ต้องลุ้น กกพ. ชี้แนวโน้มค่าไฟ พ.ค.- ส.ค. ครัวเรือนจ่ายเพิ่มแตะ 5.24 บาทต่อหน่วย

กกพ.เปิดแนวโน้มไฟฟ้างวดต่อไป พ.ค.-ส.ค. 66 ภาคครัวเรือนจ่ายเพิ่มแตะ 5.24 บาทต่อหน่วย หากรัฐไม่กำหนดให้แยก 2 ราคาเหมือนปัจจุบัน ลุ้นก๊าซอ่าวไทยเข้าตามแผน แอลเอ็นจีตลาดโลกราคาลดลง ค่าไฟมีโอกาสลดลงช่วงปลายปีนี้ หรือต้นปี 67

30 ม.ค. 2566 – นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ.) ในฐานะโฆษก กกพ. เปิดเผยว่า ขณะนี้ กกพ.อยู่ระหว่างรวบรวมปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตไฟฟ้า ทั้งราคาก๊าซธรรมชาติ(แอลเอ็นจี) กำลังการผลิตก๊าซจากอ่าวไทย อัตราค่าเงินบาท ความต้องการใช้ไฟฟ้า และปัจจัยต่างๆ ที่เปลี่ยนแปลงไปจากสมมติฐานที่ตั้งไว้ เพื่อประกอบการพิจารณาคำนวณต้นทุนค่าไฟฟ้างวดเดือนพ.ค.-ส.ค.2566 กกพ. ให้มีความชัดเจนในช่วงเดือน มี.ค.นี้

“หากสมมติฐานต่าง ๆ ไม่เปลี่ยนแปลงจากที่คาดการณ์ในงวดก่อน อัตราค่าไฟฟ้าของประเทศ ก็อยู่ในระดับประมาณ 5.2407 บาทต่อหน่วย ซึ่งจะเป็นอัตราเดียวกันทั้งประเทศ หากภาครัฐไม่มีนโยบายกำหนดให้ กกพ.คำนวนอัตราค่าไฟฟ้าเป็น 2 กลุ่มเหมือนช่วงเดือน ม.ค.-เม.ย.2566”นายคมกฤช กล่าว

นายคมกฤช กล่าวอีกว่าในระยะสั้นโอกาสที่จะเห็นอัตราค่าไฟฟ้าปี 2566 กลับไปต่ำกว่า 4 บาทต่อหน่วย คงเป็นเรื่องยาก เนื่องจากกำลังการผลิตก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยยังไม่เป็นไปตามแผน อีกทั้งต้นทุนราคาพลังงานยังทรงตัวในทิศทางขาขึ้น แต่หากกำลังการผลิตก๊าซจากอ่าวไทยเพิ่มขึ้น และราคาก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) อ่อนตัวลง ก็มีโอกาสที่ค่าไฟฟ้าจะทยอยปรับลดลงได้ในช่วงปลายปี 2566 หรือต้นปี 2567

ที่ผ่านมา รัฐบาลมีนโยบายแบ่งอัตราค่าไฟฟ้าเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยคิดอัตราเรียกเก็บเฉลี่ย 4.7176 บาทต่อหน่วย และกลุ่มผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทอื่น(ที่ไม่ใช่บ้านอยู่อาศัย) คิดอัตราเรียกเก็บเฉลี่ย 5.3325 บาทต่อหน่วย ซึ่งหากรัฐบาลมีนโยบายให้กำหนดอัตราค่าไฟฟ้าแยกเป็น 2 กลุ่มตามเดิม กกพ.ก็พร้อมดำเนินการตามนโยบาย

สำหรับแนวทางการกำกับกิจการของ กกพ. จากนี้ไป จะสร้างกลไกเพื่อเพิ่มการแข่งขันในกิจการพลังงาน ทั้งกิจการก๊าซธรรมชาติที่อาจมีการปรับปรุงโครงสร้างเพื่อรองรับการแข่งขัน พร้อมกับรักษาความมั่นคงด้านพลังงาน และสนับสนุนการใช้พลังงานสีเขียวในราคาที่ยอมรับได้ เช่น ไฟฟ้าสีเขียว(Green Tariff) ที่ออกแบบให้มีการขายไฟฟ้าพร้อมใบรับรอง (Rec) ที่สามารถระบุที่มาของแหล่งผลิตไฟฟ้าเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับภาคอุตสาหกรรมที่ต้องการใช้ไฟฟ้าสีเขียว โดยไม่ต้องลงทุนสร้างโรงไฟฟ้าและยุ่งยากกับกระบวนการออกใบรับรอง

ปัจจุบัน กกพ.อยู่ระหว่างเตรียมหลักเกณฑ์ตามขั้นตอนแห่ง พ.ร.บ.การประกอบกิจการพลังงาน พ.ศ.2550 เพื่อให้การไฟฟ้าฝ่ายจำหน่ายสามารถกำหนด อัตรา Green Tariff ได้อย่างเป็นธรรมกับผู้ใช้ไฟฟ้าสีเขียว และผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทอื่นๆ ซึ่งเบื้องต้นอัตราค่าบริการไฟฟ้าสีเขียว(Utility Green Tariff: UGT) ได้ผ่านการเห็นชอบในหลักการจากคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.) แล้ว แบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่ 1.อัตราค่าบริการไฟฟ้าสีเขียวจากโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนที่มีอยู่เดิมในระบบไฟฟ้า(ไม่เจาะจงที่มา) และ2.อัตราค่าบริการไฟฟ้าสีเขียวจากโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนใหม่ และโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนเดิมในระบบไฟฟ้าทั้งของรัฐและเอกชน(เจาะจงที่มา)

อย่างไรก็ตาม คาดว่าการออกประกาศอัตรา Utility Green Tariff: UGT จะแล้วเสร็จภายในครึ่งแรกของปี 2566 และประกาศอัตรา UGT 1 และ UGT 2 ได้ในเดือนเม.ย. 2566 นี้ จากนั้นจะเปิดให้ผู้สนใจซื้อไฟฟ้าสีเขียวจองสิทธิ์ได้ในช่วงเดือนมิ.ย.2566 และเริ่มการซื้อขายจริงได้ เมื่อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนที่รัฐเปิดรับซื้อเข้าระบบล็อตใหม่ 5,203 เมกะวัตต์ เริ่มทยอยผลิตไฟฟ้าขายเข้าระบบเชิงพาณิชย์(COD) ตั้งแต่ปี 2567 เป็นต้นไป

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'พีระพันธุ์' เบรกรัฐบาลหยุดซื้อไฟแพงเกินจริง จี้ต่อรองสัญญาใหม่ อย่าเกรงใจนายทุน

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้ออกมาแสดงความเห็นต่อกรณีที่รัฐบาลมีมติเร่งรัดจัดซื้อไฟฟ้าโซลาร์ล็อตใหญ่ในราคาที่สูงกว่าเกณฑ์ปกติ โดยชี้ว่า

สส.ปชน. โวยรัฐบาลไม่ฉีกสัญญาซื้อไฟ ส่งผลให้คนไทยจ่ายค่าไฟแพงขึ้นกว่าแสนล้าน

นายศุภโชติ ไชยสัจ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า เมื่อวานนี้ เป็นวันตัดสินอนาคตค่าไฟของทุกคน]

หนังม้วนเก่า! ปชน. ฉายซ้ำรัฐบาลเอื้อกลุ่มทุนพลังงาน

นายวรภพ วิริยะโรจน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน อภิปรายกล่าวหาว่า โกงค่าไฟประชาชน ทุจริตเชิงนโยบาย สานต่อขบวนการค่าไฟแพง ปล้นเงินประชาชนคนทั้งประเทศไปแลกดีลจัดตั้งรัฐบาลข้ามขั้ว เอื้อประโยชน์ให้กลุ่มทุนพลังงานที่สนิทสนมกับนายกรัฐมนตรี

ดักคอ ‘พ่อนายกฯ’ รีดไขมันค่าไฟเหลือ 3.70 บ./หน่วย อย่าเอาเงินภาษีไปอุ้ม

เรื่องลดไฟฟ้าเหลือ 3.70บาท ถ้าคุณไม่ได้โม้ โฆษณาชวนเชื่อ ให้คุณรีบทำ รีบลดราคาเลย แต่ต้องลดตลอดไป และห้ามเอาภาษีมาอุ้ม

'พีระพันธุ์' เผยความก้าวหน้า 'รื้อ ลด ปลด สร้าง' ระบบพลังงานไทย

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน โพสต์เฟซบุ๊กว่า สวัสดีครับ ผมขออนุญาตเรียนความก้าว

ครม. อนุมัติงบ 1.9 พันล้าน ช่วยบรรเทาค่าไฟกลุ่มเปราะบาง เดือน ก.ย.-ธ.ค.67

นายคารม พรพลกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า สืบเนื่องจากมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 23 ก.ค.67 เคยอนุมัติหลักการช่วยบรรเทาค่าไฟฟ้ากลุ่มเปราะบาง วันนี้ (11 ธ.ค.) ครม.มีมติอนุมัติงบประมาณ 1,900 ล้านบาท