ธ.ก.ส. จับมือ 6 ภาคีเครือข่ายร่วมลดการเผาอ้อยเพื่อลดฝุ่นละออง PM 2.5

ธ.ก.ส. จับมือสมาคมชาวไร่อ้อย – โรงงานน้ำตาล ส่งเสริมเกษตรกรลดการเผาอ้อย เพื่อลดปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 และสนับสนุนการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ในการลดต้นทุนและเพิ่มมูลค่าผลผลิต   พร้อมเสริมสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษ เพื่อจูงใจให้เกษตรกรหันมาร่วมกันรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน นำร่องในพื้นที่กาญจนบุรี ราชบุรี และสุพรรณบุรี จำนวนพื้นที่กว่า 1.5 ล้านไร่ ตั้งเป้าลดการเผาอ้อยให้ได้ 100% ภายในปี 2566

26 พ.ย. 2564 นายธนารัตน์ งามวลัยรัตน์ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ด้านมลพิษที่ทวีความรุนแรง จนส่งผลกระทบต่อสุขภาพและการดำเนินชีวิตของประชาชน โดยเฉพาะปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ซึ่งปัญหาดังกล่าวส่วนหนึ่งเกิดจากการเผาอ้อยหลังการเก็บเกี่ยวของเกษตรกร เพื่อแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน โดยเกษตรกรสามารถประกอบอาชีพควบคู่กับการดูแลสิ่งแวดล้อม ธ.ก.ส. ได้จับมือกับ 6 ภาคีเครือข่าย ประกอบด้วย สมาคมกลุ่มชาวไร่อ้อย เขต 7  ศูนย์ประสานงานโรงงานน้ำตาลลุ่มแม่น้ำแม่กลอง (กลุ่มโรงงานน้ำตาลลุ่มแม่น้ำแม่กลอง 9 โรงงาน และโรงงานน้ำตาลนิวกรุงไทย ที่เป็นพันธมิตร) สมาคมส่งเสริมอาชีพการเกษตรสุพรรณบุรี โรงงานอุตสาหกรรมน้ำตาลสุพรรณบุรี โรงงานน้ำตาลมิตรผล และโรงงานน้ำตาลรีไฟน์ชัยมงคล (อู่ทอง) ในการสนับสนุนและดูแลชาวไร่อ้อยที่เข้าร่วมโครงการลดการเผาอ้อยเพื่อลดฝุ่นละออง PM 2.5  ในพื้นที่ 3 จังหวัดที่มีการผลิตอ้อยมากที่สุดในประเทศไทย ได้แก่ กาญจนบุรี ราชบุรี และสุพรรณบุรี

โดยการดำเนินงานนอกจากการส่งเสริมความรู้ความเข้าใจในปัญหาที่เกิดขึ้น ยังมุ่งเน้นนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาใช้ในการลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิตให้เหมาะสมในแต่ละสภาพพื้นที่เพาะปลูกอ้อย เช่น การสนับสนุนให้ชาวไร่อ้อยปรับพื้นที่รองรับรถตัดอ้อยเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาการขาดแคลนแรงงานเก็บเกี่ยวอ้อยและการเผาอ้อย การส่งเสริมให้ชาวไร่อ้อยที่มีความพร้อมได้จัดซื้อเครื่องอัดใบอ้อย (Square Balers) เพื่อส่งขายให้กับโรงงานน้ำตาลในพื้นที่นำไปใช้เป็นเชื้อเพลิงเสริมในกระบวนการผลิตน้ำตาลและผลิตกระแสไฟฟ้าชีวมวล ซึ่งเป็นการช่วยเพิ่มรายได้และรักษาสภาพสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ รวมถึง ธ.ก.ส. ให้การสนับสนุนชาวไร่อ้อยด้วยสินเชื่อพิเศษในแต่ละขนาดพื้นที่ (Farm Size) เพื่อให้สามารถประกอบอาชีพ การทำไร่อ้อยได้อย่างยั่งยืน โดยการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีการบริหารจัดการไร่อ้อยที่ทันสมัย (Smart Farming) มาปรับใช้เพื่อให้เกิดผลตอบแทนคุ้มค่ามากขึ้น

นายธนารัตน์ กล่าวอีกว่า ความร่วมมือดังกล่าว ตั้งเป้าหมายลดการเผาอ้อยลงร้อยละ 20 ในปี 2564 จำนวนพื้นที่ 319,627 ไร่ ปี 2565 ลดลงร้อยละ 50 จำนวนพื้นที่ 799,067 ไร่ และภายในปี 2566 ลดลง ร้อยละ 100 จำนวนพื้นที่ 1,598,133 ไร่ หรือครอบคลุมพื้นที่ปลูกอ้อยทั้งหมดใน 3 จังหวัดดังกล่าว ซึ่งหากประสบความสำเร็จ จะขยายไปยังพื้นที่อื่น ๆ เพื่อสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีอย่างยั่งยืน ตามนโยบายส่งเสริมการควบคุมดูแลภูมิอากาศจากภาวะโลกร้อน ซึ่งเป็นภารกิจสำคัญของทุกประเทศในขณะนี้

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ธ.ก.ส. เผยผลงาน 3 ไตรมาส กำไร 6 พันล้าน จ่อลุยแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน 

ธ.ก.ส. เผยผลงาน 3 ไตรมาสแรกปีบัญชี 66 จ่ายสินเชื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภาคชนบทระหว่างปีไปแล้วกว่า 6.1 แสนล้านบาท ควบคู่การสนับสนุนนโยบายรัฐในการรักษาเสถียรภาพราคาสินค้าเกษตร การลดภาระหนี้เกษตรกรผ่านโครงการพักชำระหนี้เกษตรกรรายย่อย และการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบให้กับเกษตรกรและบุคคลในครัวเรือน พร้อมเดินหน้าภารกิจองค์กรสู่การเป็นแกนกลางการเกษตร ที่ให้บริการทางการเงินและการเชื่อมโยงองค์ความรู้ในการต่อยอดธุรกิจภาคการเกษตร ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ โดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมมาสร้างมูลค่าเพิ่ม การทำการตลาด การพัฒนาและยกระดับชุมชนในการสร้างรายได้และการดูแลสิ่งแวดล้อมภายใต้หลัก BCG คาดไตรมาสสุดท้ายเติบโตได้ตามเป้าหมาย

ชาวไร่อ้อยกว่า 1.4 แสนราย ดีใจได้ของขวัญปีใหม่ ครม.อนุมัติเงินหนุนตัดอ้อยสด 8 พันล้าน

น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รมว.กระทรวงอุตสาหกรรม ได้เล็งเห็นปัญหาต่างๆและได้เร่งดำเนินการแก้ไขโดยเริ่มจากการเสนอโครงการสนับสนุนเกษตรกรชาวไร่อ้อยตัดอ้อยสดคุณภาพดี เพื่อลดฝุ่น pm 2.5 ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)

ธ.ก.ส. ผุดโครงการ 'ชำระดีมีโชค' ชูจ่ายดอกเบี้ยพร้อมลุ้นจับรางวัลพิเศษ

“ธ.ก.ส.” เปิดตัวโครงการชำระดีมีโชค หวังกระตุ้น-จูงใจลูกค้าปรับเปลี่ยนพฤติกรรมชำระหนี้ ชูชำระดอกเบี้ยสะสมครบทุก 1 พันบาท รับสิทธิ์จับรางวัลพิเศษ และลุ้นโชค 2 ชั้น จำนวน 48,119 รางวัล มูลค่ารวมกว่า 479 ล้านบาท