นายกฯ สุดปลื้มไทยผงาดส่งออกอาหารเลี้ยงสัตว์อันดับ 4 ของโลก!

โฆษกรัฐบาลเผย นายกฯ ยินดีผลประกอบการสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงของไทยครองใจตลาดโลก ส่งผลไทยเป็นผู้นำด้านการส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยงอันดับ 4 ของโลก และอันดับ 1 ในอาเซียน

22 มิ.ย.2566 - นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยินดีผลตัวเลขการส่งออกสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงของไทยเติบโตต่อเนื่อง เป็นผู้นำด้านการส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยงอันดับ 4 ของโลก และอันดับ 1 ในอาเซียน

โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า ตลาดการส่งออกสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงของไทยมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และยังครองใจผู้บริโภคในตลาดโลก โดยข้อมูลจากกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์พบว่า ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2566 (มกราคม – เมษายน 2566) ไทยมีมูลค่าการส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยงไปตลาดโลก 750 ล้านดอลลาร์ ทำให้ประเทศไทยขึ้นเป็นผู้นำด้านการส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยงอันดับ 4 ของโลก รองจากสหภาพยุโรป สหรัฐอเมริกา และจีน และเป็นอันดับ 1 ในอาเซียน ทั้งนี้ เป็นผลมาจากการใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรี (FTA) กับคู่ค้า ปลดล็อคกำแพงภาษีศุลกากร ผู้ประกอบการไทยสามารถขยายส่งออกไปตลาดต่างประเทศได้มากขึ้น โดยช่วง 4 เดือนแรก ของปี 2566 ไทยส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยงไปตลาดคู่ค้า FTA มูลค่า 432 ล้านดอลลาร์ คิดเป็นสัดส่วน 58% ของการส่งออกสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงทั้งหมด ซึ่งตลาดที่ขยายตัวต่อเนื่อง ได้แก่ ฟิลิปปินส์ กัมพูชา เมียนมา และเปรู

ทั้งนี้ สินค้าประเภทอาหารสัตว์เลี้ยงเป็นสินค้าที่น่าจับตามอง โดยมูลค่าตลาดสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงทั่วโลกสูงถึง 1 แสนล้านดอลลาร์ และมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 5% ต่อปี คาดว่าภายในปี 2572 จะมีมูลค่าถึง 1.7 แสนล้านดอลลาร์ สำหรับการส่งออกสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงของไทยไปตลาดโลกในปี 2565 มีมูลค่า 2,847 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 15% ซึ่งประเทศคู่ค้าที่สำคัญและมีการขยายตัวด้านการส่งออกได้ดีในปี 2565 เช่น สหรัฐอเมริกา อาเซียน สหภาพยุโรป และออสเตรเลีย โดยสินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ อาหารสำหรับสุนัขและแมว มีสัดส่วน 86% ของการส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยงทั้งหมด และอาหารสัตว์เลี้ยงอื่น ๆ มีสัดส่วน 13% ของการส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยงทั้งหมด

“นายกฯ ยินดีที่ตลาดการส่งออกสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงของไทยสดใส และยังมีโอกาสที่จะขยายตลาดส่งออกสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงได้เพิ่มมากขึ้นอีกในอนาคต พร้อมขอให้ผู้ประกอบการไทยพิจารณา ศึกษาแนวโน้ม และวางแผนการผลิตให้ตรงตามความต้องการของตลาด รวมถึงรักษามาตรฐานสินค้าให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล เพื่อให้สินค้าไทยครองใจผู้บริโภคในตลาดโลกอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ รัฐบาลยังคงปฏิบัติตามแนวทางการดำเนินนโยบายเจรจากับประเทศคู่ค้าที่มีอยู่อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเปิดเจรจา FTA ฉบับใหม่ ๆ กับประเทศคู่ค้าสำคัญ และคู่ค้าที่มีศักยภาพ เพื่อเพิ่มตลาดส่งออกอำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการไทย” นายอนุชากล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

”ภูมิธรรม“ ประกาศสุดยอดข้าวหอมมะลิ และข้าวสารไทยแห่งปี หนุนเกษตรกรและโรงสีรักษาคุณภาพขั้นสูง ขยายตลาดทั่วโลก

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานในงานประกาศผลและพิธีมอบรางวัลการประกวดข้าวหอมมะลิของประเทศไทย ประจำปี 2566 (ครั้งที่ 41) และรางวัลการประกวดข้าวสารคุณภาพดีเด่นแห่งประเทศไทยประจำปี พ.ศ. 2566 ซึ่งจัดโดยกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ในวันนี้ (24 เมษายน 2567)

'ชัย' ฟุ้งแค่ไตรมาสแรกต่างชาติลงทุนในไทยกว่า 3 หมื่นล้าน!

โฆษกรัฐบาล เผยนายกฯ ชื่นชมผลจากความสำเร็จรัฐบาล ไตรมาสแรกปี 2567 ต่างชาติลงทุนในไทยกว่า 3 หมื่นล้านบาท ส่งเสริมโอกาสการประกอบอาชีพ เพิ่มรายได้ให้คนไทย

พาณิชย์ตรวจเข้ม จับตาผู้ประกอบการรับซื้อข้าวเปลือกอย่างใกล้ชิด

นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ตามที่อธิบดีได้สั่งการให้ตรวจเข้มการรับซื้อสินค้าเกษตร ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของนายภูมิธรรม เวชยชัย

ต่างชาติขนเงินลงทุนในไทย 3.5 หมื่นล้าน ญี่ปุ่นยังเป็นอันดับ 1

พาณิชย์โชว์ไตรมาสแรกปี 2567 ต่างชาติลงทุนในไทย 35,902 ล้านบาท ญี่ปุ่นลงทุนอันดับหนึ่ง 19,006 ล้านบาท ตามด้วย สิงคโปร์ 3,294 ล้านบาท และฝรั่งเศส 3,236 ล้านบาท จ้างงานคนไทย 849 คน

พาณิชย์ แนะผู้ส่งออกศึกษา 5 เทรนด์บริโภคชาวจีนปี 67 ก่อนวางแผนผลิตสินค้าไปขาย

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เผย 5 เทรนด์การบริโภคของชาวจีนที่มาแรงในปี 67 เน้นใช้จ่ายอย่างฉลาด สุขนิยมเติมอารมณ์ฟิน แพงได้แต่อย่าแพงเกิน คอมเมิร์ซสตรีมมิ่งพลิกโฉมช่องทางธุรกิจ เศรษฐกิจระดับอำเภอเติบโตขึ้น แนะผู้ส่งออกไทยศึกษา และวางแผนในการผลิตสินค้าและบริการไปขาย