3 มี.ค.2566 - น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งประสานความร่วมมือเพื่อแก้ไขปัญหามิจฉาชีพหลอกหลวงประชาชนผ่านช่องทางออนไลน์ มีการโอนเงินออกจากบัญชีผ่านแอปพลิเคชันของธนาคารจนเกิดความเสียหายเป็นวงกว้าง กระทรวงการคลัง กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอีเอส) ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ทำงานร่วมกับสมาคมธนาคารไทย และธนาคารของรัฐอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันปัญหาและบรรเทาความเสียหายที่จะเกิดแก่ประชาชน
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ล่าสุด ทั้งส่วนธนาคารพาณิชย์และธนาคารเฉพาะกิจรวม 8 แห่ง ได้เปิดศูนย์รับแจ้งเหตุภัยทางการเงินจากมิจฉาชีพของธนาคาร เพื่อเป็นช่องทางให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ หรือตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพโทรแจ้งเหตุ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อสกัดกั้นความเสียหายให้เร็วที่สุด ประกอบด้วย ธนาคารกสิกรไทย 0-2888-8888 กด 001, ธนาคารกรุงไทย 0-2111-1111 กด 108, ธนาคารกรุงศรีอยุธยา 1572 กด 5, ธนาคารกรุงเทพ 1333 หรือ 0-2645-5555 กด *3, ธนาคารไทยพาณิชย์ 0-2777-7575, ธนาคารทหารไทยธนชาต 1428 กด 03, ธนาคารออมสิน 1115 กด 6 และ ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย 0-2626-7777 กด 00
“หากประชาชนท่านใดเห็นว่าตนเองมีความเสี่ยงที่อาจประสบภัยจากมิจฉาชีพทางออนไลน์เนื่องจากมีการติดตั้งแอปพลิเคชันธนาคารทางมือถือ มีการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านมือถืออยู่บ่อยๆ ขอให้บันทึกเบอร์ติดต่อศูนย์แจ้งเหตุฯ ของธนาคารที่ตนเองเป็นลูกค้า เพื่อว่าเมื่อเกิดเหตุจะได้โทรประสานเพื่อระงับธุรกรรมได้ทันที” น.ส.ไตรศุลี กล่าว
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า การเปิดศูนย์แจ้งเหตุภัยทางการเงินจากมิจฉาชีพของสถาบันการเงินต่างๆ เป็นมาตรการควบคู่กับที่ขณะนี้ รัฐบาลได้ผลักดัน พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. …. เพื่อให้เป็นกฎหมายที่เข้ามาช่วยจัดการปัญหาได้อย่างเด็ดขาด ซึ่ง พ.ร.ก.ฯ มีสาระสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพการปราบปรามการกระทำผิด ด้วยมาตรการต่างๆ อาทิ การแลกเปลี่ยนข้อมูลของสถาบันการเงินหรือผู้ประกอบธุรกิจที่เกี่ยวข้องผ่านระบบการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่หน่วยงานที่มีอำนาจให้การอนุญาต เพื่อประสิทธิภาพการตรวจสอบธุรกรรมที่ผิดปกติ สถาบันการเงินสามารถระงับธุรกรรมได้เมื่อพบเหตุอันต้องสงสัยหรือได้รับแจ้งเหตุจากเจ้าของบัญชี ตลอดจนการกวาดล้างบัญชีม้า เป็นต้น
โดยขณะนี้ ดีอีเอส ธปท. สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และสมาคมธนาคารไทยอยู่ระหว่างการพัฒนาระบบกลางที่เรียกว่า ศูนย์ตรวจเช็กธุรกรรมที่มีความเสี่ยงทุจริต (Central Fraud Registry) เพื่อเป็นกลไกด้านข้อมูลที่จะช่วยในการยับยั้งความเสียหายที่อาจเกิดกับประชาชนเจ้าของบัญชีที่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รัฐบาลชวนผู้ใช้บริการโมบายแบงก์กิ้งเร่งไปติดต่อสแกนใบหน้าเพื่อสกัดภัยออนไลน์
ธปท.ประสานธนาคารรัฐ-เอกชนดึงผู้ใช้ Mobile Banking ที่โอนเงินตั้งแต่ 5 หมื่นบาทต่อครั้ง 2 แสนบาทต่อวัน ติดต่อสาขาธนาคารเพื่อสแกนใบหน้าตัดวงจรภัยออนไลน์ ชี้แอปพลิเคชัน 7 แบงก์พร้อมบริการแล้ว
นายกฯ ชื่นชม 'คลัง-ธปท.' รักษาสถานะการเงินแข็งแกร่ง ขอให้ติดตามดูทุกอย่างดีขึ้น
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ในที่ประชุมมีการรายงานสถานการณ์เศรษฐกิจภายในประเทศ ไตรมาสแรกปี 2566 รวมไปถึงการจ้างงานที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.4
'บิ๊กตู่' สั่ง 'คลัง-พลังงาน' หามาตรการรับมือเลิกอุ้มดีเซล
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้รับทราบถึงข้อกังวลของประชาชนและภาคธุรกิจ
'บิ๊กตู่' ปลื้มยอดลงทุนอุตสาหกรรมตามยุทธศาสตร์ใหม่พุ่งกระฉูด!
นายกฯ พอใจสถานการณ์ลงทุนอุตสาหกรรมตามยุทธ์ศาสตร์ส่งเสริมลงทุนใหม่ ยอดขอบีโอไอทั้งไทยต่างชาติโตสูง ตอกย้ำความเชื่อมั่นต่อนโยบายที่รัฐบาลได้วางฐานไว้
'อนุทิน' ชู 4 เหตุผลบนเวทีสมัชชาอนามัยโลกทำไมคนไทยสุขภาพดีถ้วนหน้า!
'อนุทิน' ขึ้นเวทีสมัชชาอนามัยโลก เน้นย้ำนานาชาติเห็นความเข้มแข็งระบบสาธารณสุขไทย เผย 4 เสาหลักสนับสนุนคนไทยสุขภาพดีถ้วนหน้า
อย่าหลงเชื่อ คลัง-ธปท. ข่มขู่ประชาชนโอนเงินยืนยันตัวตน
ผู้สื่อข่าว รายงานว่า กระทรวงการคลัง ออกหนังสือเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อ เอกสารปลอมอ้างชื่อแบงก์ชาติและกระทรวงการคลัง ข่มขู่ประชาชนให้โอนเงินยืนยันตัวตน