บิ๊กซี รีเทล ยื่นไฟลิ่งขายหุ้นไอพีโอ 3,730 ล้านหุ้น หวังระดมเงินขยายธุรกิจ

บิ๊กซี รีเทล ยื่นไฟลิ่งขายหุ้นไอพีโอ (“IPO”) จำนวนรวมไม่เกิน 3,730 ล้านหุ้นเปลี่ยนผ่านสู่การเติบโตในฐานะผู้นำธุรกิจค้าปลีกและค้าส่ง ของภูมิภาคอาเซียนอย่างยิ่งใหญ่และยั่งยืน

18 เม.ย. 2566 – บริษัท บิ๊กซี รีเทล คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) (“BRC” หรือ “บริษัทฯ”) ได้ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์ และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ และร่างหนังสือชี้ชวน (แบบไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนรวมไม่เกิน 3,730 ล้านหุ้น (รวมจำนวนหุ้นที่ผู้จัดหาหุ้นส่วนเกิน (Over-Allotment Agent) อาจใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนจากบริษัทฯ ในกรณีที่มีการจัดหาหุ้นส่วนเกิน (Over-Allotment) (ถ้ามี)) หรือคิดเป็นสัดส่วนไม่เกินร้อยละ 29.98 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญและจดทะเบียนเพิ่มทุนในครั้งนี้ เพื่อระดมทุนสำหรับการขยายธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อชำระคืนเงินกู้ยืม และเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินกิจการ ซึ่งเป็นการเปลี่ยนผ่านสู่การเติบโตในฐานะผู้นำอุตสาหกรรมค้าปลีกและค้าส่งของภูมิภาคอาเซียนอย่างยิ่งใหญ่และยั่งยืน

นายอัศวิน เตชะเจริญวิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บิ๊กซี รีเทล คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) หรือ BRC กล่าวว่า BRC คือบริษัทเรือธง (Flagship Company) สําหรับธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ และธุรกิจค้าส่งและสนับสนุนการค้าปลีกแบบดั้งเดิมของกลุ่ม BJC และกลุ่ม TCC โดยประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ที่ดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการค้าปลีก การค้าส่ง การสั่งผลิต การนำเข้าและการส่งออกสินค้าอุปโภคบริโภคทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งการพัฒนาและการให้เช่าอสังหาริมทรัพย์อันมีส่วนเกี่ยวข้องเกื้อหนุนกับการค้าปลีก และ/หรือการค้าส่งของบริษัทฯ BRC มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการดำเนินธุรกิจมาเกือบ 30 ปี และปัจจุบันมีเครือข่ายธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย BRC จึงมีความรู้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในอุตสาหกรรมที่มีการแข่งขันสูง ในปัจจุบัน BRC สามารถนำเสนอสินค้าที่คุ้มค่าและหลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการและความชื่นชอบที่แตกต่างของทั้งกลุ่มลูกค้าและผู้เช่าพื้นที่ร้านค้า (Retail Venue) ของ BRC ตลอดจนมอบประสบการณ์ที่น่าพึงพอใจให้แก่ผู้บริโภคทั้งบนช่องทางการขายหน้าร้านและช่องทางออนไลน์ผ่าน Omnichannel Platform ของ BRC ได้อย่างดีเยี่ยม

BRC ประกอบธุรกิจหลักใน 3 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ 1.) ธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ ประกอบด้วยร้านค้าขนาดใหญ่และขนาดเล็กภายใต้แบรนด์บิ๊กซี เช่น บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์, บิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า,บิ๊กซี เพลส, บิ๊กซี มาร์เก็ต, บิ๊กซี ฟู๊ดเพลส, บิ๊กซี ดีโป้, บิ๊กซี มินิ, บิ๊กซี ฟู๊ด เซอร์วิส ร้านค้าขนาดเล็กภายใต้แบรนด์ Kiwi Mart ในประเทศกัมพูชา และ B’s Mart ในประเทศเวียดนาม ตลาด Open-Air โดยแบ่งเป็นตลาดกลางคืนภายใต้แบรนด์ตลาดเดินเล่น และตลาดกลางวันภายใต้แบรนด์ตลาดครอบครัวและตลาดทิพย์นิมิตร รวมทั้งแพล็ตฟอร์ม Omnichannel คือ Big C PLUS และ Marketplace ของผู้ให้บริการภายนอก 2.) ธุรกิจค้าส่งและสนับสนุนการค้าปลีกแบบดั้งเดิม ซึ่งเป็นการทำธุรกิจแบบ B2B โดยตรงกับกลุ่มลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ และการขายสินค้าให้กับร้านค้าปลีกแบบดั้งเดิมรวมถึงผู้ประกอบการภายใต้โมเดลร้านค้าโดนใจของบริษัทฯ และ 3.) ธุรกิจอื่น ๆ อันประกอบด้วยธุรกิจค้าปลีกและธุรกิจสนับสนุนอื่นหลากหลายประเภท เช่น ร้านขายยาเพรียว ร้านขายยาสิริฟาร์มา ร้านกาแฟวาวี ร้านหนังสือเอเชียบุ๊คส บริการรับชำระเงินผ่านเคาน์เตอร์ Big Service บริการให้คำปรึกษา บริการวางระบบหน้าร้านและระบบสนับสนุนด้านต่าง ๆ แก่ผู้ประกอบการร้านค้าโดนใจให้บริการวิเคราะห์ข้อมูลแก่ผู้จัดหาสินค้า และบริการให้เช่าพื้นที่โฆษณาภายในพื้นที่ร้านค้า (Retail Venue)

นอกจากนั้น BRC ยังมีจุดแข็งอันโดดเด่นด้วยรูปแบบธุรกิจที่ผสมผสานระหว่างธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง และธุรกิจให้เช่าพื้นที่ (Town Center Business) ซึ่งช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการดำเนินงาน สามารถวิเคราะห์และตอบสนองความต้องการของลูกค้าและปรับรูปแบบการนำเสนอสินค้า และการให้บริการให้ตรงตามลักษณะการเลือกซื้อสินค้าและความชื่นชอบของลูกค้าในแต่ละพื้นที่ รวมถึงสร้างประสบการณ์การเลือกซื้อสินค้าในสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา อีกทั้ง ยังมีรูปแบบร้านค้าที่หลากหลาย ครอบคลุมทั้งร้านค้าขนาดใหญ่และขนาดเล็ก รวมถึงร้านค้าที่ตอบสนองในด้านของไลฟ์สไตล์ ซึ่งเติมเต็มทุกความต้องการ พร้อมไปกับการให้บริการที่ปรับให้เข้ากับความต้องการเฉพาะตัวของแต่ละพื้นที่
สำหรับวัตถุประสงค์ของการระดมทุนในครั้งนี้ บริษัทฯ จะนำเงินไปใช้การลงทุนในการขยายธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ การชำระคืนเงินกู้ยืม และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการดำเนินธุรกิจ ซึ่งจะมีการเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมในภายหลังในหนังสือชี้ชวน

ปัจจุบัน BRC มีทุนจดทะเบียน 124,435.0 ล้านบาท และมีทุนที่ออกและชำระแล้ว 87,135.0ล้านบาท ทั้งนี้ ภายหลังการเสนอขายหุ้น IPO ของ BRC เสร็จสิ้น BJC จะยังคงเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่โดย BJC จะถือหุ้นในสัดส่วนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 70.02 และ BRC จะยังคงมีสถานะเป็นบริษัทย่อยของ BJC

ผลการดำเนินงานของ BRC มีรายได้จากการขายสินค้าและรายได้จากค่าเช่าและบริการในปี 2565 เท่ากับ 106,084.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.6 จากช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ที่ 99,480.7 ล้านบาท โดยในปี 2565 มีกำไรสำหรับปีอยู่ที่ 6,756.8 ล้านบาท
ด้านนโยบายการจ่ายเงินปันผล BRC ใช้หลักเกณฑ์ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50 ของกําไรสุทธิของผลประกอบการโดยรวมของกลุ่มบริษัทฯ โดยยังไม่รวมผลกำไรหรือขาดทุนจากการปรับมูลค่ายุติธรรมของอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน และไม่รวมผลกำไรหรือขาดทุนหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและสำรองต่าง ๆ ทุกประเภทตามที่กฎหมายและข้อบังคับของบริษัทกำหนดไว้
นอกจากนั้น BRC ได้แต่งตั้งที่ปรึกษาทางการเงินสำหรับการเสนอขายหุ้น IPO และนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยจำนวน 5 ราย อันประกอบด้วย ธนาคารไทยพาณิชย์ จํากัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จํากัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จํากัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จํากัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ ฟินันซ่า จำกัด

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติของนอร์เวย์ ประกาศขายหุ้นในบริษัทอิสราเอล 11 แห่ง

กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาตินอร์เวย์ (NBIM) ประกาศขายหุ้นในบริษัทอิสราเอล 11 แห่ง การตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้น “เนื่องจากสถา

การซื้อขายหุ้น

การซื้อขายหุ้นหรือการเทรดหุ้นคือการซื้อและขายหุ้นของบริษัทที่มีการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ เป้าหมายของเทรดเดอร์หุ้นคือการใช้ประโยชน์จากเหตุการณ์ในตลาดระยะสั้นเพื่อขายหุ้นเพื่อหากำไรหรือซื้อ

BJC ได้ปรับอันดับเพิ่ม MSCI ESG Ratings ของกลุ่มอุตสาหกรรม Food & Staples Retailing จากระดับ A สู่ระดับ AA สูงสุดในเอเชีย

วันที่ 20 มิถุนายน 2566 - บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BJC ได้รับการปรับเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือ MSCI ESG Ratings ของกลุ่มอุตสาหกรรม Food & Staples Retailing

ยัสปาล ยักษ์ใหญ่แฟชั่นของไทยยื่นแบบไฟลิ่ง เสนอขายหุ้น IPO 156 ล้านหุ้น

บมจ. ยัสปาล หรือ JPC ผู้ดำเนินธุรกิจค้าปลีกเสื้อผ้า สินค้าแฟชั่น และสินค้าไลฟ์สไตล์ รวมถึงธุรกิจผลิตและจำหน่ายที่นอน เครื่องนอน ของตกแต่งบ้านและเฟอร์นิเจอร์ ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลาดหลักทรัพย์ฯ) เพื่อเสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 156 ล้านหุ้น เตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย