รมว. ดีอีเอส ดัน 30 เมืองอัจฉริยะ สร้างโอกาสการลงทุน 6 หมื่นล้านบาท

รมว. ดีอีเอส คาด 30 เมืองอัจฉริยะ สร้างโอกาสการลงทุน 6 หมื่นล้านบาทพร้อมลงพื้นที่ จ.ประจวบฯ ผลักดันหัวหินสู่เมืองอัจฉริยะ

3 ก.พ. 2566 – นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) พร้อมด้วย ศ.พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงฯ และ ดร. เวทางค์ พ่วงทรัพย์ รองปลัดกระทรวงฯ นำคณะสื่อมวลชน ลงพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อร่วมทำข่าวความพร้อมโครงการ Smart city Hua Hin โดยมีประเด็นหารือร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด และนายกเทศมนตรีเทศบาลหัวหิน พร้อมทั้งติดตามความคืบหน้าโครงการศูนย์ดิจิทัลชุมชน โรงเรียน ตชด.บ้านย่านซื่อ อำเภอกุยบุรี และเป็นประธานเปิดโครงการ Digital infinity ดิจิทัลไม่มีที่สิ้นสุดจังหวัดประจวบคีรีขันธ์

นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ประเทศไทยมีการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในหน่วยงานและองค์กรภาครัฐและมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอย่างต่อเนื่องในการพัฒนาเมืองและพื้นที่ต่างๆ สู่การเป็นเมืองอัจฉริยะเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพความเป็นอยู่และคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างทั่วถึง ปัจจุบันมีเมืองที่ได้รับการประกาศเป็นเมืองอัจฉริยะแล้ว 30 เมืองทั่วประเทศโดยมีการประเมินว่าการพัฒนาเมืองอัจฉริยะจะช่วยให้เกิดโอกาสการลงทุนจากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนรวมมูลค่ากว่า 60,000 ล้านบาท รวมถึงจะมีการสร้างมูลค่าการลงทุนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งในปัจจุบันและอนาคต 

กระทรวงดิจิทัลฯ โดย ดีป้า ดำเนินการส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะในระดับท้องถิ่นอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 หมุดหมายที่ 8 ไทยมีพื้นที่และเมืองอัจฉริยะที่น่าอยู่ ปลอดภัย เติบโตได้อย่างยั่งยืน ลงพื้นที่ครั้งนี้ ก็ได้หารือและประชุมกับผู้ว่าราชการจังหวัด และทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการเตรียมความพร้อมการพัฒนาหัวหินสู่เมืองอัจฉริยะ Smart City Hua Hin 

ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนในพื้นที่อย่างทั่วถึง เท่าเทียม พร้อมรองรับนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ 

นอกจากนี้ ยังได้เยี่ยมชมศูนย์ CCTV และห้องควบคุม เพื่อติดตามการดำเนินงานด้านการส่งเสริมการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อบริหารจัดการพื้นที่ ตรวจสอบเมืองให้มีประสิทธิภาพและเหมาะสมต่อการอยู่อาศัย สร้างคุณภาพชีวิตที่ดี ปลอดภัย ไร้อาชญากรรม

ขณะเดียวกัน ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและติดตามผลการดำเนินงานโครงการศูนย์ดิจิทัลชุมชน โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านย่านซื่อ อำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นตัวแทนสถานศึกษาที่สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้รับมอบหมาย จากคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) 

ให้ดำเนินโครงการพัฒนาระบบนิเวศศูนย์ดิจิทัลชุมชนอย่างยั่งยืน ภายใต้แผนปฏิบัติการยุทธศาสตร์ที่ 5 

ของแผนการจัดให้มีบริการโทรคมนาคมพื้นฐานโดยทั่วถึงและบริการเพื่อสังคม ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2560 – 2564) (แผนปฏิบัติการฯ) จำนวน 2 กิจกรรม ได้แก่ กิจกรรมที่ 1 จัดให้มีศูนย์บริการอินเทอร์เน็ตสาธารณะ (ศูนย์ดิจิทัลชุมชน) และ กิจกรรมที่ 2 การพัฒนาระบบจัดการศูนย์ดิจิทัลชุมชนและงานบำรุงรักษา ระยะเวลาดำเนินการทั้งโครงการอยู่ระหว่างปี พ.ศ. 2566 – 2570 โดยมีพื้นที่ดำเนินการตามเป้าหมายเป็นสถานศึกษาจำนวน 1,722 ศูนย์ ครอบคลุม 77 จังหวัดทั่วประเทศ 

“การตรวจเยี่ยมและติดตามผลการดำเนินงานโครงการศูนย์ดิจิทัลชุมชน กศน. อำเภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ (ห้องสมุดประชาชนจังหวัดประจวบคีรีขันธ์) เป็นศูนย์ดิจิทัลชุมชนที่ดำเนินการตามโครงการยกระดับศูนย์การเรียนรู้ ICT ชุมชน สู่ศูนย์ดิจิทัลชุมชน ระยะเวลาดำเนินการระหว่างปี พ.ศ. 2564 – 2567 

ซึ่งได้จัดตั้งในพื้นที่ของโรงเรียน กศน. อบต. เทศบาล วัด มัสยิด และพื้นที่ชุมชน ที่มีความพร้อม จำนวน 500 แห่ง ครอบคลุม 77 จังหวัดทั่วประเทศ” นายชัยวุฒิ กล่าว

ด้านนายภุชพงค์ โนดไธสง เลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กล่าวว่า ศูนย์ดิจิทัลชุมชน ได้จัดตั้งขึ้นตามนโยบายและแผนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม มีบทบาทในการให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง อุปกรณ์ดิจิทัล บุคลากรสนับสนุน 

และส่งเสริมการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในระดับท้องถิ่น เพื่อลดช่องว่างทางด้านดิจิทัลให้กับชุมชน ให้สามารถใช้ประโยชน์ในด้านการศึกษา และด้านอาชีพ เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ให้ประชาชนสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีและอินเทอร์เน็ต ลดช่องว่างในการเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัล ลดความเหลื่อมล้ำในสังคมชนบท ในกลุ่มคนทุกกลุ่มที่อยู่ในท้องถิ่น เช่น ผู้ประกอบการชุมชน วิสาหกิจชุมชน เด็กและเยาวชน นักเรียน นักศึกษา ผู้สูงอายุ คนพิการ เป็นต้น นอกจากนี้ ศูนย์ดิจิทัลชุมชนยังทำหน้าที่ในการเพิ่มช่องทางในการเข้าถึงข่าวสาร บริการดิจิทัล ให้กลุ่มเป้าหมายในระดับชุมชนได้รับการพัฒนาทักษะทางด้านดิจิทัล พร้อมที่จะประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลสนับสนุนคุณภาพชีวิต ต่อยอดสู่การสร้างโอกาสและรายได้ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในระดับฐานรากในอนาคต 

ขณะที่ ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า กล่าวว่า การส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะในระดับท้องถิ่นดำเนินการในหลากหลายมิติ ตั้งแต่การสนับสนุนพื้นที่ให้พัฒนาแผนเมืองอัจฉริยะของตนเอง สามารถระบุพื้นที่พัฒนาเมืองโดยมีขอบเขตชัดเจน มองเห็นศักยภาพและปัญหา อีกทั้งสามารถเตรียมความพร้อมเรื่องระบบบริการทั้ง 7 Smarts ได้ตรงตามบริบทของพื้นที่ และวางโครงสร้างพื้นฐานทั้งทางกายภาพและด้านดิจิทัล รองรับระบบบริการเมือง รวมถึงบริหารจัดการข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ โดยคำนึงถึงความยั่งยืน และเกิดประโยชน์สูงสุดกับภาคประชาชน

นอกจากนี้ ดีป้า ยังมีการส่งเสริมคนรุ่นใหม่ที่มีใจต้องการพัฒนาภูมิลำเนามาเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองน่าอยู่ร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ผ่านโครงการนักดิจิทัลพัฒนาเมืองรุ่นใหม่ (The Smart City Ambassadors) ซึ่งจังหวัดประจวบคีรีขันธ์เข้าร่วมโครงการ 2 พื้นที่ มีเจ้าหน้าที่ร่วมฝึกอบรม 2 ราย และมี Ambassadors ปฏิบัติหน้าที่สนับสนุนงานพัฒนาเมือง 2 ราย โดยปัจจุบัน เทศบาลเมืองหัวหิน เป็นหนึ่งในเขตส่งเสริมเมืองอัจฉริยะ

นายเสถียร เจริญเหรียญ ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า วิสัยทัศน์ของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ คือ “เมืองท่องเที่ยวทรงคุณค่าระดับนานาชาติ เกษตรปลอดภัย ด่านสิงขรระเบียงเศรษฐกิจแห่งอนาคต สังคมผาสุกภายใต้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” ซึ่งจังหวัดมีความโดดเด่นด้านการท่องเที่ยวและการเกษตรที่ถือเป็นภาคเศรษฐกิจที่สำคัญของจังหวัด โดยทางจังหวัดพร้อมสนับสนุนท้องถิ่นในการพัฒนาพื้นที่ตามศักยภาพ และส่งเสริมการบูรณาการการทำงาน รวมถึงการบูรณาการข้อมูลที่จะนำไปสู่การพัฒนาด้านต่าง ๆ เพื่อประโยชน์และคุณภาพชีวิตของประชาชน และเทศบาลหัวหินถือเป็นหนึ่งพื้นที่สำคัญของจังหวัดในการนำร่องการพัฒนา Smart City ของจังหวัด

ส่วนนายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน กล่าวว่า เทศบาลเมืองหัวหินตั้งเป้าหมายที่จะเป็นเมืองท่องเที่ยวปลอดภัย สะอาด น้ำใส ไร้ PM 2.5 โดยอาศัยเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาช่วยบริหารจัดการ และตรวจสอบเมืองให้มีประสิทธิภาพและเหมาะสมต่อการอยู่อาศัย สร้างคุณภาพชีวิตที่ดี ปลอดภัย ไม่มีอาชญากรรม โดยมีแผนที่จะดำเนินการพัฒนาระบบ Smart ต่าง ๆ ส่งเสริมการท่องเที่ยว เช่น การติดตั้งระบบ CCTV สอดส่องความปลอดภัยสร้างความเชื่อมั่นแก่นักท่องเที่ยวและประชาชนในพื้นที่ ตั้งเป้าลดอาชญากรรม 50% ติดตั้ง Smart Pole ระบบติดตามคุณภาพอากาศเพื่อสุขภาพคนหัวหินและนักท่องเที่ยว Wired Network ที่ครอบคลุมอำนวยความสะดวกผู้มาเยือนส่งเสริมเศรษฐกิจในพื้นที่ พร้อมรับมือปัญหาขยะจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่จะเพิ่มขึ้นด้วยระบบ GPS Tracking ช่วยบริหารจัดการขยะ ตั้งเป้าลดขยะตกค้างในพื้นที่ไม่น้อยกว่า 80% รวมถึงระบบจัดเก็บและบริหารข้อมูลของเมือง (City Data Platform: CDP) รวมศูนย์ข้อมูลเพื่อการบูรณาการการทำงานระหว่างหน่วยงานในพื้นที่และระหว่างท้องถิ่น เพื่อการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพสูงสุด

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'รฐนน-สุธีพัทธ์'พร้อมลุย 'แบล็ค เมาน์เทน แชมเปี้ยนชิพ' ที่หัวหินชิง2ล้านเหรียญฯ

รฐนน วรรณศรีจันทร์ และ สุธีพัทธ์ ประทีปเทียนชัย สองโปรชั้นนำของเอเชียนทัวร์ พร้อมลุยศึกอินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ รายการ แบล็คเมาน์เทน แชมเปี้ยนชิพ 2024 หวังให้โปรไทยมีชื่อติดลีดเดอร์บอร์ดที่สนามแบล็คเมาน์เท่น กอล์ฟ คลับ หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งจะเปิดฉากดวลรอบแรกในวันพฤหัสบดีที่ 17 ตุลาคมนี้

ไทยพร้อมจัดงานระดับโลก IEEE International Smart Cities ระดมผู้เชี่ยวชาญ-นวัตกรรมสุดล้ำ ยกระดับไทยสู่เมืองอัจฉริยะ!

สมาคมไฟฟ้าและพลังงานไอทริปเปิลอี (ประเทศไทย) เป็นเจ้าภาพจัดงานประชุมวิชาการและนิทรรศการนานาชาติด้านสมาร์ทซิตี้ระดับโลก 10th IEEE International Smart Cities Conference (IEEE-ISC2- 2024)

คู่เต็ง1ไม่พลาด คว้าแชมป์เทนนิส 'แอลไลด์ ไทยแลนด์ โอเพ่น 2024'

การแข่งขันเทนนิสอาชีพหญิงรายการใหญ่ที่สุดของอาเซียน ดับเบิลยูทีเอ 250 รายการ "แอลไลด์ ไทยแลนด์ โอเพ่น 2024 พรีเซนเต็ด บาย แคล-คอมพ์" ชิงเงินรางวัลรวม 267,082 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณเกือบ 10 ล้านบาท ณ อารีน่า หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2567 เป็นการแข่งขันวันสุดท้าย

'หมูเด้ง'ดุ๊กดิ๊กถึงหัวหิน เคียงคู่ถ้วยแชมป์ 'แอลไลด์ ไทยแลนด์ โอเพ่น 2024'

โด่งดังไปไกลทั่วโลก และเป็นกระแสอย่างต่อเนื่อง สำหรับ "หมูเด้ง" ซุปตาร์ ลูกฮิปโปแคระ วัย 2 เดือน ของสวนสัตว์เปิดเขาเขียว จ.ชลบุรี

แชมป์แกรนด์สแลมบุกหัวหิน สะท้อนมาตรฐาน รองรับนักเทนนิสระดับโลก

ฮือฮา! “บาร์โบร่า เครย์ชิโคว่า” นักหวดสาวเช็ก มือ 11 ของโลก เจ้าของแชมป์แกรนด์สแลม วิมเบิลดัน 2024 และเฟร้นช์ โอเพ่น 2021 เดินทางมาฝึกซ้อมที่อารีน่า หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ในช่วงที่มีศึกใหญ่ "แอลไลด์ ไทยแลนด์ โอเพ่น 2024 พรีเซนเต็ด บาย แคล-คอมพ์" แสดงให้เห็นถึงมาตรฐาน และความพร้อมของสถานที่ในการทั้งจัดแมตช์เทนนิสระดับโลก และพร้อมรองรับนักหวดระดับโลกที่มาฟิตซ้อมเพื่อเตรียมตัวสำหรับการแข่งขันรายการอาชีพ

นักเทนนิสโลกตื่นเต้น ได้สวมชุดผ้าไทย โชว์ไอเดียเพ้นท์สีพัด

ความเคลื่อนไหวระหว่างการแข่งขันเทนนิสอาชีพหญิงรายการใหญ่ที่สุดของอาเซียน ดับเบิลยูทีเอ 250 รายการ "แอลไลด์ ไทยแลนด์ โอเพ่น 2024 พรีเซนเต็ด บาย แคล-คอมพ์" ชิงเงินรางวัลรวม 267,082 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณเกือบ 10 ล้านบาท ที่อารีน่า หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ล่าสุด ฝ่ายจัดการแข่งขันฯ ยังคงเดินหน้าจัดกิจกรรมพิเศษอย่างต่อเนื่อง ด้วยการเชิญ 5 นักเทนนิสระดับโลกร่วมสัมผัสมนต์เสนห์ศิลปะและวัฒนธรรมไทย อย่างการให้มาลองสวมชุดไทย และโชว์ฝีมือเพ้นท์สีพัด โดยกิจกรรมนี้ ได้รับการสนับสนุนจาก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ที่ต้องการใช้กีฬาเป็นสื่อกลางในการเผยแพร่ศิลปะและวัฒนธรรมไทย ซึ่งจะส่งผลดีต่อการท่องเที่ยวด้วย