
เอกชน ชี้รัฐเบิกจ่ายงบปี 67 ช้า กระทบเงินลงทุนหาย 1.4 แสนล้านบาท ยอมรับทุกกลุ่มอุตสาหกรรมรองบรัฐหนุนเพราะส่งออกยังไม่ดี พร้อมจับตา 3 ปัจจัยหลังการโหวตนายกรัฐมนตรีคนใหม่
12 ก.ค. 2566 – นายอิศเรศ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองประธาน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยถึงประเด็นเรื่องการเบิกจ่ายงบประมาณของรัฐบาลปี 2567 ว่า หากล่าช้า 6 เดือนตามที่กระทรวงการคลังออกประเมิน และเงินลงทุนจะหายไป 1.4 แสนล้านบาท ย่อมกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากการใช้จ่ายจากภาครัฐถือเป็นเครื่องยนต์หลัก 1 ใน 2 ของประเทศนอกจากการท่องเที่ยวเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะที่เวลานี้การใช้จ่ายของเอกชนเองก็ค่อนข้างตึงตัว ไม่มีการลงทุนเพิ่มเติม ขณะที่ประชาชนเองก็มีปัญหาเรื่องหนี้ครัวเรือน
อย่างไรก็ดี จากการประชุมร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน หรือ กกร. ครั้งล่าสุด ที่ประชุมเองก็แสดงความเป็นห่วงเรื่องการใช้เงินงบประมาณจากภาครัฐ ต้องการให้มีการนำเงินดังกล่าวมากระตุ้นเศรษฐกิจ นำมาใช้จ่ายในสิ่งที่จำเป็น หรือเรียกว่าเป็นปัจจัยแห่งความหวังในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศอย่างแท้จริง ภาคอสังหาริมทรัพย์ในกลุ่มของสินค้าวัสดุก่อสร้าง ก็หวังให้ภาครัฐมีงบมาซ่อมแซมถนน สร้างโครงการอื่น เพราะหากไม่มีงบก็ขายสินค้าไม่ได้ เนื่องจากส่งออกก็ไม่ดี ในประเทศก็ไม่รู้จะขายให้กับผู้ใด
“ภาคเอกชนนั้น หากจะลงทุนเพิ่มเติมก็ต้องรอความชัดเจนจากรัฐบาล หากยังเป็นสถานการณ์ที่เลื่อนลอยก็จะไม่กล้าตัดสินใจลงทุน เวลานี้ต้องยอมรับตามตรงว่าค่อนข้างซีเรียสยิ่งเวลานี้การส่งออกก็ไม่ค่อยจะสู้ดีล่าสุดยังติดลบอยู่ 2% ก็จะยิ่งมีปัญหา โดยภาคการส่งออกปัจจุบันรอ 2 เรื่อง ได้แก่ รัฐบาลใหม่ที่จะเข้ามาช่วยหาตลาดใหม่ เพื่อกระจายสินค้าการเร่งทำ FTA เพือให้มีช่องทางในการส่งออกเพิ่มมากขึ้นหากรัฐบาลใหม่ยังไม่มา เศรษฐกิจก็จะไม่มีการขับเคลื่อน หรือเดินหน้าแบบล่าช้า เพราะข้าราชการประจำเองก็คงจะไปขับเคลื่อนไม่ได้อย่างแน่นอน การส่งออกก็จะยิ่งแย่”นายอิศเรศ กล่าว
นายอิศเรศ กล่าวถึงกรณีที่การโหวตนายกรัฐมนตรีวันที่ 13 ก.ค. ไม่ได้ และเกิดเหตุการณ์รุนแรงว่า ประเทศไทยจะได้รับผลกระทบอย่างแน่นอนทางด้านของความเชื่อมั่น รวมไปถึงเรื่องของเศรษฐกิจ ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าวจะมองได้ 3 มุม ได้แก่ 1.ปัจจุบันเศรษฐกิจยังมีความไม่แน่นอนอยู่มาก ที่ยังไม่สามารถก้าวผ่านไปได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเอลนีโญ หรือการส่งออกที่ยังติดลบ ซึ่งภาคธุรกิจเองมีความหวังว่าเมื่อมีรัฐบาลเข้ามาจะมีการขับเคลื่อนงบประมาณรายจ่ายของประเทศ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้
2.ระบบประชาธิปไตยที่สะท้อนเสียงของประชาชนจำนวนมาก ควรจะเป็นไปตามสิ่งที่ประชาชนต้องการ หากไม่ได้ จะมีโอกาสที่กระตุ้นให้กลุ่มที่สนับสนุนนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดทนายรัฐมนตรีเกิดการรวมตัว และ 3.สิ่งที่น่าห่วงคือกระแสที่สนุบสนุนนายพิธา ซึ่งหากมีการรวมตัวกันลงถนนและก่อให้เกิดความรุนแรง เอกชนมีความเป็นห่วงเรี่องความเชื่อมั่น หรือราคาหุ้นที่มีโอกาสจะหวั่นไหว
“ปัจจัยดังกล่าวเหล่านี้สิ่งที่จะกระทบเชื่อมั่นเอกชน เศรษฐกิจจะยิ่งชะลอตัวหากไม่มีการขับเคลื่อน เวลานี้ส่งออกติดลบ 2% หากรัฐบาลใหม่ยังไม่มา และรัฐบาลที่ควรจะเข้ามาบริหารกลับไม่เป็นไปตามนั้น หากสถานการณ์รุนก็เท่ากับย้อนกลับไปสู่เหตุการณืก่อนหน้านี้ที่มีม็อบ มองว่าเรื่องนี้ไม่ควรให้เกิด ควรจบในสภาฯ”นายอิศเรศ กล่าว
นอกจากนี้ หากมีความรุนแรงเกิดขึ้น ก็จะกระทบไปถึงเรื่องของการท่องเที่ยวที่มีการตั้งเป้าไว้ 30 ล้านคนในปีนี้ อีกทั้งช่วงนี้ก็ใกล้จะเข้าสู่ฤดูกาลแห่งการท่องเที่ยว หากทำให้นักท่องเที่ยวเกิดความกังวลเรื่องความเชื่อมั่น ย่อมกระทบต่อเศรษฐกิจ หรือจีดีพีของประเทศ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เอกชนขอนแก่นเผยขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท ถ้าทำจริงคนตกงานนับล้านคนแน่
นายวิฑูรย์ กมลนฤเมธ คณะอนุกรรมการพิจารณาค่าแรงจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า พรรคการเมืองมักจะใช้เรื่องค่าจ้างมาหาเสียง อย่าง 400 บาท
'ปานปรีย์' เผยเริ่มถกปรับฐานเงินเดือน ขรก.แรกเข้า ห่วงสมองไหลไปเอกชน
นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ต่างประเทศ ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน เป็นประธานการประชุมหารือข้อราชการเรื่องการปรับฐานเงินเดือนข้าราชการ โดยมีตัวแทนกระทรวงการคลัง เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคม
นายกฯพบเอกชนรายสำคัญฮ่องกง สร้างความเชื่อมั่นไทยมีแผนพร้อมรับนักลงทุน
นายกฯ พบภาคเอกชนรายสำคัญของฮ่องกง สร้างความเชื่อมั่น รัฐบาลมีแผนรองรับ อำนวยความสะดวกพร้อมรับนักลงทุนและภาคเอกชน
เอกชนไม่ปล่อยเกรดรัฐบาล เคาะคะแนนการทำงานพร้อมจับตานโยบายต่อเนื่อง
ผ่านการทำงานมาช่วงระยะหนึ่งของรัฐบาลยุค"เศรษฐา ทวีสิน" ที่เร่งทำผลงานกันอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการดูแลปากท้องประชาชน หรือแม้แต่การเร่งรัดงานที่ค้างคา
ปตท.สผ. เผย 6 เดือนทำรายได้ 1.4 แสนล้านบาท
ปตท.สผ. เผย 6 เดือนทำรายได้ 4,359 ล้านเหรียญสหรัฐ โวทำงานตามแผน ทั้งการเพิ่มอัตราการผลิตก๊าซโครงการจี 1/61 ช่วยบรรเทาผลกระทบด้านต้นทุนพลังงาน และการเดินหน้าพัฒนาพลังงานรูปแบบใหม่ พร้อมอนุมัติเงินปันผลระหว่างกาล 4.25 บาทต่อหุ้น
'พิธา' ขนทีมเศรษฐกิจก้าวไกล หารือสภาอุตสาหกรรมฯ
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วยทีมเศรษฐกิจพรรคก้าวไกล พบสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) นำโดย เกรียง