ก.ล.ต. กล่าวโทษบุคคลรวม 10 ราย ต่อ DSI กรณีตกแต่งงบการเงินของ STARK เปิดเผยข้อความอันเป็นเท็จในแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ และกระทำโดยทุจริตหลอกลวง
06 ก.ค.2566 – สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้ออกเอกสารข่าวฉบับที่ 116 / 2566 ระบุว่า ก.ล.ต. กล่าวโทษบริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (STARK) กรรมการอดีตกรรมการและอดีตผู้บริหารของ STARK รวม 10 ราย ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) กรณีร่วมกันกระทำหรือยินยอมให้มีการลงข้อความเท็จในบัญชีเอกสารของ STARK และบริษัทย่อย ในช่วงปี 2564 – 2565 เพื่อลวงบุคคลใด ๆ และเปิดเผยงบการเงินในแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายตราสารหนี้และร่างหนังสือชี้ชวนที่เชื่อได้ว่ามีการตกแต่งงบ รวมทั้งปกปิดความจริงในข้อมูล factsheet เสนอขายหุ้นกู้ STARK ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำโดยทุจริตหลอกลวง และทำให้ได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากประชาชนผู้ถูกหลอกลวง พร้อมกันนี้ได้ส่งเรื่องต่อไปยังสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.)
โดย ก.ล.ต.กล่าวโทษบุคคลดังต่อไปนี้ 1.บริษัท STARK 2.นายชนินทร์ เย็นสุดใจ 3.นายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ 4. นายชินวัฒน์ อัศวโภคี 5.นายศรัทธา จันทรเศรษฐเลิศ 6.นายกิตติศักดิ์ จิตต์ประเสริฐงาม 7.บริษัท เฟ้ลปส์ ดอด์จ อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) จำกัด (PDITL) 8.บริษัท ไทย เคเบิ้ล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (TCI) 9.บริษัท อดิสรสงขลา จำกัด และ 10.บริษัท เอเชีย แปซิฟิก ดริลลิ่ง เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด
ตามที่ปรากฏข้อเท็จจริงที่พิจารณาได้ว่า บุคคลข้างต้นได้ร่วมกันกระทำหรือยินยอมให้มีการลงข้อความเท็จ ทำบัญชีไม่ถูกต้อง ไม่เป็นปัจจุบัน หรือไม่ตรงต่อความเป็นจริง ในบัญชีหรือเอกสารของ STARK และบริษัทย่อย ในปี 2564 – 2565 เพื่อลวงบุคคลใด ๆ อีกทั้ง STARK มีการเปิดเผยในแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายตราสารหนี้และร่างหนังสือชี้ชวน โดยเปิดเผยงบการเงินที่เชื่อได้ว่ามีการตกแต่งงบการเงินดังกล่าว รวมทั้งปกปิดข้อความจริงในข้อมูลในส่วนสรุปข้อมูลสำคัญของตราสาร (factsheet) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแบบแสดงรายการข้อมูลสำหรับการเสนอขายหุ้นกู้ STARK ว่าได้มีการเข้าลงทุนในบริษัท LEONI Kabel GmbH และ LEONIsche Holding Inc แล้ว ทั้งที่ยังเข้าลงทุนในกิจการดังกล่าวไม่เสร็จเรียบร้อย ทั้งนี้ ปรากฏว่าหลังจากที่ STARK ได้รับเงินหุ้นกู้และเงินเพิ่มทุน พบการโอนเงินออกจาก STARK และบริษัทย่อยไปยังบริษัทหรือบุคคลอื่นซึ่งเกี่ยวข้องกับการตกแต่งงบการเงินด้วย
การกระทำของบุคคลรวม 10 รายข้างต้น เข้าข่ายเป็นความผิดตามมาตรา 312 และมาตรา 281/2 วรรค 2 ประกอบมาตรา 89/7 และมาตรา 89/7 ประกอบมาตรา 89/24 มาตรา 278 มาตรา 281/10 ประกอบมาตรา 300 มาตรา 306 และมาตรา 315 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 (แล้วแต่กรณี) ก.ล.ต.จึงกล่าวโทษบุคคลทั้ง 10 ราย ต่อ DSI เพื่อพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป พร้อมกันนี้ ก.ล.ต. ยังได้แจ้งการดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ ข้างต้นต่อสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ซึ่งเป็นความผิดมูลฐานตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
นอกจากกรณีที่กล่าวโทษในครั้งนี้ ก.ล.ต. ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบขยายผลไปยังกรณีอื่น ๆ ที่มีข้อสงสัยในเรื่องการทุจริต โดยจะประสานความร่วมมือกับ DSI ซึ่งหากดำเนินการแล้วเสร็จ จะมีการเปิดเผยให้ทราบต่อไป
ในการตรวจสอบเรื่องนี้ ก.ล.ต. ได้ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ปปง. DSI และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เป็นต้น ซึ่งได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดี
อนึ่ง การกล่าวโทษของ ก.ล.ต. เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของกระบวนการบังคับใช้กฎหมายทางอาญาเท่านั้น ภายใต้กระบวนการนี้ การพิจารณาวินิจฉัยว่าบุคคลใดเป็นผู้กระทำผิดกฎหมายเป็นขั้นตอนในอำนาจการสอบสวนของพนักงานสอบสวน การสั่งฟ้องคดีของพนักงานอัยการ ตลอดจนดุลพินิจของศาลยุติธรรม ตามลำดับ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ลาม!ปานเทพพาพยานปากเอกพบ DSIปูดมี คตง.เอี่ยวตึกถล่มด้วย
'ปานเทพ' พา 'พยานปากเอก' อดีตข้าราชการ สตง. เข้าให้ข้อมูลสำคัญ 'ดีเอสไอ' คดีตึกถล่ม ปูด มี 1 ใน 6 คตง. เกี่ยวข้อง ไม่ใช่แค่ สตง. เท่านั้น
'นายกฯอิ๊งค์' ไล่บี้ 'ตร.-DSI' ฟันคดีตึกถล่ม ใกล้ออกหมายจับคนผิด
นายกฯ เรียก ‘ตำรวจ-ดีเอสไอ’ แจงความคืบหน้าเหตุตึก สตง.ถล่ม แย้มใกล้ออกหมายจับคนผิดแล้ว จี้หน่วยงานเร่งส่งหลักฐานให้ ตร. ขอประชาชนมั่นใจรัฐบาลไม่ปล่อยแน่นอน
นายกฯ เรียก 'ทวี' แจงผลสอบตึกถล่ม พบปลอมลายเซ็นวิศวกรเพียบ
นายกฯ เรียกกระทรวงยุติธรรม รายงานความคืบหน้าคดีตึก สตง.ถล่ม 'ภูมิธรรม' เผยเริ่มคลี่คลาย พบปลอมลายเซ็นวิศวกรหลายคน
'ทวี' นำทีมDSI ถลก 'ไชน่าเรลเวย์ฯ' เจอพิรุธ 29 โครงการรัฐ 2.2 หมื่นล้าน จ่อออกหมายเรียก
'ทวี' นำทีม 'ดีเอสไอ' ถกนัดแรก คดีนอมินี บ.ไชน่า เรลเวย์ฯ ปมตึก สตง.ถล่ม พบรับงาน 29 โครงการรัฐ บีบราคาต่ำ รวมมูลค่า 2.2 หมื่นล้าน สัปดาห์หน้าจ่อหมายเรียกพยานกลุ่มแรก พร้อมเร่งล่าตัว 2 กรรมการคนไทย
สรรพากรร้องดีเอสไอ เอาผิดบริษัทจีน ขายเหล็กสร้างตึก สตง. ปลอมใบกำกับภาษีกว่า 200 ล้านบาท
พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองคดีคุ้มครองผู้บริโภค และในฐานะโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่า สำหรับการลงพื้นที่รวบรวมพยานหลักฐานในคดีดังกล่าว
อธิบดีดีเอสไอ ตั้งทีมสอบคนไทยเป็นนอมินีจีนสร้างตึก สตง. ล็อกเป้าเอาผิดฐานเดียวก่อน
“อธิบดีดีเอสไอ” รับคดีนอมินี บจก.ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 บริษัทผู้ก่อสร้างตึก สตง. 30 ชั้นถล่มจากเหตุแผ่นดินไหว เป็นคดีพิเศษแล้ว พร้อมเซ็นตั้งคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษกว่า 35 คน ลุยสอบสวนกรรมการผู้ถือหุ้นใหญ่ชาวไทยบังหน้ากรรมการตัวจริง