารณาด้วย

'ฮุน มาแนต' เยือนไทยครั้งแรก 7 ก.พ. หารือทวิภาคี 'เศรษฐา'

โฆษกรัฐบาลเผย 'ฮุน มาแนต' เยือนไทยอย่างเป็นทางการ ในฐานะแขกของรัฐบาล 7 ก.พ. นี้ หารือทวิภาคีนายกฯ ไทย ส่งเสริมความร่วมมือสองประเทศ

‘จุรินทร์’ ชี้ดิจิทัลวอลเล็ต บทเรียนประชานิยม

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อ และอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ให้ความเห็นเรื่องดิจิตอล วอลเล็ต ภายหลังมีข่าว ปปช.เตรียมเสนอความเห็นต่อรัฐบาลในทางที่อาจมีปัญหาเรื่องการทุจริตและผิดกฎหมาย

'จุรินทร์' จี้รัฐบาลเปิดคำตอบกฤษฎีกาปมดิจิตอลวอลเล็ต ชี้ มี 7 ประเด็นต้องแจง

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถงกรณีกฤษฎีกาให้ความเห็นเรื่องโครงการดิจิตอลวอลเล็