
“อิ๊งค์” บุกสวนทุเรียนเมืองจันท์ รับฟังปัญหา ตัวแทนเกษตรกรเสนอดึง "ลิซ่า" ช่วยโปรโมตผลไม้ไทย หวังช่วยขยายฐานลูกค้า-เพิ่มยอดขาย นายกฯ ชวนประชาชนกินผลไม้ไทยเยอะๆ ให้กำลังใจเกษตรกร หลังผลผลิตปีนี้ออกมาก
เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2568 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะ ออกเดินทางจากกองบินตำรวจ ท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพฯ ไปยังสนามบินอำเภอท่าใหม่ (หมวดบิน 31 ฝูงบินทหารเรือ 3141) ตำบลเขาบายศรี อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี พร้อมด้วยนายอิทธิ ศิริลัทธยากร รมช.เกษตรและสหกรณ์, นายอัครา พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์, นายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์, น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่รับฟังปัญหาของเกษตรกรชาวสวนผลไม้
จุดแรกที่สวนรักตะวัน ตำบลสองพี่น้อง อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี ลงพื้นที่รับฟังปัญหาต้นทุนการผลิตและผลผลิตจากเกษตรกรชาวสวนผลไม้และผู้ประกอบการรับซื้อผลไม้ในพื้นที่ภาคตะวันออก และแนวทางการให้ความช่วยเหลือจากหน่วยงานภาครัฐ
เมื่อมาถึงนายกฯ รับฟังรายงานจากผู้ว่าฯ และรับฟังข้อเสนอจากตัวแทนเกษตรกร ที่ขอให้รัฐบาลสนับสนุนผู้ประกอบการทั้งชาวไทยและชาวจีน ด้วยการอำนวยความสะดวกให้ราบรื่น เช่น มีแล็บตรวจทุเรียนในพื้นที่หลักที่มีการผลิต เนื่องจากขณะนี้หลายประเทศมุ่งส่งทุเรียนเข้าประเทศจีน จึงต้องให้ความช่วยเหลือในส่วนนี้ และขอให้รัฐบาลใช้ซอฟต์พาวเวอร์ที่เป็นอินฟลูเอนเซอร์ชาวไทย เช่น ลิซ่า โปรโมตผลไม้ไทยเพื่อรักษากลุ่มลูกค้าเดิม และจะช่วยขยายฐานกลุ่มลูกค้าใหม่สูงกว่าเดิม เชื่อว่าจะทำให้ยอดขายผลไม้ไทยสูงกว่าเดิม จากปีละ 2-3 แสนล้านบาทเป็น 5 แสนล้านบาทได้แน่นอน รวมถึงให้เร่งช่วยแก้ปัญหาการส่งออกล่าช้า เนื่องจากมีตู้ค้างหน้าด่าน 700-1,000 ตู้ ทำให้ล่าช้า ซึ่งจากเดิมใช้เวลา 14 วัน แม้รัฐบาลจะดำเนินการแก้ปัญหาแล้ว แต่ยังคงใช้เวลา 8-12 วัน เราอยากจะให้เร็วขึ้น
จากนั้นนายกฯ กล่าวว่า วันนี้ดีใจอย่างมากที่ได้มาเจอชาวจันทบุรี วันนี้ตั้งใจจะมาพูดคุยกับชาวสวนทุกท่านว่าเจอปัญหาอะไรบ้าง และอยากรับฟังปัญหาที่ได้เจอจริงๆ ที่เกิดขึ้น รวมถึงรับฟังเรื่องของราคา ซึ่งเดี๋ยวจะขอไปดูรายละเอียดกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ว่าเป็นอย่างไรบ้างในเรื่องของราคาผลไม้ต่างๆ โดยภาพรวมมีผลไม้ล้นตลาด ซึ่งรัฐบาลนำเอกชนเข้ามาช่วยซื้อ เพื่อไม่ให้ราคาลดลงเยอะ และเพื่อไม่ให้สินค้าเน่าเสีย ได้ดำเนินการเรียบร้อยแล้ว และความจริงแล้วเราอยากจะสนับสนุนเรื่องของการวิจัยเพิ่มเติมในเรื่องของห้องแล็บ ตนได้ไปทุกจังหวัดทั่วประเทศ เน้นในเรื่องการวิจัย เพราะเราเป็นตัวท็อปในเรื่องการส่งออกปลาทะเลและกุ้งซึ่งตอนนี้ลดน้อยลง เพราะธรรมชาติเปลี่ยนไปและมีปัจจัยอื่นเข้ามา โดยเฉพาะเพื่อนบ้านมีการวิจัยที่ดี และพัฒนาโปรดักต์ให้ดีมากยิ่งขึ้น ทำให้ลูกค้ามาซื้อของดีคุณภาพสูงราคาถูก
"เรื่องนี้ดิฉันได้สั่งการในคณะรัฐมนตรีเรียบร้อยในเรื่องการทำวิจัยสินค้าส่งออกของไทย ตอนนี้ต้องรอการดำเนินการ เพราะการวิจัยคือการวางรากฐานสู่อนาคต โปรดักต์ของเราต้องพัฒนาขึ้น โลกเปลี่ยนไป ทุกอย่างเปลี่ยนไป ต้องพัฒนาศึกษาต่อคือสิ่งที่ไม่ปล่อยแน่นอน"
ต่อมาเวลา 12.30 น. ที่โรงแรมมณีจันท์รีสอร์ท ตำบลพลับพลา อำเภอเมืองฯ จังหวัดจันทบุรี น.ส.แพทองธารเยี่ยมชมบูธร้านอาหารที่ได้รับเครื่องหมาย Thai SELECT และรณรงค์การรับประทานผลไม้ไทยตามฤดูกาล เมื่อมาถึงมีมวลชนเสื้อแดงจำนวนหนึ่งมาให้การต้อนรับและมอบดอกกุหลาบสีแดงให้กำลังใจนายกฯ
จากนั้นนายกฯ กล่าวว่า วันนี้ได้มาเจอพี่น้องเกษตรกรชาวสวน ได้พูดคุยเรื่องการส่งออก ซึ่งความจริงแล้วผลไม้ไทยเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก อยากให้คนไทยทานผลไม้ไทยกันเยอะๆ เพราะทั่วโลกเขายกให้ผลไม้ไทยเป็นผลไม้ที่มีชื่อเป็น Kings of fruit และ Queen of fruit ดังนั้นขอให้ช่วยกันทานผลไม้กันเยอะๆ เพราะส่งออกเยอะแล้วก็อยากให้ในประเทศขายดีด้วย เพราะปีนี้ฝนตกเยอะหน่อย ผลผลิตออกมาค่อนข้างเยอะ ก็ขอเป็นกำลังใจให้เกษตรกรและชาวสวนทุกคน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บี้ผบ.ตร.เชือด‘2แพทย์’ สธ.หวั่นเปิดช่องร้องเรียน
"คปท." บุก ตร.บี้ "บิ๊กต่าย" สั่ง 2 แพทย์สีกากีเอี่ยวคดีชั้น 14
ปิดดีล1.57แสนล.กระตุ้นศก.
ปิดดีล! “คลัง” แจงคณะอนุกรรมการกลั่นกรองใช้งบ 1.57 แสนล้านบาท
‘อิ๊งค์’ขอตรงๆมท.ให้พท. ‘เสี่ยหนู’ยันทำหน้าที่เดิม
"อนุทิน" ขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าพบนายกฯ หารือ 1 ชม.ครึ่ง อ้างคุยเรื่องงาน
เรียก‘ภท.’แจงฮั้วสว. ขู่ฟ้องกลับชุดไต่สวน
"แกนนำ ภท." ยอมรับ กก.บห.รวมทั้ง "เนวิน" ได้รับหมายเรียกจาก กกต. ให้
ซัดเขมรผิดข้อตกลง นายกฯลั่นไม่ให้ใครใส่ร้ายข่มขู่! บิ๊กเล็กนำทีมไทยแลนด์ตอบโต้
“ในหลวง” พระราชทานสิ่งของเป็นกำลังใจแก่ทหาร กกล.สุรนารี ทภ.2 ที่ปฏิบัติหน้าที่ชายแดนไทย-กัมพูชา
นายกฯอิ๊งค์ ลั่นไทยไม่สื่อสารยั่วยุรายวัน ให้เกียรติมิตรประเทศคู่เจรจา
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กและทวิตผ่าน x ว่า จากจุดเริ่มต้นสถานการณ์ไทย-กัมพูชา เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 ดิฉันและทุกหน่วยงานภายใต้รัฐบาลไทย ยึดหลักสันติวิธีในการแก้ปัญหา