
“กรมเจ้าท่า” ตั้งคณะกรรมการสอบสวนเหตุ เรือไฟฟ้าไฟไหม้ วอด 120 ล้าน บริเวณพระประแดง จ.สมุทรปราการ สั่งสรุปเสร็จภายใน 7 วัน ด้านกองพิสูจน์หลักฐานลงพื้นที่ 22 ก.พ.นี้ เพื่อหาสาเหตุในครั้งนี้
21 ก.พ. 2566 – นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะรักษาการอธิบดีกรมเจ้าท่า (จท.) เปิดเผยว่า กรณีเมื่อวันที่ 21 ก.พ.2566 เมื่อเวลาประมาณ 07.30 น. สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสมุทรปราการ ได้รับแจ้งเหตุเรือระเบิดและไฟไหม้ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณหน้าบริษัท ปิยะศิริวานิช จำกัด อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ซึ่งในบริเวณดังกล่าวมีเรือไฟฟ้านำเที่ยวจอดเทียบท่าอยู่ จำนวน 11 ลำ เกิดเพลิงไหม้เสียหาย 3 ลำ ได้แก่ เรือ MINE SMART FERRY 27 เรือ MINE SMART FERRY 28 และเรือ MINE SMART FERRY 29
ทั้งนี้ผู้ดูแลแจ้งว่าเรือที่ได้รับความเสียหายยังไม่ได้จดทะเบียนเรือ รอการส่งมอบและตรวจรับเรือให้บริษัท เกิดเหตุเพลิงไหม้เวลา 07.00 น. และสามารถควบคุมเพลิงได้เมื่อเวลา 08.30 น. จากเหตุเพลิงไหม้ไม่มีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตและไม่มีน้ำมันรั่วไหลลงสู่แม่น้ำแต่อย่างใด โดยได้สั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนสาเหตุ และสํานักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสมุทรปราการ อยู่ระหว่างการเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องมาให้ถ้อยคํา เพื่อสอบสวนหาสาเหตุภายใน 7 วัน และป้องกันมิให้เกิดเหตุซ้ำอีก หากมีความคืบหน้าเพิ่มเติมจะรายงานให้ทราบในโอกาสต่อไป
ด้าน นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า (ด้านปลอดภัย) กล่าวว่า เบื้องต้นสาเหตุเกิดจากความผิดพลาดและความไม่สมบูรณ์ของระบบ โดยเจ้าหน้าที่เข้าไปเชื่อมเรือให้เรียบร้อยก่อนส่งมอบ แต่ได้เกิดเหตุดังกล่าว ดังนั้นอาจจะเกิดจากความประมาทในการทำงานหรือไม่ แต่ทั้งนี้จะต้องตรวจสอบสาเหตุให้ละเอียดจากผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดก่อนให้ชัดเจน เพื่อจะหามาตรการในการดำเนินการไม่ให้เกิดเหตุซ้ำอีก เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการใช้บริการ
ขณะที่นายฉัตรชัย เวชสาร ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสมุทรปราการ กล่าวว่าสำหรับเรือ 3 ลำที่เกิดเหตุเป็นเรือไฟฟ้าต่อสร้างใหม่ เพื่อส่งมอบให้บริษัท ความเสียบหายที่เกิดขึ้นทั้ง 3 ลำ ไม่มีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บ ไม่มีผลกระทบสิ่งแวดล้อมทางน้ำ เพราะเป็นเรือไฟฟ้าไม่มีน้ำมันรั่วไหล อย่างไรก็ตามสำนักงานเจ้าท่าสาขาสมุทรปราการจะลงพื้นที่เข้มงวดดำเนินการตรวจสอบ ตัวเรือ อู่ต่อเรือ และท่าเทียบเรืออย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความมั่นใจและความปลอดภัยต่อประชาชนต่อไป โดยในวันที่ 22 ก.พ.นี้ กรมเจ้าท่าจะเรียกผู้ที่เกี่ยวข้อง เจ้าของเรือ และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เพื่อหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้ต่อไป
ด้านแหล่งข่าว กล่าวว่า กรณีที่มีข่าวบอกว่าเรือแต่ละลำราคาประมาณ 40 ล้านบาท และเสียหายกว่า 120 ล้านนั้น ขอยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่ได้มีการประเมินความเสียหายแต่อย่างใด ขณะนี้ขอเวลารวบรวมรายละเอียดก่อน เนื่องจากยังมีในส่วนของท่าเรือที่ได้รับความเสียหายด้วย เมื่อสรุปตัวเลขความเสียหายแล้วจะแจ้งให้สื่อมวลชนทราบต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เด็กก้าวไกลภาคตะวันออกจี้รัฐบาลสางปัญหาน้ำมันรั่วในทะเล
สส.ภาคตะวันออกก้าวไกล จี้รัฐตรวจสอบปมน้ำมันรั่วในทะเล แนะตั้งก มธ.ศึกษาปัญหา – ป้องกันหลังเกิดเหตุซ้ำซาก
'กรมเจ้าท่า' เร่งเครื่องร่าง พ.ร.บ. การเดินเรือในน่านน้ำไทย ยกระดับสู่ความเป็นสากล
“กรมเจ้าท่า” เดินหน้าทำร่าง พ.ร.บ. การเดินเรือในน่านน้ำไทย หวังสร้างความเชื่อมั่นด้านการขนส่ง และความปลอดภัยในการจราจรทางน้ำและทางทะเล นำไปสู่การเพิ่มประสิทธิภาพการเดินเรือในน่านน้ำไทยให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล
'รถ-เรือโดยสาร' สมัครให้บริการโครงการสวัสดิการแห่งรัฐได้แล้วตั้งแต่วันนี้
รัฐบาลแจ้ง 'รถ-เรือโดยสาร' สมัครเป็นผู้ให้บริการ ตามโครงการสวัสดิการแห่งรัฐได้แล้วตั้งแต่วันนี้ เริ่มให้บริการ 1 ต.ค.2566 เป็นต้นไป
สั่งย้ายด่วน! ผอ.เจ้าท่า นครพนม เซ่นคลิปส่อเอื้อประโยชน์ดูดหินทรายแม่น้ำโขง
มีความคืบหน้ากรณีมีการแฉคลิปเสียง อ้างเป็นผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขานครพนม หารือนอกรอบกับผู้ประกอบกิจการดูดหินทรายน้ำโขง ประเภทนำเข้าจากประเทศลาว ในเขต อ.ธาตุพนม จ.นครพนม โดยมีเนื้อหาบางช่วงส่อในทางทุจริต เอื้อประโยชน์กับผู้ประกอบการท่าทราย และอ้างจะดูแลเป็นการส่วนตัว
จท.โชว์แผนพัฒนาท่าเรือครูสรับตลาดท่องเที่ยวไทย ชี้ธุรกิจโตเฉลี่ย 14 % ต่อปี
”กรมเจ้าท่า”เดินหน้าพัฒนาท่าเรือรับตลาดท่องเที่ยวเรือสำราญ โตเฉลี่ย 14 % ต่อปี คาดเปิดให้บริการปี71 กระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยว ครอบคลุมเส้นทางเดินเรือฝั่งอ่าวไทย-อันดามัน
กรมเจ้าท่าแจงเทคนิค-รูปแบบท่าเทียบเรือสำราญอ่าวไทยตอนบน
กรมเจ้าท่าแจงเทคนิคและรูปแบบท่าเทียบเรือโครงการศึกษาสํารวจออกแบบท่าเรือต้นทางสําหรับเรือสําราญขนาดใหญ่บริเวณอ่าวไทยตอนบน