
กทพ.เตรียมเสนอคณะกรรมการ ม.36 เคาะแนวทางการลงทุนด่วนภูเก็ต ควบรวมโครงการสายกะทู้ – ป่าตอง และเมืองใหม่ – เกาะแก้ว – กะทู้ เพิ่มระยะทางรวมเป็น 33.98 กม.และมูลค่าการลงทุนทะลุ 5 หมื่นล้านบาท หวังจูงใจเอกชน ชี้แนวทางเหมาะสมจ่อลุยประมูลงานโยธาก่อน หวังสร้างเสร็จเปิดทันรับเจ้าภาพ Specialize Expo ในปี 2571
27 เม.ย. 2566 – รายงานข่าวจากการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการทางพิเศษ สายกะทู้-ป่าตอง จังหวัดภูเก็ต โดยระบุว่า ภายหลังที่ กทพ.เปิดประกวดราคาและให้เอกชนยื่นข้อเสนอร่วมลงทุนในโครงการดังกล่าวไปเมื่อวันที่7 เม.ย.ที่ผ่านมา และปรากฏว่าไม่มีเอกชนยื่นข้อเสนอ ซึ่งจากการพิจารณาข้อมูลและสอบถามความคิดเห็นภาคเอกชน มองว่าการลงทุนในโครงการมีระยะทางที่สั้นเกินไปและยังไม่คุ้มค่าต่อการร่วมลงทุน
อย่างไรก็ดี เพื่อให้โครงการยังคงเดินหน้าต่อเนื่อง เพราะทางด่วนสายนี้ถือว่ามีความจำเป็นทางการลงทุนแก้ปัญหาการจราจรติดขัดในพื้นที่ และยังคุ้มค่าในด้านเศรษฐกิจจากการสนับสนุนการท่องเที่ยว กทพ.จึงอยู่ระหว่างทบทวนรายละเอียดโครงการ และเตรียมเสนอให้คณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 แห่งพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 เป็นผู้พิจารณาแนวทางร่วมลงทุนที่เหมาะสม
ทั้งนี้เบื้องต้น กทพ.ได้ทบทวนและพบ 2 แนวทางเลือกที่เหมาะสม ประกอบด้วย 1.รอผลการศึกษาของโครงการทางพิเศษสายเมืองใหม่ – เกาะแก้ว – กะทู้ เพื่อเพิ่มแนวเส้นทางให้มีระยะทางยาวขึ้น และครอบคลุมทั้งโครงการ จูงใจเอกชนร่วมลงทุนมากขึ้น แต่แนวทางนี้จะทำให้ภาพรวมโครงการล่าช้าออกไป เพราะต้องรอผลการศึกษาสายเมืองใหม่ – เกาะแก้ว – กะทู้แล้วเสร็จจึงจะประมูลได้ และเมื่อได้ตัวเอกชนร่วมลงทุนจึงจะเริ่มงานก่อสร้างทั้งสายกะทู้- ป่าตอง และสายเมืองใหม่ – เกาะแก้ว – กะทู้ ดังนั้นอาจไม่ทันต่อเป้าหมายเปิดให้บริการรองรับจังหวัดภูเก็ตเป็นเจ้าภาพงาน Specialize Expo 2028 ในปี 2571
และ 2.กทพ.จะเดินหน้าเปิดประมูลก่อสร้างงานโยธา สายกะทู้ – ป่าตอง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นงานอุโมงค์ทางลอดที่ต้องใช้เวลาก่อสร้างจำนวนมาก และจะดำเนินการควบคู่ไปกับการร่างเอกสารประกวดราคาจัดหาเอกชนร่วมลงทุนบริหารทางพิเศษตลอดเส้นทางสายกะทู้ – ป่าตอง และสายเมืองใหม่ – เกาะแก้ว – กะทู้ หลังจากได้ตัวเอกชนแล้ว ทางเอกชนจะต้องจ่ายค่าก่อสร้างงานโยธาสายกะทู้ – ป่าตองคืนให้กับ กทพ.ซึ่งแนวทางนี้จะทำให้งานก่อสร้างคืบหน้าต่อเนื่อง และทันต่อการเปิดให้บริการในปี 2571
รายงานข่าวแจ้งว่าทั้ง 2 ทางเลือกที่การทางฯ จะเสนอให้กับคณะกรรมการ ม.36 พิจารณา คือ ควบรวมแนวเส้นทางทั้งสายกะทู้ – ป่าตอง และสายเมืองใหม่ – เกาะแก้ว – กะทู้ เพราะจะจูงใจเอกชนร่วมลงทุนมากกว่า และการทำให้ทั้งสองสายทางเป็นโครงการเดียวกัน เปิดประมูลจัดหาเอกชนร่วมลงทุนไปพร้อมกัน จะทำให้เกิดความคล่องตัวมากกว่า ส่วนจะใช้แนวทางใดก็ต้องอยู่ที่การพิจารณาของคณะกรรมการ ม.36 ว่าจะขัดต่อการร่วมลงทุนหรือไม่ แต่ในส่วนทางการทางฯ มองว่าโครงการนี้เร่งด่วน มีความจำเป็น และแนวทางที่ 2 คือการเริ่มประมูลงานก่อสร้างไปก่อนให้เอกชนมาจ่ายชดเชยภายหลังเป็นทางออกที่เหมาะสม
สำหรับโครงการสายกะทู้ – ป่าตอง กทพ.ได้ประกาศเชิญชวนเอกชนร่วมลงทุนไปเมื่อวันที่ 19 ธ.ค. 2565 ซึ่งเมื่อครบกำหนดการซื้อเอกสารสำหรับการคัดเลือกเอกชน ตั้งแต่วันที่ 26 ธ.ค.2565 ถึงวันที่ 25 ม.ค. 2566 ปรากฏว่ามีภาคเอกชน ประกอบด้วย บริษัทเอกชนไทยและบริษัทเอกชนต่างชาติ ให้ความสนใจซื้อเอกสารสำหรับการคัดเลือกเอกชนรวมทั้งสิ้น จำนวน 13 ราย แต่เมื่อถึงกำหนดยื่นข้อเสนอในวันที่ 7 เม.ย.2566 กลับไม่มีเอกชนรายใดเข้ายื่นข้อเสนอ
ทั้งนี้ กทพ.คาดว่ามีสาเหตุเนื่องจากสภาวะทางเศรษฐกิจอันเนื่องมาจากสถานการณ์ต่างๆ อาทิ โรคระบาดจากเชื้อไวรัส Covid-19 ที่ส่งผลกระทบระยะยาว สงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ยืดเยื้อ ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยปรับตัวสูงขึ้น ทำให้กระทบต่อต้นทุนการก่อสร้างจากเดิมเมื่อปี 2564 ได้ประมาณการไว้ในปีที่เริ่มก่อสร้างจำนวน 8,878 ล้านบาท เพิ่มขึ้นอีกประมาณร้อยละ 10 จึงทำให้ไม่จูงใจเอกชนในการตัดสินใจเข้าร่วมลงทุนโครงการเท่าที่ควร
สำหรับโครงการสายกะทู้ – ป่าตอง เป็นโครงการก่อสร้างทางยกระดับมีอุโมงค์อยู่ในช่วงกลางของแนวเส้นทาง ระยะทางรวม 3.98 กิโลเมตร และมีด่านเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทาง จำนวน 1 แห่ง โครงการดังกล่าวมีมูลค่าเงินลงทุนรวม 14,670.57 ล้านบาท ประกอบด้วย ค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน 5,792.24 ล้านบาท และค่าก่อสร้าง (รวมค่าควบคุมงาน) 8,878.34 ล้านบาท ทั้งนี้ กทพ.คาดการณ์ปริมาณจราจร ณ ปีเปิดให้บริการ ประมาณ 71,000 คันต่อวัน (รถยนต์ 36,000 คันต่อวัน รถจักรยานยนต์ 35,000 คันต่อวัน)
ทั้งนี้ในส่วนโครงการสายเมืองใหม่ – เกาะแก้ว – กะทู้ มีระยะทาง 30 กิโลเมตร มูลค่าลงทุน 35,800 ล้านบาท ประกอบด้วยค่าจัดกรรมสิทธิ์ 14,500 ล้านบาท ค่าก่อสร้าง 21,300 ล้านบาท โดยโครงการสายนี้เป็นเส้นทางเชื่อมต่อกับโครงการทางพิเศษสายกะทู้ – ป่าตอง จังหวัดเก็ต และผลการศึกษาเบื้องต้นพบว่ามีผลตอบแทนการลงทุนดี เพราะเป็นโครงข่ายทางเลือกในการเดินทางเชื่อมต่อระหว่างท่าอากาศยานภูเก็ตเข้าสู่แหล่งท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดได้อย่างสะดวก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
LH Bank จับมือ การทางพิเศษฯ ส่งฟีเจอร์ใหม่ “เติมเงิน Easy Pass” ผ่านแอป LHB You พิเศษลูกค้าใหม่ เพียงเปิดบัญชีมียอดฝากเงินและเติมเงิน รับเงินคืนสูงสุด 300 บาท
LH Bank ร่วมกับ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย ออกฟีเจอร์ใหม่ บริการเติมเงินบัตร Easy Pass ผ่านแอปพลิเคชัน LHB You เพื่อมอบความสะดวกสอดรับกับทุกไลฟ์สไตล์ทางการเงิน พร้อมมอบโปรโมชันพิเศษสำหรับลูกค้าใหม่ รับเงินคืนสูงสุด (Cash Back)
ข่าวดี 'วันพืชมงคล' 9 พ.ค. ยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษ 3 สาย
'วันพืชมงคล' 9 พฤษภาคม 2568 กทพ. ยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษ 3 สาย 'เฉลิมมหานคร ศรีรัช และบางปะอิน-ปากเกร็ด' รวม 61 ด่าน
5 ตำนานแข้งไทยจุดฝันเยาวชน ฟุตบอลปันสุข สนุกรอบสายทาง
ธงชาติไทยโบกสะบัด เสียงกองเชียร์ดังกระหึ่มกึกก้องทั่วทั้งสนาม เฮลั่นเมื่อได้ชัยชนะ คงเป็นภาพที่หลายคนเคยได้เห็นและสัมผัสประสบการณ์บรรยากาศการเชียร์ฟุตบอลไทย ซึ่งกว่าที่นักกีฬาทุกคนจะก้าวมาถึงวันนี้ได้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย วันนี้ขอคว้าตัว 5 หนุ่มแข้งไทยแห่งวงการฟุตบอล มาร่วมถ่ายทอดประสบการณ์ และสร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนใน โครงการ “ฟุตบอลปันสุข สนุกรอบสายทาง” ที่จัดขึ้นโดย บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BEM) ร่วมกับ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ส่งต่อความฝัน ส่งมอบความสุขให้กับเยาวชนรอบสายทาง


