S&P Global ยกเครือซีพีเอกชนไทยรายเดียวติดสมาชิกความยั่งยืนระดับโลก

S&P Global ยกเครือซีพีเอกชนไทยรายเดียวติดสมาชิกความยั่งยืนระดับโลกกลุ่มอุตสาหกรรม Industrial Conglomerates ใน The Sustainability Yearbook 2023 ต่อเนื่อง 2 ปีซ้อนด้วยคะแนน TOP 5% โดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อมกลยุทธ์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศตอกย้ำเป้าหมาย Net Zero Emission ภายในปี 2573 พร้อมมุ่งสู่องค์กรผู้นำด้านความยั่งยืน

16 กุมภาพันธ์ 2566  – S&P Global ผู้ให้บริการข้อมูลด้านการเงิน และการจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับโลก ได้มีการประกาศรายชื่อบริษัทที่ได้รับการจัดอันดับด้านความยั่งยืนที่มีความโดดเด่นใน The Sustainability Yearbook 2023 โดย เครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือ เครือซีพี เอกชนไทยรายเดียวที่ได้รับการประเมินดัชนีความยั่งยืนต่อเนื่องเป็นปีที่ 2  ด้วยคะแนน TOP 5% ของกลุ่มอุตสาหกรรม Industrial Conglomerates  (IDD)  ที่มีผลการดำเนินการด้านความยั่งยืนในช่วง 1-5% สูงสุดในกลุ่มอุตสาหกรรมดังกล่าว โดยเครือซีพีมีคะแนนภาพรวมของมิติด้านสิ่งแวดล้อมและกลยุทธ์ด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศสูงที่สุดในกลุ่มอุตสาหกรรมดังกล่าว ความสำเร็จครั้งนี้สะท้อนถึงความยอมรับจากผู้มีส่วนได้เสียในระดับสากลต่อการเป็นบริษัทที่มีความมุ่งมั่นในการดำเนินงานด้านความยั่งยืนในทุกมิติอย่างต่อเนื่อง

นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) เปิดเผยว่า เครือซีพีในฐานะเอกชนไทยที่มีความมุ่งมั่นและมีเป้าหมายที่จะเป็นผู้นำด้านความยั่งยืนระดับโลกมีความภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับติดอันดับการประเมินความยั่งยืนในรายงาน The Sustainability Yearbook 2023 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 โดยเป็นการประเมินและวิเคราะห์จากผลการดำเนินงานด้านความยั่งยืนของเครือซีพีทั้ง 3 มิติ ได้แก่ ด้านสิ่งแวดล้อม ด้านสังคม และด้านเศรษฐกิจและธรรมาภิบาล ซึ่งในปีนี้เครือซีพีได้รับการพิจารณาและประเมินจากผลงานโดดเด่นที่มีคะแนนภาพรวมของมิติด้านสิ่งแวดล้อมและกลยุทธ์ด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศสูงที่สุด ด้วยการพิจารณาจากผลการดำเนินการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมในทุกด้านตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ไม่ว่าจะเป็นระบบพื้นฐานการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม การใช้พลังงาน การใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ การลดและการจัดการของเสีย และการควบคุมมลพิษทางอากาศ จนทำให้ได้รับคะแนนการประเมินมิติด้านสิ่งแวดล้อมอยู่ที่ร้อยละ 84 ส่งผลให้เครือซีพีก้าวขึ้นเป็นผู้นำในด้านดังกล่าวของอุตสาหกรรม Industrial Conglomerates

 นับเป็นความสำเร็จอีกก้าวหนึ่งของเครือฯ และถือเป็นการตอกย้ำเป้าหมายสำคัญที่บริษัทตระหนักและเร่งหาแนวทางในการทำธุรกิจลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมาโดยตลอด ทั้งนี้เครือซีพีได้มีการประกาศเป้าหมายนำองค์กรสู่การเป็น Net Zero Emission  ภายในปี 2573 พร้อมผลักดันวาระของโลกตามข้อตกลงปารีส (Paris Agreement) ดังนั้นการทำธุรกิจของเครือซีพีจึงคิดไปพร้อมกับการตั้งเป้าหมายความยั่งยืนในการพัฒนาสินค้า ผลิตภัณฑ์ และบริการให้ผู้บริโภคโดยไม่ก่อผลกระทบในเชิงลบต่อโลก

นายศุภชัย กล่าวต่ออีกว่า เครือซีพียังได้รับการประเมินจาก S&P Global ว่าเป็นบริษัทที่ให้ความสำคัญในด้านของเศรษฐกิจและธรรมาภิบาล ทั้งการสร้างการมีจรรยาบรรณในการดำเนินธุรกิจ การบริหารจัดการความเสี่ยง การพัฒนานวัตกรรม และการยกระดับความปลอดภัยด้านไซเบอร์ ซึ่งเครือซีพีได้รับผลการประเมินในด้านนี้ที่ร้อยละ 73 ในขณะที่มิติด้านสังคม ซึ่งพิจารณาจากการบริหารจัดการบุคลากรของบริษัทอย่างเป็นธรรม โดยเครือซีพีได้ยึดแนวทางอยู่ร่วมกันด้วยความเคารพในความแตกต่างและหลากหลายของพนักงาน การดูแลความเป็นอยู่ที่ดี การอบรมเพื่อให้มีความรู้ การยกระดับสุขภาพและความปลอดภัยของทั้งพนักงาน ผู้รับเหมา และชุมชน รวมไปถึงการป้องกันการละเมิดสิทธิมนุษยชนตลอดห่วงโซ่คุณค่า ซึ่งเครือซีพีได้รับผลการะประเมินในด้านนี้ที่ร้อยละ 76

 การได้รับรางวัลครั้งนี้ไม่เพียงแสดงให้เห็นถึงแนวทางความยั่งยืนทุกมิติที่บริษัทให้ความสำคัญ  แต่ยังเป็นการย้ำให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจที่ต้องสร้างประโยชน์ให้กับทุกประเทศที่เข้าไปลงทุนตามหลักค่านิยม “3 ประโยชน์” ของเครือซีพีควบคู่ไปกับการบริหารองค์กรที่มีเป้าหมายยุทธศาสตร์ความยั่งยืนสู่ปี 2573  ภายใต้ 3 เสาหลักคือ Heart – Health – Home อย่างชัดเจน เพราะฉะนั้นการได้รับการประเมินความยั่งยืนในระดับสากลนี้จึงสอดคล้องกับความมุ่งมั่นของเครือซีพีสู่การเป็น “ผู้นำองค์กรแห่งความยั่งยืน” และเป็นสิ่งที่แสดงถึงการยอมรับจากผู้มีส่วนได้เสียในระดับสากลต่อการเป็นบริษัทที่มีความมุ่งมั่นในการดำเนินงานด้านความยั่งยืนต่อเนื่อง 

“เครือซีพีกำลังก้าวสู่ศตวรรษใหม่ที่มีความท้าทายในการปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินธุรกิจให้สอดคล้องกับโลกที่มีบริบททางเศรษฐกิจและสังคมที่เปลี่ยนไป ถือเป็นโอกาสและความท้าทายของทุกกลุ่มธุรกิจในเครือฯ ที่จะต้องเพิ่มขีดความสามารถทางธุรกิจควบคู่ไปกับการสร้างคุณค่าให้ผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย การได้คะแนนติด TOP 5%  ในกลุ่มอุตสาหกรรม Industrial Conglomerates จึงเป็นกระจกสะท้อนว่าเราได้บรรลุเป้าหมายไปอีกขั้นในการพัฒนาธุรกิจให้เติบโตควบคู่ไปกับการสร้างความยั่งยืนให้สังคมและประเทศได้ตรงตามทิศทางและเป็นไปตามหมุดหมายที่เราตั้งเป้าไว้  ก้าวต่อไปของพนักงานเครือซีพีเราต้องสร้างความเชื่อว่า เราต้องทำมากกว่าเดิม เพื่อให้โลกดีขึ้นกว่าเดิมให้ได้” ซีอีโอเครือซีพี กล่าว

สำหรับการจัดอันดับในรายงาน The Sustainability Yearbook 2023 เป็นรายงานที่ได้รับความเชื่อมั่นในกลุ่มนักลงทุนและเป็นที่ยอมรับในระดับโลก  โดยมีบริษัทเข้าร่วมการประเมินรวม  7,800 บริษัทจากทั่วโลก และมีเพียง  708 บริษัทที่ได้รับการคัดเลือกจัดอันดับใน The Sustainability Yearbook 2023 อย่างไรก็ตามองค์กรที่ได้รับการคัดเลือกให้ติดอันดับในรายงานฉบับนี้จะต้องผ่านการทำแบบประเมิน Corporate Sustainability Assessment หรือ CSA ซึ่งเป็นแบบประเมินที่มีความเข้มข้นที่ใช้ในการจัดอันดับดัชนีความยั่งยืนของบริษัททั่วโลก  โดยจะต้องได้รับคะแนนการประเมินในภาพรวมอยู่ใน 15-30% สูงสุดของอุตสาหกรรมนั้น ๆ  จึงจะได้รับการคัดเลือกให้เป็นสมาชิกของ The Sustainability Yearbook 2023 ซึ่งในปีนี้มีบริษัทไทยเพียง 38  องค์กร ที่ได้รับการจัดอันดับ ซึ่งนอกจากเครือซีพียังมีบริษัทในเครือฯ ที่ติดอันดับในรายงานดังกล่าว ได้แก่  บมจ. เจริญโภคภัณฑ์อาหาร  บมจ. ซีพี ออลล์ บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น และบมจ. สยามแม็คโคร

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ไทยออยล์ได้รับการประเมินด้านความยั่งยืนระดับสูงสุดของโลก ในอุตสาหกรรมการตลาดและการกลั่นน้ำมันและก๊าซ เป็นปีที่ 9 จาก S&P Global

กรุงเทพฯ: บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ได้รับการประเมินด้านความยั่งยืนระดับ “Top 1% S&P Global Corporate Sustainability Assessment Score 2023”

'เครือซีพี'หนุนอาหาร-การสื่อสาร ทัพไทยล่าทอง 'เอเชียนเกมส์-พาราฯ'ที่หางโจว

เมื่อวันอังคารที่ 22 สิงหาคม 2566 ณ ห้องแกรนด์ฮอลล์ 1 ชั้น 3 อาคาร 101 True Digital Park (West) เครือเจริญโภคภัณฑ์ พร้อมด้วย คณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และคณะกรรมการพาราลิมปิคแห่งประเทศไทย ร่วมแถลงข่าวพิธีลงนามความร่วมมือ และความพร้อม ในการส่งเสริมทัพนักกีฬาไทย สู้ศึกกีฬาเอเชียนเกมส์ และเอเชียนพาราเกมส์ 2022 ซึ่งจะจัดที่เมืองหางโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยเอเชียนเกมส์ จะชิงชัยในระหว่างวันที่ 23 กันยายน-8 ตุลาคม และเอเชียนพาราเกมส์ จะแข่งขันวันที่ 22-28 ตุลาคมนี้

'เครือซีพี' หนุนกีฬาคนพิการไทย สู้ศึก'อาเซียนพาราเกมส์' 3-9 มิ.ย.นี้ที่กัมพูชา

เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) พร้อมสนับสนุน ทัพนักกีฬาคนพิการไทย เต็มที่ ทั้งด้านอาหารและการสื่อสาร เพื่อลุยศึกอาเซียน พาราเกมส์ ครั้งที่ 12 ซึ่งจะจัดขึ้นวันที่ 3- 9 มิถุนายน 2566 ณ กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ประกาศพร้อมยืนเคียงข้าง เติมความแข็งแกร่งด้านร่างกาย ด้วยอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อสุขภาพที่ดีให้ทัพนักกีฬาไทยได้ลิ้มลองหลากหลายเมนู และด้านจิตใจ ได้มอบ “ซิมทรู โรมมิ่ง” โทรฟรี ไม่อั้น เพื่อเชื่อมโยงแรงใจจากครอบครัว พร้อมมอบสิทธิพิเศษให้ปรึกษาแพทย์ออนไลน์ ผ่านแอปพลิเคชันMORDEE (หมอดี) ให้นักกีฬามีความพร้อมเต็มที่ สู้ได้สุดทุกสนาม สำหรับการแข่งขันในครั้งนี้

เครือซีพีเนื้อหอม ผู้นำฝรั่งเศสดึงเข้าร่วมประชุมอีเวนต์ระดับชาติ

เครือซีพีเนื้อหอม ผู้นำฝรั่งเศสส่งเทียบเชิญประธานอาวุโสร่วมประชุมสุดยอดประจำปี Choose France Summit 2023 ที่เหล่าผู้นำธุรกิจระดับโลก อาทิ “อีลอน มัสก์” ซีอีโอ เทสลา “อัลเบิร์ต บัวร์ลา” ซีอีโอ ไฟเซอร์ “โรเบิร์ต อีเกอร์” ซีอีโอ ดิสนีย์ โคจรมาพบกัน ผู้นำฝรั่งเศสหวังเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์กับเครือซีพีเพื่อร่วมมือทั้งด้านอุตสาหกรรม การค้า และการลงทุน

'เครือซีพี'สุดภูมิใจ มีส่วนในความสำเร็จ ของทัพกีฬาไทย ศึกซีเกมส์ที่กัมพูชา

ทัพนักกีฬาทีมชาติไทยเสร็จสิ้นภารกิจในการแข่งขันมหกรรมกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 “แคมโบเดีย 2023” ที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เมื่อช่วงระหว่างวันที่ 5 - 17 พฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา โดยสามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยคว้ารวมได้ 108 เหรียญ เหรียญเงิน 96 เหรียญ และเหรียญทองแดง 108 เหรียญ รวมทั้งสิ้น 312 เหรียญ

'เครือซีพี'หนุนทัพไทย สู้ซีเกมส์-เอเซียนพาราฯที่กัมพูชา จัดเต็ม'อาหาร-การสื่อสาร'

“เครือเจริญโภคภัณฑ์” สนับสนุนทัพนักกีฬาไทยต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 เสริมแกร่งทั้งกายใจให้พร้อมสู้สุดใจ เต็มที่ในทุกสนามการแข่งขัน ประกาศศักดาในศึกซีเกมส์ ครั้งที่ 32 และอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 12 ที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เติมเต็มความแข็งแกร่งของร่างกาย ด้วยเสบียงอาหารหลากเมนูจากซีพีเอฟ และซีพี ออลล์ ที่เปี่ยมด้วยคุณค่าทางโภชนาการ และอร่อยเด็ดโดนใจ พร้อมเติมกำลังใจด้วย ซิมทรู โรมมิ่งบนเครือข่าย 5G โทรฟรีไม่อั้นจากกลุ่มทรู เพื่อเชื่อมโยงแรงใจจากครอบครัว พร้อมมอบสิทธิพิเศษในการปรึกษาแพทย์ออนไลน์ ผ่านแอปพลิเคชัน MORDEE (หมอดี) และชวนคนไทยร่วมส่งแรงใจเชียร์ทัพไทยคว้าชัยชนะศึกนี้ผ่านแฮชแท็ก #สู้สุดทุกสนาม#คนไทยหัวใจนักสู้ บนโซเชียลมีเดียทุกช่องทาง