ท่องเที่ยวโลว์ซีซั่นกด 'ดัชนีที่พักแรม' ภาคเอกชนขอรัฐช่วย

“แบงก์ชาติ” เผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการที่พักแรม เดือน มิ.ย. 2566 ยังแผ่ว ชี้โลว์ซีซั่นพ่นพิษกดตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติชะลอ อ้อนรัฐผุดมาตรการลดค่าสาธารณูปโภค-มาตรการภาษี

5 ก.ค. 2566 – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้เปิดเผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการที่พักแรม ประจำเดือน มิ.ย. 2566 (Hotel business operator Sentiment Index) จากผู้ประกอบการที่พักแรม 120 แห่ง ระหว่างวันที่ 9-23 มิ.ย. 2566 ซึ่งจัดทำร่วมกันสมาคมโรงแรมไทย พบว่า อัตราการเข้าพักโดยเฉลี่ย อยู่ที่ 46%
ลดลงต่อเนื่องจากเดือนก่อน ตามการเข้าสู่ช่วงโลว์ซีซั่น (low season) ทำให้สัดส่วนลูกค้านักท่องเที่ยวต่างชาติปรับลดลง ซึ่งสัดส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ลดลงนั้น โดยส่วนใหญ่เป็นลูกค้าเอเชีย ตะวันออกกลาง และจีน ขณะที่สัดส่วนนักท่องเที่ยวไทยเพิ่มขึ้น ส่วนคาดการณ์อัตราการเข้าพักในเดือน ก.ค. 2566 นั้น โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 46%

สำหรับแนวโน้มไตรมาส 3/2566 นั้น โรงแรมส่วนใหญ่ประเมินว่าจะมีจำนวนลูกค้าใกล้เคียงกับไตรมาส 2/2566 โดยโรงแรมที่รับนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นหลัก คาดว่าจะมีลูกค้าเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2/2566 ในสัดส่วนที่มากกว่าโรงแรมที่รับนักท่องเที่ยวไทยเป็นหลัก

ทั้งนี้ จากแบบสำรวจกรณีหากมีการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ พบว่า โรงแรมเกือบทั้งหมด ราว 92% ระบุว่า ได้รับผลกระทบหากมีการปรับขึ้นค่าแรงขึ้นต่ำ มีเพียง 8% เท่านั้น ที่ระบุว่าไม่ได้รับผลกระทบ โดยแนวทางการปรับตัวของธุรกิจโรงแรม กว่า 60% จะมีการเพิ่มทักษะและหน้าที่ของแรงงาน, 58% ลดต้นทุนที่ไม่ใช่ค่าแรง, 49% ขึ้นราคาห้องพัก, 40% เปลี่ยนรูปแบบการจ้างงาน, 39% ใช้เทคโนโลยีทดแทนแรงงาน, 35% เลิกจ้างพนักงานบางส่วน, 34% ปรับสวัสดิการ, 33% ชะลอการลงทุนในโครงการใหม่ และมี 2% ที่ระบุว่า เลิกกิจการ

อย่างไรก็ดี ผู้ประกอบการในธุรกิจโรงแรมยังต้องการให้ภาครัฐออกมาตรการช่วยเหลือ อาทิ ลดค่าสาธารณูปโภค สนับสนุนมาตรการทางภาษี เช่น ลดภาษีนิติบุคคล ปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำตามสภาพเศรษฐกิจในแต่ละพื้นที่ และให้รัฐอุดหนุนเงินสมทบกองทุนประกันสังคมแทนนายจ้าง

เพิ่มเพื่อน