พาณิชย์เผย ล้งภาคตะวันออกลุยรับซื้อทุเรียนใต้

กรมการค้าภายในเผยล้งจากภาคตะวันออกลงไปรับซื้อทุเรียนภาคใต้แล้ว สัปดาห์หน้าครอบคลุมพื้นที่ 80% ส่วนตลาดมรกต เปิดรับซื้อทันทีและไม่อั้น มั่นใจดันราคาอยู่ในเกณฑ์ดี ล่าสุดเกรดส่งออกกิโลกรัมละ 120-135 บาท เกรดคละ 80-90 บาท ระบุปีนี้ส่งออกฉลุย หลังตลาดจีน ไร้ปัญหา ทั้งการขนส่งทางเรือ ทางบก ย้ำเกษตรกรตัดทุเรียนคุณภาพ สมาคมผู้ค้าและส่งออกผลไม้ไทย ยืนยันปีนี้เป็นปีทองทุเรียนใต้ ส่งออกดี ดันราคาขยับต่อเนื่องแน่

19 มิ.ย. 2566 – นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ขณะนี้ผลผลิตทุเรียนภาคใต้ได้ออกสู่ตลาดแล้วประมาณ 6-7% และจะทยอยออกต่อเนื่องจากนี้ไป โดยกรมฯ ได้ติดตามและตรวจสอบสถานการณ์การรับซื้ออย่างใกล้ชิด เพื่อช่วยดูแลเกษตรกรให้ได้รับความเป็นธรรมในการซื้อขาย และยังได้ตรวจสอบไปยังผู้ประกอบการรับซื้อทุเรียนในภาคตะวันออก ที่ปัจจุบันผลผลิตจบฤดูกาลแล้ว ทราบว่า ได้ทยอยเดินทางไปรับซื้อผลผลิตทุเรียนในภาคใต้แล้ว และตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป จะเข้าไปครอบคลุม 80% และจะทยอยเพิ่มเติมเข้าไปเรื่อย ๆ ซึ่งมั่นใจว่าเมื่อช่วงผลผลิตออกมาก เกษตรกรจะมีที่ขายผลผลิตแน่นอน

ทั้งนี้ กรมฯ ยังได้ประสานความร่วมมือไปยังตลาดกลางซื้อขายสินค้าเกษตร เช่น ตลาดมรกต ซึ่งเป็นตลาดทุเรียนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศในส่วนของภาคใต้ มีปริมาณผลผลิตผ่านตลาดกว่า 5,000 ตัน/วัน ได้ยืนยันว่าตอนนี้ผู้ประกอบการรับซื้อส่งออกกว่า 50 ล้ง พร้อมที่จะซื้อทันทีและซื้อไม่อั้น รวมถึงผู้ประกอบการ ที่ซื้อไปจำหน่ายในประเทศ ห้องเย็น โรงงานแปรรูป กว่า 300 ราย ก็พร้อมที่จะเข้ามาซื้อ ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีกับทุเรียน โดยล่าสุดราคาทุเรียนเกรดส่งออก อยู่ที่ 120-135 บาท/กิโลกรัม (กก.) อยู่ในเกณฑ์ที่ดี และดีกว่าปีที่ผ่านมา และเกรดคละ ราคาอยู่ที่ 80-90 บาท/กก. ถือเป็นราคาที่อยู่ในเกณฑ์ดีเช่นเดียวกัน

นายวัฒนศักย์กล่าวว่า ตลาดทุเรียนหลักของไทย คือ จีน ซึ่งปีนี้ปัญหาการขนส่งไม่มี ไม่ว่าจะเป็นทางรถ ทางเรือ ถือว่าสะดวกมากขึ้น ซึ่งเป็นผลสำเร็จจากการประสานกับการท่าเรือแห่งประเทศไทย กระทรวงคมนาคม ให้ผ่อนปรนขนาดเรือ จากเดิมให้กว้างได้ไม่เกิน 300 เมตร เพิ่มขึ้นมาเป็นไม่เกิน 400 เมตร ทำให้มีปริมาณเรือและตู้สินค้าเข้ามามากขึ้น ขณะที่ทางบก นายกีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ได้เดินทางไปเปิดทางสะดวกในการขนส่งทุเรียนผ่านด่านทางบก ทั้งด่านทางสปป.ลาว และเวียดนามเข้าสู่จีน ทำให้ปีนี้ มีความสะดวกมากขึ้น ทำให้การส่งออกยังไปได้ดี

นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ยังได้จัดตั้งวอร์รูมเพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อดูแลทั้งด้านการขนส่ง การส่งออก ซึ่งหากมีปัญหาตรงไหนอย่างไร ทูตพาณิชย์และทูตเกษตร ก็พร้อมจะเข้าไปดูแลและแก้ไขปัญหาทันที ส่วนกรมฯ ได้ทำงานร่วมกับพาณิชย์จังหวัด ติดตามสถานการณ์การซื้อขายอย่างใกล้ชิด และลงพื้นที่ตรวจสอบการซื้อขายอย่างต่อเนื่อง

“กรมฯ ขอให้พี่น้องเกษตรกร ตัดผลผลิตทุเรียนที่สุกแก่และพอดี เพื่อให้ทุเรียนมีคุณภาพ และขายได้ราคาสูงขึ้น แต่หากเกษตรกรพบเห็นว่ามีการฉวยโอกาสกดราคา หรือพบพฤติกรรมที่เอารัดเอาเปรียบ ให้แจ้งเบาะแสด้านการค้าที่ไม่เป็นธรรมได้ที่สายด่วน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ จะเข้าไปตรวจสอบและดำเนินการกับผู้กระทำผิดตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด โดยมีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”นายวัฒนศักย์กล่าว
นายสัญชัย ปุรณะชัยคีรี นายกสมาคมผู้ค้าและส่งออกผลไม้ไทย กล่าวว่า ราคาทุเรียนภาคใต้ในปัจจุบัน อยู่ในเกณฑ์ที่ดี ราคาไม่ได้ตก เป็นไปตามกลไกตลาด และถือเป็นปีทองของทุเรียน ที่เกษตรกรจะขายผลผลิตได้กำไร โดยแนวโน้มสถานการณ์ราคาทุเรียนภายในประเทศยังทรงตัว ทุเรียนเกรด AB ซื้ออยู่ 120-125 บาท/กก. เกรด C ประมาณ 90-95 บาท/กก. เบอร์ตกไซส์โรงงานอยู่ที่ประมาณ 60-70 บาท/กก. แล้วแต่สภาพ ซึ่งผลผลิตทุเรียนใต้ชุดแรกกำลังจะหมด ชุดที่สองจะออกทิ้งห่างไปประมาณเดือนถึงเดือนครึ่ง ซึ่งจะออกเยอะช่วงเดือน ส.ค. ทั้งนี้ ในส่วนของราคาทุเรียนภาคใต้จะมีแนวโน้มสูงขึ้น หลังจากทุเรียนภาคตะวันออกหมด ขณะที่การส่งออกทุเรียนในภาพรวมพื้นที่ภาคตะวันออกและภาคใต้มีมากกว่า 100 ตู้ และอาจสูงถึง 150 ตู้ ในปัจจุบัน